ทำความรู้จักกับ 1inch (1INCH)
แพลตฟอร์ม DEX ที่ทำการรวบรวม DEX กว่า 21 แห่งให้กับผู้ค้า
แพลตฟอร์ม DEX ที่ทำการรวบรวม DEX กว่า 21 แห่งให้กับผู้ค้า
1inch เป็นแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนที่ทำการรวบรวมบรรดา Decentralized Exchange หรือ DEX เพื่อทำการสแกนในการค้นหาราคาคริปโตที่มีเรทราคาต่ำที่สุด ซึ่งการทำงานของมันขับเคลื่อนโดยโทเคนประจำเครือข่ายที่ใช้ชื่อว่า “1INCH” ที่เป็นทั้ง Utility Token และ Governance Token อีกด้วย อีกทั้งยังเปิดใช้งานโมเดลที่เรียกว่า “Instant Governance” หรือ “การกำกับดูแลแบบเร่งด่วน” เป็นการกระจายอำนาจของแพลตฟอร์ม และอำนวยความสะดวกในการขุดสภาพคล่อง (Liquidity Mining) ผ่านกระบวนการ Staking โทเคนบนเครือข่าย
1inch เปรียบเสมือนเครื่องมือที่ทำการรวบรวมแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Exchange: DEX) เพื่อทำการสแกนค้นหาราคาคริปโตที่มีเรทต่ำที่สุดให้แก่ผู้ค้า และเพื่อให้เข้าใจถึงคุณค่าระบบการทำงานของ 1inch นั้น คุณต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดโดยรวมของคริปโตในระดับหนึ่งก่อนว่า ตลาดรองหรือที่เรียกว่าการแลกเปลี่ยน (Exchange) นั้นมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัลทุกประเภท ที่มันทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการโอนโทเคน หรือโอนมูลค่าระหว่างฝ่ายต่าง ๆ โดยการแลกเปลี่ยนหรือ Exchange นั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ที่ขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ การแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์อำนาจ (Centralized Exchange) และการแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์อำนาจ (Decentralized Exchange)
การแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์อำนาจ (Centralized Exchange) หรือเรียกสั้น ๆ ได้ว่า “CEX” เป็นหนังสือสั่งซื้อรูปแบบหนึ่ง (Order Book) ที่จะจับคู่ผู้ซื้อและผู้ขายในตลาดเปิด (Open Market) ซึ่งบรรดาแพลตฟอร์มเหล่านี้จะดูแลสินทรัพย์ของคุณผ่านการถือครองสินทรัพย์ไว้ใน Exchange Wallet และในทางตรงการข้ามนั้น การแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์อำนาจ (Decentralized Exchange) หรือที่เรียกสั้น ๆ ได้ว่า “DEX” จะใช้ประโยชน์จาก Smart Contract ในการดำเนินการด้วยตนเอง เพื่อจับคู่และดำเนินธุรกรรมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า DEX จะให้ความปลอดภัยและความเป็นอิสระที่มากกว่าการใช้งาน CEX แต่อาจประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องได้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Slippage” ที่หมายถึงความไม่มีประสิทธิภาพในการกำหนดราคา ที่ส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อนระหว่างราคาจริงได้ (ก่อนสร้างคำสั่งซื้อเห็นราคาหนึ่ง แต่เมื่อดำเนินการสั่งซื้อกลับได้อีกราคาหนึ่ง)
แพลตฟอร์มที่ทำการรวบรวม DEX อย่าง 1inch มีจุดมุ่งหมายที่จะเพิ่มสภาพคล่องให้กับกลุ่มสภาพคล่อง (Liquidity Pool) ด้วยการสแกนหา DEX ในช่วงต่าง ๆ เพื่อค้นหาราคาตลาดที่ต่ำที่สุดที่จะสามารถอำนวยความสะดวกในการซื้อขายได้ และดังที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ในการแยกความแตกต่างระหว่างการทำงานของ DEX และ CEX คุณอาจสังเกตเห็นแล้วว่าการทำงานของ 1inch มีผลต่อสภาพคล่องอย่างไรบ้าง
