ทำความรู้จักกับ Algorand (ALGO)
เครือข่ายที่รองรับปริมาณธุรกรรมจำนวนมากและมีประสิทธิภาพด้านความเร็ว
เครือข่ายที่รองรับปริมาณธุรกรรมจำนวนมากและมีประสิทธิภาพด้านความเร็ว
Algorand เป็นเครือข่าย Blockchain ที่กระจายอำนาจแบบ Open Source ที่ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างแบบสองชั้นและมีรูปแบบเฉพาะของอัลกอริธึม Proof-of-Stake (PoS) เพื่อความสามารถในการเพิ่มความเร็วของการทำธุรกรรมตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย โดยรางวัลในบล็อกของ Algorand นั้นจะถูกแจกจ่ายให้กับผู้ที่ถือโทเคน ALGO ทุกคน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ถือโทเคน ALGO จะได้รับรางวัลทั่วทั้งเครือข่าย แทนที่จะมีแค่ผู้ตรวจสอบบล็อกที่ได้รับรางวัลเพียงกลุ่มเดียว
Algorand เป็นเครือข่ายแบบกระจายอำนาจที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครือข่าย Blockchain โดยมันประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านความเร็ว ความปลอดภัย และการกระจายอำนาจ
Algorand เปิดตัวในเดือนมิถุนายน ปี 2019 ก่อตั้งโดยผู้ที่เป็นทั้งนักวิทยาการคอมพิวเตอร์และศาสตราจารย์ของ MIT ที่ชื่อว่า “Silvio Micali” ซึ่งเขาได้ทำการออกแบบ Algorand ให้เป็นเครือข่าย Blockchain แบบ Open Source หรือเรียกว่า “Public Blockchain” ที่ทุกคนจะสามารถเข้าไปพัฒนาได้โดยไม่ต้องขออนุญาต นอกจากนี้ยังได้ออกแบบให้เป็นเครือข่ายที่เน้นการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว และมุ่งเน้นไปที่การทำธุรกรรมให้เสร็จสิ้นแทบจะในทันที ซึ่งหมายถึงความสามารถในการประมวลผลรายการธุรกรรมมากกว่า 1,000 รายการต่อวินาที (Transaction Per Second: TPS) และประมวลผลรายการเสร็จสิ้นในเวลาน้อยกว่า 5 วินาทีเท่านั้น
Algorand ใช้อัลกอริธึม Proof-of-Stake (PoS) และทำการแจกจ่ายรางวัลจากการตรวจสอบความถูกต้องของรายการธุรกรรมให้กับผู้ถือครองคริปโตดั้งเดิมของเครือข่าย หรือโทเคน ALGO ทุกคน ด้วยความสามารถในการรับส่งข้อมูลที่ยอดเยี่ยมและการสร้างแรงจูงใจแก่ชุมชนอย่างเท่าเทียมกันนี้ ทำให้ Algorand สามารถจัดการความต้องการปริมาณงานสูงของการใช้งานทั่วโลกอย่างแพร่หลาย และรวมไปถึงกรณีการใช้งานที่หลากหลายอีกด้วย
ในฐานะที่เป็นเครือข่าย Blockchain ที่อาศัยการทำงานแบบการ Staking แทนการขุดนั้น ปัจจุบัน Algorand สามารถทำหน้าที่เป็นโฮสต์หรือเจ้าของบ้านที่เปิดให้นักพัฒนามาเข้าร่วมในการสร้างแอพพลิเคชันแบบกระจายอำนาจหรือที่เรียกกันว่า “Dapps” และรวมไปถึงแอพพลิเคชันการเงินแบบกระจายอำนาจหรือที่เรียกว่า “DeFi” ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งด้วยการเปิดช่องทางให้กับเหล่านักพัฒนาในรูปแบบดังกล่าว ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการย้ายโฮสต์จาก Ethereum ที่มีค่าธรรมเนียมแก๊สแพงขึ้นทุกวันอีกด้วย
