บัตรเครดิตเงินคืน คือ บัตรเครดิตที่ให้สิทธิพิเศษให้แก่ผู้ถือบัตรเมื่อมีการใช้บัตรเครดิตในการชำระสินค้าหรือบริการ ส่วนใหญ่จะเป็นการให้สิทธิพิเศษในรูปแบบของคะแนนสะสม หรือบัตรกำนัลแทนเงินสด (voucher) ซึ่งสิทธิพิเศษเหล่านี้จะทำให้ผู้ถือบัตรรู้สึกว่าได้ซื้อของมากขึ้นนั่นเอง สำหรับเงินคืนที่ได้กลับคืนมานั้น ลูกค้าจะได้รับมาจากการซื้อสินค้าในร้านค้าที่ร่วมรายการ เช่น การเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมัน, การทานอาหารในร้านอาหารที่ร่วมรายการ หรือใช้บริการสายการบิน เป็นต้น ทั้งนี้ ลูกค้าจะได้เงินคืนตามเปอร์เซ็นต์ที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขของบัตรเครดิตนั้น ๆ
จุดเด่น
1 – ได้เงินคืนเมื่อช้อปปิ้งกับร้านค้าที่ร่วมรายการ สูงสุด 5%*
2 – คะแนนสะสมในบัตรสามารถแลกเป็นสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น ตั๋วเครื่องบินฟรี เป็นต้น
3 – มีโอกาสได้เป็นลูกค้า VIP ของร้านค้าที่ร่วมรายการ พร้อมรับสิทธิพิเศษก่อนใคร
*เงื่อนไขและสิทธิพิเศษแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทบัตรที่คุณเลือก
ทุกๆธนาคารล้วนมีบัตรเครดิตเพื่อตอบสนองความลูกค้าที่หลากหลาย แต่ว่าบัตรเครดิตเงินคืนนั้นให้สิทธิพิเศษให้กับคุณได้มากกว่า และคุ้มค่าอีกด้วย
ผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้ง หรือลูกค้าที่ช้อปปิ้งเป็นประจำ ค้นหาไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของตัวเองให้เจอ จะได้รู้ว่าควรใช้บัตรเครดิตเงินคืนแบบไหน
หาข้อมูลบัตรเครดิตเงินคืนให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ
เปรียบเทียบคุณสมบัติ สิทธิพิเศษ และเงื่อนไขของบัตรเครดิตทุกธนาคารให้ละเอียด
คุณต้องเตรียม บัตรประชาชน สลิปเงินเดือน ทะเบียนบ้าน สมุดบัญชีเงินฝาก Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
ติดต่อธนาคารเพื่อทำการสมัครบัตรเครดิตได้เลย
22,893 รีวิว
เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็มีบัตรเครดิต อย่างน้อยก็คนละ 1 ใบ แต่รู้ไหมว่า กว่าที่คุณจะสมัครบัตรเครดิต จนธนาคารอนุมัติวงเงิน ได้มาใช้ครอบครองนั้น โดยเฉพาะบัตรเครดิตเงินคืนนั้น คุณต้องเตรียมตัวอย่างไร มาดูกันเลย
การที่คุณจะได้บัตรเครดิตเงินคืนมาสัก 1 ใบนั้น คุณต้องเลือกบัตรเครดิตเงินคืนที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณมากที่สุด โดยคุณสามารถทำได้ง่ายๆ โดยเริ่มต้นจากเช็ครายรับรายจ่ายของตัวเองในแต่ละเดือน ต่อมาให้ประเมินค่าใช้จ่ายของคุณว่าคุณใช้เงินไปกับอะไรมากที่สุด ดูอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่ต้องการสมัคร ว่าถ้าจ่ายแบบผ่อนชำระจะสามารถจ่ายไหวหรือไม่ อย่าลืมอ่านรายละเอียดด้วย และอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาง่ายๆ เพราะบางครั้งอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ไม่ได้บอกในโฆษณา