ต้องทราบก่อนว่าแพลตฟอร์มแบบ CEX นั้นเปรียบเสมือนศูนย์รวมกิจกรรมการซื้อขายทั้งหมดไว้ในตลาดกลางแห่งเดียว ซึ่งประโยชน์ของโครงสร้างรูปแบบดังกล่าวนี้คือ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงคู่ค้าได้มากขึ้น และเมื่อมีผู้ซื้อและผู้ขายเข้ามารวมกันมากขึ้น จึงทำให้ผู้ค้าสามารถเข้าหรือออกจากตำแหน่งซื้อขายได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงราคาที่ต้องการก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่า ดังนั้นการลงทุนของพวกเขาจึงมีสภาพคล่องมากกว่า หรือเปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่า ซึ่งสภาพคล่องที่สูงเช่นนี้จึงเป็นสิ่งที่ดีกว่า เพราะช่วยให้ผู้ค้ามีความคล่องตัวและสามารถตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของตลาดได้ดีกว่า หมายความว่า สภาพคล่องที่ดีก็จะช่วยป้องกันแรงกดดันด้านลบของตลาดได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวของเงินที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดอีกด้วย
เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างการแลกเปลี่ยนแบบ CEX และ DEX แล้วนั้น จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของกลยุทธ์โปรโตคอลที่ใช้งาน เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีสภาพคล่องโดยไม่จำเป็นต้องมีผู้รับฝากสินทรัพย์ส่วนกลางก็ได้ และในกรณีที่ไม่มีกลไกการจับคู่คำสั่งซื้อแบบ CEX นั้น แพลตฟอร์ม DEX จำนวนมากได้ใช้ประโยชน์จาก “ผู้ดูแลสภาพคล่องอัตโนมัติ” หรือ “Automated Market Maker (AMM)” ที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการธุรกรรมใด ๆ ก็ตามผ่านกลุ่มสภาพคล่อง (Liquidity Pool)
โดยบรรดากลุ่มดังกล่าว ทำงานได้ด้วยการใช้ Smart Contract ที่มีการกำหนดเงื่อนไขของคู่ซื้อขายแต่ละคู่เอาไว้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนเครือข่ายนั้นจะมีค่าธรรมเนียมหรือค่าแก๊สที่ผันผวนในช่วงที่เครือข่ายแออัด จึงทำให้ค่าแก๊สจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และส่งผลให้กิจกรรมการซื้อขายไม่น่าดึงดูดใจ อีกทั้งยังสร้างแรงกดดันด้านลบต่อสภาพคล่องได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้เครือข่าย Blockchain จำนวนมากไม่สามารถรองรับปริมาณการซื้อขายที่สำคัญเพื่อให้ได้สภาพคล่องเชิงลึกได้ โดยส่วนมากจะพบเห็นบ่อยในแพลตฟอร์ม CEX เนื่องจากปริมาณการซื้อขายที่สำคัญ มักเป็นปริมาณที่สูงมากจึงอาจทำให้กลไกตลาดภายในแพลตฟอร์มเกิดการชะงักได้ รวมไปถึงคำสั่งซื้อต่าง ๆ ที่มีปริมาณน้อยกว่าอาจไม่ได้รับการอนุมัติได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีปัญหาอีกประการหนึ่งที่แพลตฟอร์ม DEX เช่น Binance Chain และ Solana ต้องการหลีกเลี่ยงค่าแก๊สที่สูงเกินไปบนเครือข่าย Ethereum ด้วยการใช้ “Atomic Swap” โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวระบุว่าไม่สนับสนุนโทเคน ERC-20 นั่นจึงทำให้เกิดข้อจำกัดต่อการใช้งาน เนื่องจากคริปโตส่วนใหญ่ที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดขณะนี้ ต่างก็พัฒนาตามมาตรฐาน ERC-20 ทั้งสิ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าข้อบกพร่องหรือปัญหาส่วนใหญ่เหล่านี้มาจากแพลตฟอร์ม CEX (อาจจะมี DEX บางส่วน) ดังนั้นโปรโตคอลของ 1inch อย่าง “DEX aggregator” จะช่วยเปิดทางให้กับเหล่านักลงทุนที่เน้นย้ำถึงความต้องการที่จะใช้งานแพลตฟอร์มที่กระจายอำนาจอย่างแท้จริง