Algorand ยังได้อนุญาตให้นักพัฒนาใช้โปรโตคอลที่ชื่อว่า “Algorand Standard Assets (ASAs)” ในการสร้างโทเคนใหม่หรือโอนโทเคนใดก็ได้ไปยังระบบนิเวศของ Algorand ได้อีกด้วย นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับความสามารถในการรองรับปริมาณงานที่สูงขึ้น และมาพร้อมกับค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าปกติหากเทียบกับเครือข่าย Etherem
นอกจากนี้ ก็ได้มีธนาคารกลางบางแห่งที่ทำการวิจัยเครือข่ายต่าง ๆ มากมาย เพื่อให้มันทำหน้าที่เป็นโฮสต์ให้กับคริปโตดั้งเดิมที่จะออกโดยธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currencies: CBDCs) และในขณะเดียวกันนี้ สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลได้มีการใช้เครือข่าย Algorand ให้เป็นโฮสต์สำหรับการพัฒนาคริปโตประจำหมู่เกาะที่ใช้ชื่อว่า “Sovereign หรือ SOV” และแน่นอนว่าได้รับการอนุมัติผ่านทางธนาคารกลางประจำหมู่เกาะ (Marshall Islands CBDC) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Algorand เป็นเครือข่ายที่มีรูปแบบไม่เหมือนใครคือ “โครงสร้าง Blockchain แบบสองชั้น” โดยในชั้นแรกนั้นจะรองรับ Smart Contract, การพัฒนาสินทรัพย์ และการแลกเปลี่ยนระหว่างสินทรัพย์ในระดับย่อย ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะมีความปลอดภัยและมีความเข้ากันได้กับระบบนิเวศภายในของ Algorand
โครงสร้างชั้นแรกของเครือข่ายนั้น อนุญาตให้แพลตฟอร์มและผู้ใช้สามารถใช้งานโปรโตคอล ASAs เพื่อสร้างโทเคนใหม่ หรือพัฒนาโทเคนที่มีอยู่แล้วก็ได้เช่นกัน ที่การทำงานของมันนั้นจะคล้ายคลึงกับการทำงานของมาตรฐานโทเคน ERC-20 บนเครือข่าย Ethereum อีกด้วย นอกจากนี้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของการสร้าง Smart Contract ในรูปแบบพื้นฐานทั่วไปของ Algorand นั้นจะถูกเรียกว่า “Layer-1 Algorand Smart Contracts (ASC1s)” ซึ่งหมายถึงการรักษาความปลอดภัยของ Smart Contract รูปแบบดังกล่าวจะอยู่ในระดับเดียวกันกับตัวโปรโตคอล
โครงสร้างชั้นที่สองของ Algorand นั้นสงวนไว้สำหรับการสร้าง Smart Contract และการพัฒนา Dapps ในระดับที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ซึ่งหน้าที่ดังกล่าวถือเป็นการแยกส่วนที่ชัดเจนของเครือข่ายระหว่างชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 อีกทั้งยังช่วยให้ Algorand สามารถประมวลผลธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย และถึงแม้ว่าโครงสร้างชั้นดังกล่าวจะมีเนื้องานที่ใหญ่กว่าและซับซ้อนกว่า แต่อย่างไรก็ตามการประมวลผลของโครงสร้างทั้งสองชั้นจะไม่มีผลกระทบใด ๆ หรือมีการทำงานที่ทับซ้อนต่อกัน
