Connect with us

จองตั๋วเครื่องบินอย่างไร

มือใหม่หัดเที่ยว จองตั๋วเครื่องบินอย่างไรดี

วิธีจองตั๋วเครื่องบิน

การจองตั๋วเครื่องบินไม่ว่าจะเดินทางในประเทศ หรือต่างประเทศ มีรูปแบบในการจองเหมือนๆ กันคือ โดยขอแบ่งเป็น 2 วิธีการใหญ่ ดังนี้ คือ

1. การจองผ่านตัวแทนจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น ทราเวลโลก้า (Traveloka) รูปแบบนี้คนค่อนข้างใช้กันเยอะมาก เพราะไม่ต้องเสียค่าบริการในการดำเนินการ และอีกรูปแบบคือ เคาน์เตอร์ ทัวร์ เซอร์วิสต่างๆ ก็มีบริการจองเที่ยวบินให้ลูกค้า เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการความยุ่งยากในการมาดำเนินการเอง ซึ่งลูกค้าต้องจ่ายค่าตั๋วและค่าบริการซึ่งจะแพงกว่าการจองเองผ่านแอปพลิเคชัน

2. การจองผ่านสายการบินโดยตรง ไม่ว่าจะผ่านเว็บไซต์ของสายการบินนั้น หรือการโทรจอง หรือ การไปซื้อตั๋วโดยตรงที่เคาน์เตอร์สายการบิน

จุดเด่น

  • จองตั๋วเครื่องบินไม่ยากอย่างที่คิด
  • เพื่อคุ้มครองตลอดการเดินทางเลือกทำประกันเดินทางเพิ่ม
  • เลือกตั๋วเครื่องบินและบริการให้ตรงกับความต้องการคุณที่สุด

ค้นหาเที่ยวบิน

เมื่อเลือกช่องทางการจองเที่ยวบินเรียบร้อยแล้ว ลำดับถัดไปคือการค้นหาเที่ยวบิน หรือบอกเที่ยวบินแก่เจ้าหน้าที่ให้ทำการจัดการจองให้ สำหรับการเลือกเที่ยวบิน เราต้องรู้การเดินทางของเราว่า ต้องการเดินทางเพียงเที่ยวเดียว หรือเดินทางไปกลับ และเดินทางวันที่เท่าไหร่ เพื่อที่จะได้ทำการจองได้อย่างถูกต้อง
ยกตัวอย่างเช่น

– การเดินทางเที่ยวเดียว 27/10/2020 ภูเก็ต – กรุงเทพฯ
(ต้นทางคือภูเก็ต จุดหมายปลายทางคือกรุงเทพฯ วันเดินทางคือ 27 ตุลาคม 2020)

– การเดินทางไปกลับ 27/10/2020 ภูเก็ต – กรุงเทพฯ
30/10/2020 กรุงเทพฯ – ภูเก็ต
(ต้นทางคือภูเก็ต จุดหมายปลายทางคือกรุงเทพฯ วันเดินทางคือ 27 ตุลาคม 2020 และเดินทางกลับวันที่ 30 ตุลาคม 2020 ต้นทางคือกรุงเทพฯ จุดหมายปลายทางคือภูเก็ต)

เลือกสายการบินที่ต้องการ

สำหรับการจองผ่านแอปพลิเคชันตัวแทนจำหน่าย จะมีสายการบินต่างๆ ขึ้นมาให้คุณได้เลือกมากมาย โดยคุณสามารถเปรียบเทียบสายการบินที่คุณต้องการได้ อาจจะมีการเรียงลำดับจากราคาถูกไปราคาแพง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ หากคุณต้องการประหยัดงบประมาณ ไม่อยากได้บริการอะไรมาก ก็สามารถทำการเลือกสายการบินที่เป็นประเภท Low Cost แต่หากคุณอยากได้บริการที่ครอบคลุมหลายๆ อย่าง ก็เลือกสายการบินที่เป็นประเภท Full Service ราคาก็จะแพงกว่าแบบ Low Cost แต่ก็เน้นบริการที่ครอบคลุม เช่น อาจจะรวมน้ำหนักกระเป๋า 30 กิโลกรัม และบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง เป็นต้น

“ทำทุกขั้นตอนให้ถูกต้อง ตั๋วเครื่องบินจะได้ไม่ผิดพลาด”

ระบุข้อมูลผู้เดินทาง และรายละเอียดต่างๆ

ในขั้นตอนนี้เมื่อคุณกรอกข้อมูลเกี่ยวกับผู้เดินทาง เช่น ชื่อ-สกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เลขบัตรประชาชน อีเมล เรียบร้อยแล้ว ให้ตรวจทานอีกครั้งเพื่อความถูกต้อง หลังจากนั้นจะเป็นการเลือกบริการต่างๆ ของสายการบิน ซึ่งจะมีการคิดค่าบริการเพิ่ม ส่งผลให้ราคาตั๋วเครื่องบินคุณสูงขึ้น ซึ่งคุณเลือกได้ว่าบริการไหนที่คุณต้องการ บริการไหนคุณไม่ต้องการ เช่น