“อุปทานทั้งหมดของโทเคน 1INCH จะถูกปลดล็อกครบทั้งหมดในวันที่ 30 ธันวาคม 2024”
ความคลาดเคลื่อนของราคาหรือ Slippage จะเกิดขึ้นเมื่อมีปริมาณซื้อขายที่ไม่เพียงพอ ที่จะส่งผลให้มีการซื้อสินทรัพย์มากกว่าที่คาดไว้ หรือการขายสินทรัพย์น้อยกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก โดยโปรโตคอล DEX aggregator จะช่วยรวบรวมสภาพคล่องผ่านแพลตฟอร์ม DEX ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่กันและกัน อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิด Slippage ได้อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น สมมติว่านักลงทุนสถาบัน (Institutional Investor) ต้องการซื้อ 1,000 BTC ที่ราคา $50,000/BTC (หมายความว่าต้องจ่าย $50 ล้าน) แต่เมื่อดำเนินคำสั่งซื้อกลับได้ในราคาที่ตั้งไว้แค่จำนวน 500 BTC เท่านั้น เนื่องจากราคาได้เคลื่อนไปที่ $50,500 แล้ว หมายความว่ายังมีคำสั่งซื้อจำนวน 500 BTC ที่เหลือนั้นจะถูกย้ายไปที่คำสั่งถัดไปที่ราคา $50,500 ดังนั้นในกรณีนี้ผู้ซื้อต้องจ่ายเงินเพิ่มถึง $250,000 ($500/BTC x 500 BTC) หรือเป็นจำนวน $50,250,000 ซึ่งมากกว่าที่ตั้งใจไว้และสิ่งนี้คือ Slippage ที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามโปรโตคอลของ 1inch จะช่วยหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าวได้ ด้วยการรวบรวมกิจกรรมซื้อขายเข้าด้วยกันในหลายแพลตฟอร์ม รวมไปถึงเป็นการรวมสภาพคล่องและเพิ่มประสิทธิภาพของตลาดได้อีกด้วย
ในเดือนพฤศจิกายน 2020 แพลตฟอร์ม 1inch ได้เปิดตัวโปรโตคอล V2 ที่จะทำให้สามารถแลกเปลี่ยนผ่านแพลตฟอร์ม DEX ได้ถึง 21 แห่งด้วยกัน และนอกเหนือจากการป้องกันเหตุการณ์ Slippage ของการซื้อขายแต่ละรายการแล้วนั้น โปรโตคอลนี้ยังช่วยยับยั้งความผันผวนของราคาทางอ้อมในระบบนิเวศของ DEX ที่กว้างขวางขึ้นด้วยการเพิ่มสภาพคล่องในตลาดที่มากกว่าที่มีอยู่เดิมอีกด้วย
ขณะนี้มีอุปทานหมุนเวียนในตลาดอยู่ที่ 180 ล้านโทเคน
สภาพคล่องบนเครือข่าย 1inch ได้รับการสนับสนุนโดย “1inch Liquidity Protocol” ซึ่งเป็น AMM รูปแบบหนึ่งที่จะใช้ความสมดุลจริงของราคาเพื่อลดการสูญเสียที่ไม่ถาวร โดยผู้ใช้จะได้รับผลประโยชน์จากการให้โทเคนของตนเองเป็นสภาพคล่องบนแพลตฟอร์ม 1inch — เป็นกระบวนการที่เรียกว่า “การขุดสภาพคล่อง (Liquidity Mining)” โดยผู้ค้าจะจัดหาสินทรัพย์ (เช่น ETH) ให้กับกลุ่มเฉพาะ จากนั้นทำการล็อคไว้กับกลุ่ม และจะได้รับโทเคน 1INCH เป็นรางวัล — ซึ่งรูปแบบดังกล่าวนั้นคล้ายกันกับการทำงานของโทเคน DEX ทั่วไป เช่น UNI ของแพลตฟอร์ม Uniswap ที่จะช่วยกระตุ้นการจัดหาสภาพคล่องให้กับชุมชนในเครือข่ายด้วยเช่นเดียวกัน
นอกเหนือจากการจัดหากลุ่มสภาพคล่อง AMM แล้วนั้น โทเคน 1INCH ยังเป็นศูนย์กลางของการกกำกับดูแลบนเครือข่ายอีกด้วย โดยโทเคน 1INCH ถูกแจกจ่ายครั้งแรกในวันคริสมาสต์ของปี 2020 ในนามของการเป็นโทเคนกำกับดูแล (Governance Token) ที่สามารถใช้เพื่อลงคะแนนเสียงอย่างเท่าเทียมกันในการบริหารการกำกับดูแลแบบกระจายอำนาจในเครือข่าย นอกจากนี้การแจกจ่ายออกสู่การหมุนเวียนในตลาดนั้น ถูกดำเนินการในภายหลังเนื่องจากต้องจัดสรรให้กับผู้ใช้บนแพลตฟอร์มก่อนเป็นอันดับแรก