เอกสารคือตัวช่วยสำคัญที่จะตัดสินว่าจะสมัครบัตรเครดิตผ่านหรือไม่ผ่าน จะได้วงเงินมาใช้เท่าไหร่ เพราะธนาคารจะใช้เอกสารที่เรายื่นมาพิจารณาการอนุมัติบัตรเครดิต ดังนั้นการเตรียมเอกสารส่วนตัวและเอกสารทางการเงินให้พร้อม ครบถ้วนจึงสำคัญมาก เพราะยื่นเอกสารส่วนใหญ่มักให้ส่งไปรษณีย์ไปสาขากรุงเทพ หากเอกสารไม่ครบอาจต้องเสียเวลาเดินเรื่องหลายรอบ หรือไม่ได้รับการอนุมัติ
เมื่อสมัครบัตรเครดิตที่ธนาคารแล้ว จะต้องรอการอนุมัติจากธนาคารประมาณ 10 วันถึง 1 เดือน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคาร นอกจากนั้นธนาคารต้องพิจารณาความเหมาะสมต่างๆเพื่อการตัดสินใจอนุมัติบัตรเครดิตอีกด้วย
เมื่อบัตรเครดิตของคุณได้รับการอนุมัติแล้ว ก็สามารถรอรับบัตรเครดิตได้เลย เมื่อรับบัตรเครดิตแล้วให้ตรวจสอบว่ามีเงื่อนไขเป็นไปตามที่ตกลงไว้หรือไม่ และตรวจสอบวงเงินในบัตรเครดิตให้ดี เพื่อจะได้ประมาณการใช้จ่ายของคุณ และรอรับเงินคืนเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการได้เลย
ก่อนมีบัตรเครดิตจะชอบจ่ายด้วยเงินสดตลอด บางครั้งก็ไม่สะดวกที่จะพกเงินสดเยอะ ๆ ไปซื้อของ คิดถูกจริง ๆ ที่สมัครบัตรเครดิตเงินคืนเอาไว้ ทำให้การจ่ายเงินเป็นอะไรที่ง่ายขึ้น แถมยังสะดวกอีกด้วย
Top tip: ช้อปเพลิน รูดเพลิน มีความสุขสุด ๆ เพราะยิ่งช้อปยิ่งได้เงินคืน คุ้มยิ่งกว่าคุ้มจริง ๆ
จะซื้ออะไรก็ง่ายนิดเดียว รูดผ่านเครื่อง ไม่ต้องพกเงินสดเยอะ ๆ แถมยังจ่ายไป ยังได้เงินคืนในรูปแบบต่างๆ เช่น ถ้าใครชอบเที่ยวก็นำบัตรเครดิตไปแลกไมล์สะสมไว้เยอะ ๆ เพื่อลุ้นรับตั๋วเครื่องบินฟรีในอนาคต หรือใครที่ชื่นชอบช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าเป็นประจำ ควรต้องมีบัตรเครดิตเงินคืนเอาไว้สักใบ นอกจากได้เงินคืนแล้ว ยังได้รับสิทธิพิเศษมากมาย คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปแน่นอน
บัตรเครดิตมีหลายประเภท มีเงื่อนไขการใช้งานและโปรโมชั่นแตกต่างกันไป ก่อนสมัครบัตรควรเลือกให้เหมาะกับความต้องการของคุณ
บัตรเครดิตสำหรับธุรกิจมอบสิทธิพิเศษสำหรับนักธุรกิจโดยเฉพาะ
เพิ่มเติม
อาชีพอิสระสามารถสมัครได้ โดยไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน
ปรียบเทียบบัตรเครดิตที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำด้วยการค้นหาเพียงครั้งเดียว
เป็นการโอนหนี้บัตรเครดิตเพื่อแก้ปัญหารูดบัตรเครดิตเต็มวงเงินและก่อหนี้
เพิ่มเติม
ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีบัตรเครดิตเยอะเท่าปัจจุบัน ตัวเลือกหรือเงื่อนไขต่าง ๆ สำหรับทำบัตรเครดิตนั้นมีข้อจำกัดหลายประการ แต่ปัจจุบันนี้ธนาคารได้ออกบัตรเครดิตเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น จึงทำให้เรามีโอกาสได้เลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับตัวเองมากขึ้นด้วย ดังนั้น ก่อนสมัครบัตรเครดิต เราควรรู้วิธีการเลือกบัตรที่เหมาะสมกับตัวเอง ดังนี้
