Connect with us

สายการบินเต็มรูปแบบ (Full-Service) กับ สายการบินต้นทุนต่ำ (Low-Cost )

การบริการของสายการบินแบบเต็มรูปแบบและต้นทุนต่ำทั้งสองรูปแบบนี้แตกต่างกันอย่างไร

สายการบินเต็มรูปแบบกับสายการบินต้นทุนต่ำ

1. สายการบิน Low-Cost
– เดินทางระยะสั้น ประมาณ 1-4 ชั่วโมง
– เดินทางโดยไม่มีสัมภาระ หรือมีแต่ไม่เกิน 7 กิโลกรัม
– ไม่ได้รวมค่าอาหารหรือเครื่องดื่ม และบริการเสริม ระหว่างเที่ยวบิน

2. สายการบิน Full-Service
– เดินทางระยะทางไกลตั้งแต่ 4 ชั่วโมงขึ้นไป
– มีสัมภาระมากกว่า 7 กิโลกรัม
– มีบริการที่มากกว่าเช่น เลาจน์ อาหารระหว่างเที่ยวบิน หรือความบันเทิงระหว่างเที่ยวบิน

จุดเด่น

  • สายการบินต้นทุนต่ำจะมีระยะเวลาบินระยะสั้นกว่าแบบเต็มรูปแบบ
  • สายการบินต้นทุนต่ำมีขนาดเครื่องบินและที่นั่งเล็กกว่าแบบเต็มรูปแบบ
  • สายการบินต้นทุนต่ำมีราคาค่าตั๋วต่ำกว่าสายการบินเต็มรูปแบบ

ความแตกต่างด้านราคา

ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของผู้ให้บริการแบบราคาประหยัดคือค่าโดยสารที่ประหยัด สายการบินราคาประหยัดช่วยให้ผู้โดยสารเพลิดเพลินไปกับการเดินทางโดยไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายราคาแพงทำให้เหลือเงินเพื่อใช้จ่ายอย่างอื่น เช่น ค่าอาหาร ค่าที่พักและอื่น ๆ อีกมากมาย

ในทางตรงกันข้ามสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบมีราคาค่อนข้างแพงกว่าสายการบินรูปแบบต้นทุนต่ำ เนื่องจากบริการแบบเต็มรูปแบบนี้ได้บวกเพิ่มค่าบริการด้านอื่นๆไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น ห้องพักรับรองที่สนามบิน ที่นั่งขนาดใหญ่ อาหารเครื่องดื่มและอื่นๆ

ที่นั่งโดยสาร

โดยทั่วไปสายการบินต้นทุนต่ำจะมาพร้อมกับที่นั่งขนาดเล็ก ซึ่งในสายการบินต้นทุนต่ำหากต้องการเลือกตำแหน่งที่นั่ง หรืออัปเกรดที่นั่งก็ต้องจ่ายเงินซื้อเพิ่ม ในขณะที่ผู้ให้บริการเต็มรูปแบบมาพร้อมกับห้องโดยสารหลายห้อง ผู้โดยสารที่จองเที่ยวบินนี้ สามารถเลือกที่นั่งโดยสารต่างๆได้ฟรี มีห้องโดยสารหลายลำในสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบเครื่องบินจึงมีขนาดใหญ่กว่าสายการบินต้นทุนต่ำ

“ไม่ว่าจะเป็นสายการบินแบบไหนความปลอดภัยถือเป็นหัวใจหลักของทุกสายการบิน เพราะฉะนั้นแล้วทั้งสายการบินต้นทุนต่ำ และสายการบินเต็มรูปแบบนั้นมีมาตรฐานความปลอดภัยที่เท่ากัน”

การเปลี่ยนแปลงวันเดินทาง

หากเป็นสายการบิน Low-Cost นั้น เมื่อมีการจองตั๋วเดินทางแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวันเดินทาง หรือขอคืนเงินได้ และหากต้องการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินนั้นมีค่าธรรมเนียมที่สูง ซึ่งในบางครั้งซื้อตั๋วใหม่ราคาจะถูกกว่าเปลี่ยน แตกต่างกันกับ Full-Service ที่สามารถเปลี่ยนแปลงวันเวลาเดินทางได้ฟรี โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม หรือขอคืนเงินก็ได้ เว้นเสียแต่ว่าเป็นตั๋วโปรโมชั่นอาจจะมีเงื่อนไขว่าห้ามเปลี่ยนแปลง หรือขอคืนเงิน

ไม่ว่าจะเป็นสายการบินต้นทุนต่ำหรือสายการบินเต็มรูปแบบก็ล้วนแต่นำผู้โดยสารไปถึงจุดหมายปลายทางเหมือนกัน อาจแตกต่างกันในด้านการบริการภาคพื้นและการบริการบนเที่ยวบินเท่านั้น ฉะนั้นเลือกให้เหมาะสมและคุ้มค่าคุ้มค่าสำหรับตนเองมากที่สุด

อาหารและของว่างบนเที่ยวบิน

ในสายการบินแบบประหยัดนั้นหากต้องการอาหารระหว่างการเดินทางต้องเสียเงินซื้อเพิ่ม แต่หากผู้โดยสารจองตั๋วเครื่องบินกับสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบจะมีการให้บริการอาหารบนเครื่องบินเป็นหนึ่งในบริการที่จำเป็น ซึ่งราคาค่าอาหารที่บริการระหว่างเที่ยวบินนั้นได้รวมอยู่ในค่าโดยสารแล้ว โดยไม่ต้องซื้อเพิ่ม

บริการพิเศษ

ในสายการบินแบบต้นทุนต่ำนี้จะไม่มีบริการพิเศษต่างๆ รวมอยู่ในค่าตั๋วโดยสาร ยกตัวอย่างเช่น บริการความบันเทิงระหว่างบิน เนื่องจากสายการบิน Low-Cost นั่นจะไม่มีความบันเทิงระหว่างเที่ยวบิน เช่น จอทีวี เพื่อดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมได้ระหว่างเที่ยวบิน แตกต่างจาก Full-Service ซึ่งมีมาพร้อมเพราะราคาเหล่านี้รวมอยู่ในค่าตั๋วแล้ว เลาจน์ ในสายการบิน Full-Service จะมาพร้อมกับ Lounge ซึ่งผู้โดยสารสามารถเข้าไปนั่งรอก่อนการขึ้นเครื่องบิน ซึ่งแน่นอนว่าสายการบิน Low-Cost ไม่มีบริการนี้

ผลิตภัณฑ์ประกันการเดินทาง

ประเภทของประกันการเดินทาง

คู่มือยอดนิยมสำหรับประกันการเดินทาง