Connect with us

ระหว่างทองคำและ Bitcoin ควรเลือกลงทุนกับอะไร?

พิจารณาเหตุผลในการเลือกลงทุน ระหว่างตลาดดั้งเดิมหรือตลาดใหม่

ทางเลือกเดิมหรือทางเลือกใหม่

วิธีการดั้งเดิมที่เหล่านักลงทุนมักจะป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้นนั้น คือการย้ายไปตลาดทองคำ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับการเป็นหลุมหลบภัยทางการเงิน แต่ในขณะเดียวกันก็มีทางเลือกใหม่ที่กำลังท้าทายวิธีการดั้งเดิม และสิ่งนั้นได้เปิดตัวเมื่อปี 2009 ในฐานะสกุลเงินที่จะนำพาไปสู่ยุคใหม่ของสกุลเงินดิจิทัลที่ชื่อว่า “Bitcoin” ซึ่งมีคุณสมบัติมากมายของสกุลเงินที่รวบรวมเอาไว้ แต่มีคุณสมบัติพิเศษบางอย่างที่ Bitcoin สามารถเป็นหลุมหลบภัยของตลาดการเงินได้เช่นเดียวกัน แต่ในท้ายที่สุดแล้วก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของนักลงทุนแต่ละรายที่จะพิจารณาว่า Bitcoin เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่เหมาะสมหรือไม่ในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินมีปัญหา โดยข้อมูลด้านล่างต่อไปนี้จะทำการเปรียบเทียบความปลอดภัยระหว่างทองคำและ Bitcoin

จุดเด่น

  • ทองคำและ Bitcoin มีตลาดเฉพาะของตัวมันเองที่มีสภาพคล่องสูง
  • ทองคำและ Bitcoin นั้นต่างก็เป็นทรัพยากรที่หายาก หลายคนจึงเรียก Bitcoin ว่า “Digital Gold” หรือ “ทองคำดิจิทัล”
  • Bitcoin มีความผันผวนเฉพาะตัวที่ทองคำไม่มี

ทองคำ

มีหลายปัจจัยด้วยกันที่ทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีทั้งความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง มีคุณค่าเป็นวัตถุสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เครื่องประดับ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น และรวมไปถึงความยากในการค้นหา ซึ่งอุปทานของทองคำยังคงอยู่ในอัตราที่ต่ำเมื่อเทียบกับอุปสงค์ในตลาดโลก และแน่นอนว่าทองคำนั้นไม่สามารถผลิตได้เองเหมือนบริษัทที่ทำการออกหุ้นตัวใหม่ หรือธนบัตรที่พิมพ์โดยธนาคารกลาง โดยทองคำนั้นจะต้องขุดขึ้นมาจากพื้นดินและทำการแปรรูปเท่านั้น
ดังนั้นทองคำแทบไม่มีความเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น สกุลเงิน และดัชนีหุ้น (เช่น S&P500) เป็นต้น โดยโลหะมีค่านี้เคยได้ถูกตรึงมูลค่าไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจนถึงปี 1971 จนเมื่อประธานาธิบดี Nixon ได้ประกาศยุติความสัมพันธ์ระหว่างสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและทองคำที่เป็นฐานเงินทุนสำรอง นับตั้งแต่นั้นมาบรรดานักลงทุนในตลาดหุ้นที่พยายามหลีกเลี่ยงความผันผวนก็ได้เข้ามาลงทุนในทองคำมากขึ้น ซึ่งทองคำช่วยลดผลกระทบดังกล่าวได้ หรือแม้กระทั่งสามารถให้ผลกำไรเมื่อตลาดหุ้นมีการปรับฐานใหม่หรือหากหุ้นตกอย่างน้อย 10% อีกด้วย