โดยคุณจำเป็นต้องตรวจสอบค่าใช้จ่ายโดยปกติในแต่ละเดือน เพื่อรับสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตเงินคืนมากที่สุด เพราะถ้าคุณยิ่งใช้บัตรเครดิตมาก คุณก็จะได้เงินคืนมาก รวมถึงสิทธิพิเศษอื่นๆ และคุณจะต้องมีความแน่ใจด้วยว่า คุณจะสามารถชำระหนี้ได้เต็มจำนวนในทุกๆเดือน เพราะคุณจะต้องเสียดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่ค่อนข้างสูง ถ้าคุณชำระเงินล่าช้า หรือผิดนัดชำระ
ถ้าคุณใช้บริการต่าง ๆ ที่ร่วมรายการกับบัตรเครดิตเป็นประจำ บัตรเครดิตเงินคืนจะมีประโยชน์กับคุณมากที่สุด เพราะคุณจะได้รับเงินคืนจากการใช้บัตรเครดิตก็ต่อเมื่อคุณซื้อสินค้าและบริการกับร้านค้าที่ร่วมรายการเท่านั้น เช่น หากคุณเติมน้ำมันเป็นประจำ ควรเลือกบัตรเครดิตเงินคืนที่รวมรายการกับปั๊มน้ำมันที่คุณเติม หรือหากคุณเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นประจำ ควรที่จะมีบัตรเครดิตแบบเงินคืนที่ร่วมรายการกับสายการบินนั้น ๆ เพื่อที่จะได้รับเงินคืนหรือคะแนนสะสมของสายการบินนั่นเอง
คุณจำเป็นต้องศึกษารายละเอียดของบัตรเครดิตคืนเงินอย่างละเอียด ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับที่ผู้ที่ต้องการมีบัตรเครดิตเงินคืนจำเป็นจะต้องรู้ ไม่ว่าจะเป็นผลประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากบัตร ค่าธรรมเนียมบัตร รวมไปถึงเงื่อนไขอื่นๆ อีกด้วย
ธนาคารต่าง ๆ ออกกลยุทธ์โปรโมชันบัตรเครดิตออกมา เพื่อดึงดูดความต้องการของลูกค้า เช่นกรณีบัตรเครดิตเงินคืน ให้สิทธิพิเศษเงินคืนให้กับลูกค้า ถ้าคุณเห็นโฆษณาบัตรเครดิตหลาย ๆ เจ้าก็อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจสมัครในทันที ให้คุณตรวจสอบเงื่อนไข ของบัตรเครดิตนั้น ๆ ที่ออกมานั้นให้ดีเสียก่อนว่าตรงกับการใช้งานของคุณหรือไม่ สไตล์การรูดซื้อของผ่านบัตรของคุณเข้าเกณฑ์ได้เครดิตเงินคืนหรือเปล่า
หากคุณเป็นผู้ชื่นชอบช้อปปิ้ง ถ้าช้อปแล้วได้เงินคืน จะดีกว่ามั้ย ใช้บัตรเครดิตเงินคืนเพื่ออำนวยความสะดวกในการช้อปปิ้งมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าคุณมีประวัติการใช้จ่ายบัตรเครดิตมาก จะทำให้ได้สิทธิพิเศษเงินคืนมากขึ้น คุ้มอีกเท่าตัว แถมยังได้วงเงินเพิ่มขึ้นในอนาคต เหมาะสำหรับสายช้อปตัวยง รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบโปรโมชั่นหลากหลาย และถ้าชำระบัตรเครดิตตรงเวลาและเต็มจำนวนจะทำให้ประวัติเครดิตดีขึ้น สามารถทำธุรกรรมต่างๆในอนาคตได้ดีขึ้นอีกด้วย Tadoo แนะนำให้คุณสมัครบัตรเครดิตเงินคืนเอาไว้เลย คุ้มค่ากับคุณแน่นอน