“Algorand มีมูลค่ารวมตามราคาตลาดที่ 1.1 หมื่นล้านบาท ถูกจัดอยู่อันดับ 18”
Algorand ใช้รูปแบบเฉพาะของอัลกอริธึม Proof-of-Stake ที่เรียกว่า “Pure Proof of Stake (PPoS)” ที่มีความแตกต่างเล็กน้อยในหลักการทำงาน กล่าวคืออัลกอริธึมนี้มีข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับการเข้าร่วมและรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย ซึ่งข้อกำหนดมีอยู่ว่าต้องใช้โทเคน ALGO ขั้นต่ำเพียง 1 โทเคนเท่านั้นในการเข้าร่วม Staking และในขณะที่ Ethereum 2.0 นั้นต้องการการ Staking ในจำนวนขั้นต่ำอยู่ที่ 32 ETH ซึ่งถือเป็นจำนวนที่สูงมากและสร้างอุปสรรคให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย
นอกจากนี้ PPoS ได้ใช้กระบวนการผลิตบล็อกแบบ 2 ระยะ ได้แก่ การยื่นเสนอและการลงคะแนนเสียง หมายความว่าบนเครือข่ายของ Algorand ที่ใช้อัลกอริธึม PPoS ในการดำเนินการตรวจสอบบล็อกนั้น โหนดที่มีหน้าที่ตรวจสอบจะถูกสุ่มภายใต้การยื่นเสนอ และการลงคะแนนโดยสมาชิกคนใดก็ได้ของเครือข่าย ซึ่งมีขั้นตอนการเข้าร่วมด้วยการ Staking โทเคน ALGO และสร้างคีย์การเข้าร่วมที่ถูกต้องเพื่อเป็น “Participation Node” หรือ “โหนดเข้าร่วม” ที่จะได้รับการประสานงานโดยโหนดของเครือข่ายที่เรียกว่า “Relay Node” หรือ “โหนดถ่ายทอด” ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างโหนดเข้าร่วมและโหนดที่ไม่ได้เข้าร่วมในการยื่นเสนอหรือลงคะแนนได้โดยตรง
ในระยะยื่นเสนอนั้นจะเป็นการสุ่มเลือกผู้นำบล็อกก่อน เพื่อให้ทำการเสนอบล็อกในความดูแลของตนเองก่อนจะเข้าสู่ระยะลงคะแนนต่อไป โดยผู้นำบล็อกจะถูกสุ่มเลือกผ่านฟังก์ชันสุ่มที่ตรวจสอบได้ (Verifiable Random Function: VRF) ของเครือข่าย ซึ่งเป็นกลไกการสุ่มที่พิสูจน์ได้ว่าจะเลือกโหนดแบบสุ่ม ที่จะให้น้ำหนักไปที่สัดส่วนการ Staking โทเคน ALGO เป็นหลัก ซึ่งมีเพียงโหนดที่ได้รับสุ่มเลือกเป็นผู้นำบล็อกเท่านั้น ที่ทราบว่าตนเองได้รับมอบหมายให้เสนอบล็อกเพื่อเข้าสู่การลงคะแนนในระยะต่อไป เนื่องจากวิธีนี้เป็นการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสในการกำหนดเป้าหมายผู้นำบล็อกแบบเฉพาะเจาะจง ที่ถือเป็นการผูกมัดกับเครือข่ายมากเกินไปอีกด้วย
ในระยะการลงคะแนนนั้น โหนดเข้าร่วมจะถูกสุ่มเลือกให้เป็นคณะกรรมการที่รับผิดชอบในการตรวจสอบบล็อกที่ผู้นำบล็อกได้เสนอ เพื่อให้แน่ใจว่ารายการธุรกรรมภายในบล็อกจะไม่มีการจ่ายซ้ำซ้อน จ่ายเกิน หรือมีปัญหาอื่นใดเกิดขึ้น ซึ่งหากคณะกรรมการเห็นตรงกันว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว บล็อกนั้นก็จะถูกเพิ่มลงใน Blockchain ทันที และหากมีการตรวจพบกิจกรรมที่เป็นอันตรายบนบล็อกดังกล่าว ทางเครือข่ายก็จะเข้าสู่โหมดการกู้คืนโดยที่บล็อกดังกล่าวจะถูกยกเลิกและต้องทำการเลือกผู้นำบล็อกใหม่ในทันที