ซึ่งโทเคน 1INCH จำนวน 90 ล้านโทเคนจะถูกแจกจ่ายไปยังผู้ที่ผ่านเกณฑ์ดังต่อไปนี้:
และจากจำนวนอุปทานทั้งหมดกว่า 1.5 พันล้านโทเคนที่ผลิตเสร็จแล้วนั้น จะจัดสรร 6% ของจำนวนทั้งหมดให้ถูกจัดจำหน่าย ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2020, จำนวน 0.5% ถูกจัดสรรให้กับโครงการขุดสภาพคล่องในช่วง 2 สัปดาห์แรกที่เปิดตัว, จำนวน 14.5% จะถูกปลดล็อคและจัดสรรในช่วง 4 ปีให้รวมกันเป็นกองทุนเพื่อการพัฒนาโปรโตคอล สนับสนุนการขยายทีม การตรวจสอบ เงินช่วยเหลือ และประกันจากการถูกแฮ็ก โดยในจำนวนอีก 30% ที่เหลือจะถูกจัดสรรให้เป็นแรงจูงใจของชุมชน
ระบบนิเวศของโทเคน 1INCH ยังมีอีกโทเคนหนึ่งที่ชื่อว่า “Chi Gastoken” เป็นโทเคนที่ทำหน้าที่เพื่อชำระค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรม อีกทั้งโทเคน Chi ก็เป็นโทเคนตามมาตรฐาน ERC-20 ที่ถูกตรึงมูลค่ากับต้นทุนค่าแก๊สบนเครือข่าย Ethereum อีกด้วย ซึ่งผู้ใช้จะได้รับแรงจูงใจในการใช้งานผ่านส่วนลดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
โทเคน 1INCH นั้นนอกจากการแสดงถึงสิทธิ์ในการออกเสียงแล้ว ยังรวมถึงการอำนวยความสะดวกในการเข้าร่วมองค์กรอิสระแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Autonomous Organization: DAO) ที่ทำหน้าที่ในการควบคุมแพลตฟอร์ม 1inch DEX แน่นอนว่าองค์กร DAO นั้นพบเห็นได้ทั่วไปในอุตสาหกรรมคริปโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบ DeFi บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ซึ่งแพลตฟอร์ม 1inch ก็ได้ใช้รูปแบบการกำกับดูแลภายใต้รูปแบบองค์กร DAO ที่เรียกว่า “Instant Governance” หรือ “การกำกับดูแลแบบเร่งด่วน” โดยเป็นโมเดลที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะ ที่จะทำให้ผู้ถือโทเคน 1INCH สามารถทำการเปลี่ยนแปลงโปรโตคอลได้ง่ายขึ้น
โทเคน 1INCH จะถูกใช้ทั้งในโปรโตคอลปัจจุบันและในอนาคตทั้งหมดภายในเครือข่าย โดยหลัก ๆ แล้วจะเริ่มจากโปรโตคอลการกำกับดูแล Aggregation Protocol และ Liquidity Protocol
Aggregation Protocol Governance: เป็นโปรโตคอลการกำกับดูแลที่จะช่วยให้ผู้ใช้ที่ทำการ Staking โทเคน 1INCH สามารถลงคะแนนให้กับการปรับค่า Spread Surplus ที่เป็นส่วนเกินของค่าสเปรดที่เกิดจากธุรกรรมแลกเปลี่ยนมีราคาที่ดำเนินการในเรทที่ดีกว่าราคาที่เสนอเล็กน้อย
Liquidity Protocol Governance: เวอร์ชันที่มีประสิทธิภาพมากกว่านั้นจะเป็นเวอร์ชัน 2 ที่มีการอัปเกรดและรีแบรนด์มาจาก AMM เวอร์ชันแรกที่ใช้ชื่อว่า “Mooniswap” โดยคุณสมบัติหลักของเวอร์ชัน 2 คือค่าธรรมเนียมที่เรียกว่า “Impact Fee” ที่ซึ่งอัตราค่าธรรมเนียมประเภทนี้จะเติบโตตาม Slippage หรือความคลาดเคลื่อนของราคา และผู้ใช้ที่ทำการ Staking โทเคน 1INCH จะสามารถลงคะแนนในโปรโตคอลนี้ได้โดยตรง เพื่อกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมสำหรับชุมชน
อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการเป็นเจ้าของโทเคน 1INCH นั้นสามารถซื้อได้โดยตรงจากแพลตฟอร์มหลักอย่างเครือข่าย 1inch และนอกจากนี้ยังสามารถซื้อขายเพื่อเก็งกำไรในตลาดแลกเปลี่ยนรองได้เช่นเดียวกันกับคริปโตตัวอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น Binance, Kraken, Bitfinex และ FTX เป็นต้น