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทองคำมักจะทำงานได้ดีระหว่างที่ตลาดหุ้นกำลังปรับฐาน เพราะถึงแม้ว่ามันจะไม่จำเป็นต้องมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม แต่สินทรัพย์ใดที่ยังคงนิ่งในขณะที่สินทรัพย์อื่น ๆ กำลังลดมูลค่าลงนั้นก็ค่อนข้างมีประโยชน์ในการป้องกันความเสี่ยงได้มาก และนอกจากนี้นักลงทุนจำนวนมากที่หนีมาจากตลาดหุ้นเพื่อเข้ามาลงทุนในทองคำแล้วนั้น จึงสามารถผลักดันราคาทองคำให้สูงขึ้นได้เช่นเดียวกัน

Bitcoin

Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain เป็นรากฐานการทำงาน และตัวมันเองก็มีคุณสมบัติบางอย่างร่วมกับทองคำด้วยเช่นเดียวกัน โดยอันที่จริงนั้นหลายคนก็เรียก Bitcoin ว่า “Digital Gold” หรือ “ทองคำดิจิทัล” อีกด้วย ซึ่งผู้เข้าร่วมตลาดอาจจำได้ว่าในปี 2017 ราคาของ Bitcoin นั้นสูงกว่าทองคำปริมาณหนึ่งทรอยออนซ์เป็นครั้งแรก และในปี 2021 นี้ราคาของ Bitcoin ได้แตะระดับสูงสุดกว่า $64,000 ด้วยกัน ซึ่งอาจเกิดคำถามได้ว่าในความจริงนั้น Bitcoin มีค่ามากขนาดไหน? และที่สำคัญนักลงทุนในตลาดหุ้นควรพิจารณาการลงทุนใน Bitcoin หรือไม่?

เช่นเดียวกันกับทองคำ Bitcoin นั้นมีจำนวนจำกัดที่ Satoshi Nakamoto นามแฝงของบุคคลที่สร้าง Bitcoin ได้กำหนดไว้อยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ และทั้งคู่ก็ไม่ได้ออกโดยธนาคารกลางหรือรัฐบาลกลาง ซึ่งในฐานะที่เป็นสกุลเงินดิจิทัลแบบกระจายอำนาจ Bitcoin ใหม่จะถูกสร้างขึ้นด้วยพลังการคำนวณของนักขุดที่เป็นบุคคลหรือกลุ่มบุคคลก็ได้ โดยจะทำงานเพื่อตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนเครือข่าย Bitcoin และจะได้รับรางวัลเป็น Bitcoin ที่เกิดใหม่ในบล็อกล่าสุด รวมกับค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่อยู่บนบล็อกนั้น

มีการกำหนดอัตราการเกิดใหม่ของ Bitcoin ให้น้อยลงเป็นครึ่งหนึ่งทุก ๆ 4 ปี ซึ่งโปรโตคอลของ Bitcoin ได้กำหนดไว้ว่า Bitcoin เหรียญสุดท้ายจะถูกขุดออกมาในปี 2140 หรืออาจนานกว่านั้นเล็กน้อย

“Bitcoin เปรียบสเมือนทองคำในโลกดิจิทัล”

เปรียบเทียบระหว่างทองคำและ Bitcoin

เป็นเวลากว่าหลายร้อยปีด้วยกันที่ทองคำได้ครองตำแหน่งสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยที่สุด และในขณะที่ Bitcoin นั้นได้เปิดตัวขึ้นมาเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้วและเพิ่งได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ โดยข้อมูลต่อไปนี้จะทำการเปรียบเทียบตัวเลือกการลงทุนทั้งสองแบบ ดังนี้