บัตรเครดิตเงินคืน ที่จริงแล้วมีรูปแบบการใช้งานเหมือนบัตรเครดิตทั่วไปทุกประการ แต่บัตรเครดิตเงินคืนสามารถให้สิทธิพิเศษกับผู้ถือบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นโดยการจ่ายเงินคืนให้โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ จากยอดใช้จ่ายผ่านบัตร ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณซื้อของในห้างสรรพสินค้าเป็นเงินทั้งหมด 20,000 บาท โดยใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเงินคืนที่ระบุว่าให้เงินคืน 5% คุณก็จะได้รับเงินคืนทั้งสิ้น 1000 บาทนั่นเอง
คุณจะได้รับเงินคืนหลังจากใช้บัตรเครดิต โดยสามารถแบ่งรอบการได้รับเงินคืนเป็น 2 แบบหลักๆ นั่นก็คือ:
1. ได้รับเงินคืนรายปี โดยจะให้เงินคืนในเดือนที่คุณสมัครบัตรเครดิตในปีถัดไป เช่นปีนี้คุณสมัครบัตรเครดิตเมื่อเดือนกันยายน เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรไป 1 ปี คุณจะได้รับเงินคืนในเดือนกันยายนปีถัดไป โดยเงินคืนที่ได้มานั้นจะนำไปหักลบกับค่าใช้จ่ายของเดือนกันยายนปีถัดไป ทำให้งวดนั้นคุณชำระค่าบัตรเครดิตถูกลง เช่น คุณใช้บัตรเครดิตทั้งปีจนได้เงินคืน 4000 บาท ถ้าหากในเดือนกันยายนปีถัดไป คุณใช้จ่ายผ่านบัตรไปทั้งหมด 10,000 บาท เมื่อหักลบ กับเงินคืนที่จะได้รับ ทำให้คุณจะมียอดชำระจริงสำหรับเดือนนี้เพียงแค่ 6,000 บาทเท่านั้น
2. ได้รับเงินคืนรายเดือน บัตรเครดิตบางธนาคารอาจให้คุณรับเงินคืนได้เป็นรายเดือน ซึ่งก็จะใช้วิธีการคืนเงินคล้ายๆกัน โดยจะคืนเงินให้กับคุณ ในลักษณะระบุไว้เป็นยอดหักลบของยอดบัตรในเดือนถัดไป อย่างเช่น ถ้าในเดือนนี้คุณใช้จ่ายผ่านบัตรไปทั้งหมด 20,000 บาท ได้รับเงินคืน 3% เท่ากับ 600 บาท จะทำให้คุณได้รับเครดิตคืนมาในเดือนถัดไป แต่จะไม่สามารถนำออกมาเป็นเงินสดได้ แต่เมื่อเดือนถัดไปคุณจะมีการใช้จ่าย เครดิตส่วนนี้ก็จะนำไปหักได้นั่นเอง
หากคุณอยากจะสมัครบัตรเครดิตเงินคืน ก็จะมีค่าธรรมเนียมในการสมัครบัตรเครดิต ซึ่งรายละเอียดจะแตกต่างกันไปตามแต่ละธนาคาร โดยส่วนใหญ่จะมีค่าธรรมเนียม ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยจากยอดเงินที่ต้องชำระ ค่าธรรมเนียมรายปีหรือรายเดือน และค่าธรรมเนียมและค่าปรับจากการไม่ทำตามข้อกำหนดของบัตร เช่นการใช้จ่ายเกินวงเงินบัตร เป็นต้น
วิธีการนั้นไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงถ้าใช้จ่ายผ่านบัตรมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งได้เงินคืนกลับมาตามจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่กำหนดไว้มากเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บัตรเครดิตเงินคืน บางแห่งอาจมีข้อกำหนดไว้ว่าต้องมีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำเท่าไหร่ก่อนจะได้เงินคืน หรืออาจจะกำหนดไว้ว่าคุณจะได้เงินคืนสูงสุดไม่เกินเท่าใด รวมถึงประเภทของการใช้จ่ายที่มีก็ส่งผลกับเปอร์เซ็นต์เงินคืนด้วย โดยมีเงื่อนไขต่างๆ เพื่อใช้ดูว่าจะใช้จ่ายแบบไหนถึงจะได้เงินคืน มากกว่ากัน