– เลือกระบุที่นั่ง ต้องการนั่งริมทางเดิน ริมหน้าต่าง หรือตรงกลาง รวมถึงโซนที่นั่ง ต้องการนั่งโซนหน้าของเครื่องบิน โซนกลางของเครื่องบิน หรือโซนหลังของเครื่องบิน

– เลือกเพิ่มน้ำหนักกระเป๋า ปกติสัมภาระที่อนุญาตให้ขึ้นเครื่องโดยไม่มีค่าใช้จ่าย คือ 7 กิโลกรัม หากต้องการมากกว่านี้ ก็จะต้องชำระค่าเพิ่มน้ำหนักกระเป๋า และต้องทำการโหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่องเท่านั้น นำขึ้นเครื่องได้เพียง 7 กิโลกรัม น้ำหนักกระเป๋ายิ่งมาก็ยิ่งแพง

– เลือกบริการอาหารและเครื่องดื่ม บางสายการบินคุณสามารถทำการเลือกอาหารและเครื่องดื่มได้ล่วงหน้าในขั้นตอนการจอง เมื่อถึงวันเดินทาง ในเวลาที่เสิร์ฟอาหาร พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็จะนำอาหารมาเสิร์ฟให้คุณก่อน เพราะคุณได้ทำการจองมาแล้ว

– ประกันภัย เป็นประกันที่พ่วงมากับการซื้อตั๋วเครื่องบิน เน้นการเกิดเหตุบนอากาศยานเป็นหลัก บางคนเห็นว่าไม่จำเป็น เลือกที่จะตัดออก แต่อย่าลืมว่าประกันมีไว้ไม่ใช้ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี หากคุณมองว่าประกันที่พ่วงมานี้ไม่เพียงพอ อยากจะให้ครอบคลุมไปถึงเที่ยวบินล่าช้า หรือกระเป๋าสูญหาย ควรเลือกซื้อประกันเดินทางเพิ่ม ซึ่งคุ้มครองตั้งแต่วันไปจนถึงวันกลับ หากซื้อผ่าน tadoo.co คุณสามารถเลือกซื้อได้แบบรายเที่ยว และแบบรายปี

ท่องเที่ยวไม่สะดุด มีประกันเดินทางช่วยดูแล

ชำระเงิน

เมื่อเลือกทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เช็ครายละเอียดความถูกต้องเรียบร้อย ลำดับถัดไปจะเป็นการชำระเงิน ซึ่งในปัจจุบันนี้มีช่องทางในการชำระเงินมากมายสำหรับการชำระเงินจองตั๋วเครื่องบิน ได้แก่

– การชำระผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร
– การชำระผ่านบัตรเครดิต / บัตรเดบิต
– การชำระผ่านตู้ ATM
– การชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสหรือจุดชำระเงินต่างๆ
– การชำระผ่านแอปพลิเคชันจ่ายเงินอื่นๆ เช่น LINE Pay

รอรับการยืนยันการจอง

เมื่อชำระเงินเสร็จเรียบร้อย รอสักครู่คุณจะได้รับการยืนยันการจองผ่านทางอีเมล และข้อความทางโทรศัพท์ที่คุณกรอกไว้ในขั้นตอนกรอกรายละเอียดผู้เดินทาง ซึ่งรูปแบบข้อความหรืออีเมลที่ได้รับจะเป็น Itinerary หรือใบรายละเอียดการเดินทาง ซึ่งจะมีรายละเอียดแจ้งไว้อย่างครบถ้วน เช่น เลขรหัสการจอง เลขรหัสสายการบิน เที่ยวบิน สถานที่ต้นทาง จุดหมายปลายทาง เวลาเครื่องออก เวลาเครื่องถึง ชื่อผู้เดินทาง ประเภทที่นั่ง บาร์โค้ด เป็นต้น เมื่อถึงวันเดินทางเราแค่ยื่นบัตรประชาชน พร้อมเอกสารการจอง หรือโชว์ที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อไปทำการเช็คอิน อย่าลืมว่าควรไปก่อนเวลาโดยหากเดินทางในประเทศควรไปเช็คอินก่อน 1 ชั่วโมง หากเดินทางไปต่างประเทศควรเช็คอินก่อน 2-3 ชั่วโมง และหากมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างของเที่ยวบินก่อนจะถึงวันหรือเวลาเดินทาง เช่น เครื่องล่าช้า หรือสายการบินถูกย้ายไปวันอื่น ก็จะมีการแจ้งทางอีเมล และทางข้อความโทรศัพท์มือถือ

สำหรับใครที่วางแผนจองตั๋วเครื่องบินอยู่ อย่าลืมทำประกันเดินทางเพื่อเพิ่มความคุ้มครองตลอดการเดินทางของคุณด้วย เลือกประกันเดินทาง เลือกผ่าน tadoo.co

ผลิตภัณฑ์ประกันการเดินทาง

ประเภทของประกันการเดินทาง

คู่มือยอดนิยมสำหรับประกันการเดินทาง