ความโปร่งใส ความปลอดภัย และความถูกต้องตามกฎหมาย
ระบบการแลกเปลี่ยน การชั่งน้ำหนัก และการติดตามได้ของทองคำนั้นไม่เคยมีมาก่อนในยุคแรกเริ่ม และเป็นเรื่องยากมากที่จะขโมย ส่งต่อทองคำปลอม หรือทำให้ทองคำเสียหาย โดยตัว Bitcoin นั้นไม่สามารถทำให้เสียหายได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากระบบเข้ารหัส การกระจายอำนาจ และอัลกอริธึมที่ซับซ้อน แต่หากพูดถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยนั้นถึงจะมีอยู่แต่ก็ยังไม่เข้าที่อย่างสมบูรณ์ โดยมีเหตุการณ์จากเว็บเทรดในตำนานที่ชื่อว่า “Mt.Gox” ที่ทางเว็บไซต์ต้องหา Bitcoin จำนวน 150,000 Bitcoin มาคืนให้แก่ลูกค้า เนื่องจากเหตุการณ์ก่อกวนการแลกเปลี่ยนบนเว็บไซต์จึงทำให้ Mt.Gox ได้รับความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 460 ล้านดอลลาร์ แต่หลายปีต่อมาก็ได้ทำการแก้ไขเรื่องความปลอดภัยบนเว็บไซต์ Mt.Gox แล้ว นอกจากนี้ในแง่ของกฎหมายนั้น กลับไม่สามารถทำการติดตาม Bitcoin ที่หายไปได้เลย เนื่องจากโปรโตคอลของมันได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าไม่สามารถย้อนรอยหรือคืนค่ารายการธุรกรรมได้

ความหายาก
ทั้งทองคำและ Bitcoin นั้นต่างก็เป็นทรัพยากรที่หายากเหมือนกัน โดย Bitcoin จะมีโปรโตคอลที่กำหนดให้มีการลดรางวัลลงครึ่งหนึ่งทุก 4 ปี เพื่อให้มั่นใจได้ว่า Bitcoin ทั้ง 21 ล้านเหรียญจะถูกหมุนเวียนครบทั้งหมดภายในปี 2140 และในขณะที่เราทราบว่า Bitcoin มีเพียง 21 ล้านเหรียญ แต่เรากลับไม่อาจทราบได้ว่าทองคำทั้งหมดบนโลกจะถูกขุดขึ้นมาครบเมื่อใด และนอกจากนี้ยังมีการคาดเดาว่าทองคำสามารถขุดได้จากดาวเคราะห์นอกโลกได้อีกด้วย ซึ่งมีบางบริษัทที่ต้องการพิสูจน์สิ่งนี้ในอนาคตด้วยเช่นเดียวกัน

มูลค่าพื้นฐาน
ในอดีตนั้นมีการใช้งานทองคำหลายอย่าง ตั้งแต่สินค้าหรูหรา เช่น เครื่องประดับ ไปจนถึงการใช้งานเฉพาะทางในทางทันตกรรม อิเล็กทรอนิกส์ และอื่น ๆ อีกมากมาย จึงทำให้มูลค่าพื้นฐานของทองคำเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นสิ่งมีค่ามาก ไม่ว่าจะเปลี่ยนผ่านมากี่ยุคสมัยก็ตาม ในทางกลับกันสำหรับ Bitcoin ที่นอกเหนือจากการมุ่งเน้นไปยังการใช้งานเทคโนโลยี Blockchain แล้วนั้น Bitcoin เองก็มีมูลค่าพื้นฐานที่มหาศาลเช่นกัน เนื่องจากมีผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลกที่ไม่สามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านการธนาคาร และระบบทางการเงินแบบดั้งเดิม เช่น สินเชื่อ เป็นต้น แต่ด้วยคุณสมบัติของ Bitcoin จึงทำให้บุคคลเหล่านี้สามารถส่งมูลค่าไปทั่วโลกโดยแทบไม่มีค่าธรรมเนียมได้อีกด้วย แต่ในขณะเดียวกันศักยภาพที่แท้จริงของ Bitcoin ในการเป็นช่องทางทางการเงินสำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบธนาคารดั้งเดิมนั้นก็ยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่เท่าที่ควร

สภาพคล่อง
ทั้งทองคำและ Bitcoin มีตลาดเฉพาะของตัวมันเองที่มีสภาพคล่องสูง และสามารถแลกเปลี่ยนมูลค่าเป็นสกุลเงินดั้งเดิมได้เช่นเดียวกัน