อุปทานหมุนเวียนขณะนี้คิดเป็น 52% จากอุปทานสูงสุดกว่า 1 หมื่นล้านโทเคน
ALGO เปรียบเสมือนสกุลเงินดั้งเดิมของเครือข่าย Algorand ที่จัดอยู่ในประเภท Utility Token อีกทั้งยังเป็นรากฐานที่สำคัญของโครงสร้างเครือข่ายอีกด้วย นอกจากนี้ยังอยู่ฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบโปรโตคอลที่เป็นเอกลักษณ์ของ Algorand ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเครือข่าย Algorand ได้กำหนดว่ารางวัลจากการตรวจสอบความถูกต้องของบล็อกนั้น จะถูกแบ่งออกและแจกจ่ายให้กับผู้ที่ถือโทเคน ALGO ทุกคนบนเครือจ่าย แทนที่จะมีเพียงผู้ตรวจสอบเท่านั้นที่จะได้รับรางวัลนี้ หมายความว่าผู้ถือโทเคน ALGO ทั้งหมดสามารถรับผลตอบแทนร้อยละ 7.5 ต่อปี หรือ 7.5% APY ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 ที่ผ่านมานี้ การแจกจ่ายรางวัลจะเกิดขึ้นทุก ๆ 10 นาทีและมีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนให้ผู้ใช้เข้าร่วมกับแพลตฟอร์มการ Staking กับ Algorand เพื่อเร่งเส้นทางที่นำไปสู่การกระจายอำนาจอย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย
นอกจากนี้เพื่อให้กระบวนการนี้ง่ายยิ่งขึ้น ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้อง “Staking” โทเคนจริงเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิตและการตรวจสอบความถูกต้องของบล็อกก็ได้ แต่สามารถถือโทเคน ALGO ไว้ใน Wallet ประเภทใดก็ได้ที่ไม่ใช่ Cold Wallet (เช่น เก็บไว้ใน Exchange) เพื่อให้เข้าถึงการรับรางวัลได้อย่างง่ายดาย และในความเป็นจริงนั้นถือว่า Algorand กำลังเข้าใกล้ระบบอัตโนมัติอย่างเต็มตัว เนื่องจากผู้ใช้สามารถร่วมสนับสนุนเครือข่ายไปพร้อมกับการ Staking ALGO ได้อีกด้วย
ทั้งนี้มีการจำกัดอุปทานของโทเคน ALGO ไว้ที่ 1 หมื่นล้านโทเคนด้วยกัน โดยทั้งหมดจะได้รับการจัดสรรดังนี้:
เช่นเดียวกันกับโครงการต่าง ๆ ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain เป็นรากฐานการทำงานให้กับกระบวนการแจกจ่ายโทเคนหรือสินทรัพย์ที่เท่าเทียมกัน โดยการกระจายอำนาจของโทเคน ALGO ของเครือข่าย Algorand เป็นกระบวนการแบบวนซ้ำ และในปัจจุบัน Algorand Foundation ได้ถือโทเคน ALGO ไว้เป็นจำนวนมาก จึงเป็นเหตุผลให้เกิดข้อโต้แย้งว่าสิ่งนี้ถือเป็นการรวมศูนย์อำนาจแบบระยะสั้นหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามกลไกการแจกจ่ายรางวัลที่เป็นประชาธิปไตยของ Algorand นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อลดการรวมศูนย์อำนาจของเครือข่ายในกรอบเวลาระยะยาว
อย่างไรก็ตามคุณสามารถเป็นเจ้าของโทเคน ALGO ผ่านแพลตฟอร์มหลักอย่าง Algorand นอกจากนี้ยังสามารถซื้อขายเพื่อเก็งกำไรในตลาดแลกเปลี่ยนรองได้ อีกด้วย ตัวอย่างเช่น Kraken, Binance, Bitfinex และ OKEx เป็นต้น