ความผันผวน
ข้อกังวลหลักประการหนึ่งสำหรับนักลงทุนที่มองหา Bitcoin เพื่อให้มันเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยนั่นก็คือ ความผันผวน ซึ่งต้องดูประวัติราคาย้อนหลังของ Bitcoin ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณา โดยจุดสูงสุดครั้งก่อนประมาณต้นปี 2018 อยู่ที่ประมาณ $20,000 ต่อ 1 Bitcoin และในช่วงหนึ่งปีต่อมาราคาของ 1 Bitcoin ร่วงลงไปที่ $4,000 แต่ในท้ายที่สุดเมื่อกลางปี 2021 ที่ผ่านมานี้ Bitcoin ได้แตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่อยู่ที่ประมาณ $64,000 ด้วยกัน
นอกจากความผันผวนโดยรวมแล้ว Bitcoin ได้พิสูจน์ตัวเองว่าตัวมันเองนั้นอยู่ภายใต้ความต้องการของตลาดและข่าวสารต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคริปโตจำนวนมากมีชื่อเสียงโด่งดังและได้ทำราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ข่าวสารในแวดวงคริปโตเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และได้ส่งผลไปสู่การขึ้นลงของราคา Bitcoin ที่รวดเร็วอีกด้วยเช่นเดียวกัน โดยความผันผวนนี้ไม่ได้มีอยู่ในทองคำด้วยเหตุผลที่กล่าวไว้ข้างต้น จึงทำให้ทองคำอาจดูเหมือนเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยกว่า

แต่อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเปิดตัวคริปโตทางเลือก (Altcoin) จำนวนหนึ่งที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มีเสถียรภาพมากกว่า Bitcoin ตัวอย่างเช่น Tether ที่เป็นหนึ่งในสิ่งที่เรียกว่า “Stablecoin” โดยจะผูกตรึงมูลค่าของ Tether ไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในลักษณะเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับทองคำก่อนปี 1970 ซึ่งนักลงทุนที่มองหาความผันผวนน้อยกว่า Bitcoin นั้นสามารถพิจารณา Stablecoin เอาไว้เป็นทางเลือกต่อไปได้อีกด้วย

นอกเหนือจาก Bitcoin แล้วก็ยังมี Stablecoin สามารถเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมได้เช่นกัน

ประเภทของประกันรถยนต์

ประกันชั้น 1

เพิ่มเติม

ประกันชั้น 2+

เพิ่มเติม

ประกันชั้น 3+

เพิ่มเติม

พ.ร.บ.รถยนต์

เพื่มเติม

ทิปดีๆ เกี่ยวกับประกันรถยนต์

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันรถยนต์

เพิ่มเติม

วิธีคำนวนเบี้ยประกันรถยนต์

เพิ่มเติม

ทำอย่างไรให้ได้เบี้ยประกันลดลง

เพิ่มเติม

ประกันที่เหมาะกับมือใหม่

เพิ่มเติม

หลังเกิดอุบัติเหตุรถชน ควรทำอย่างไร

เพิ่มเติม

เมาแล้วขับ

เพิ่มเติม

ไม่เคลม รับส่วนลดเบี้ยประกัน

เพิ่มเติม

รถมีประกันหรือเปล่า

เพิ่มเติม

ทิปดีๆ เกี่ยวกับประกันรถยนต์

รถยนต์สำหรับคนขับอายุน้อย

เพิ่มเติม

ต่อประกันรถยนต์อัตโนมัติ

เพิ่มเติม

ประกันรถยนต์สำหรับคนขับอายุน้อย

เพิ่มเติม

ประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่มือใหม่

เพิ่มเติม

การแจ้งเคลมประกันรถยนต์หลังเกิดอุบัติเหตุ

เพิ่มเติม