Connect with us

อินเทอร์เน็ตแบบครอบคลุมทั้งบ้าน

เมื่อต้องการให้อินเทอร์เน็ตครอบคลุมทั่วทั้งบ้าน ควรทำยังไง

เลือกอินเทอร์เน็ตบ้านตามลักษณะที่อยู่อาศัย

ปัจจัยที่ควรดูก่อนที่เลือกแพ็กเกจก็คือ ลักษณะที่อยู่อาศัย เพราะถ้าหากเลือกอินเทอร์เน็ตบ้านที่ไม่ได้ครอบคลุมถึงลักษณะบ้าน จะทำให้เกิดปัญหาตามในหลาย ๆ เรื่อง ดังนั้นเราควรรู้ลักษณะบ้างเป็นยังไง เหมาะสำหรับอินเทอร์เน็ตบ้านแบบไหน

ติดอินเทอร์เน็ตในคอนโดหรืออพาร์ตเมนต์ – เนื่องจากลักษณะของคอนโดหรืออพาร์ตเมนต์ มีอาคารค่อนข้างสูงและห้องชุดมักจะมีข้อจำกัดในการติดตั้งสายอินเทอร์เน็ต จึงทำให้เจ้าของห้องมีตัวเลือกไม่มากนักในการติดเน็ตคอนโด ส่วนใหญ่คอนโดมักจะติดอินเทอร์เน็ตแบบไฟเบอร์ โดยลากใยแก้วนำแสงจนถึงชุมสายของอาคาร

ติดอินเทอร์เน็ตในบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮม – เนื่องจากบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยมีปัญหาในการเลือกใช้อินเทอร์เน็ตเท่าไหร่ จึงเลือกใช้เน็ตบ้านได้ทุกแบบ แต่ทั้งนี้ การจะได้ใช้เน็ตบ้านแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ให้บริการด้วย โดยในบางพื้นที่อินเทอร์เน็ตไฟเบอร์อาจยังเข้าไม่ถึง เจ้าของบ้านก็ต้องใช้เน็ตสายโทรศัพท์ไปก่อน หรือบ้านอยู่ห่างจากชุมสายมากเกินไป เจ้าของบ้านก็ต้องเสียค่าโยงสายอินเทอร์เน็ตเพิ่ม

ติดอินเทอร์เน็ตในบ้านที่มีหลายชั้น – ในกรณีที่บ้านมี 3-4 ชั้น สัญญาอินเทอร์เน็ตอาจจะขาด ๆ หาย ๆ ไม่จำเป็นที่เจ้าของบ้านต้องติดตั้งเน็ตบ้านให้ครบทุกชั้น แต่ใช้วิธีติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพียงจุดเดียว แล้วติดตั้งจุดกระจาย Wi-Fi หรือใช้วิธีการลากสาย LAN ให้ทุกคนในบ้านได้ใช้งาน เพื่อกระจายสัญญาณ Wi-Fi ของเน็ตบ้านได้ครอบคลุมมากขึ้น

จุดเด่น

  • ควรเลือกแพ็กเกจที่มีสัญญาณที่เร็วและแรง
  • ควรวางเราเตอร์ให้อยู่ในบริเวณที่สามารถส่งสัญญาณได้

เลือกอินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมต่อการใช้งาน

เราควรรู้ว่าเราใช้อินเทอร์เน็ตเพื่ออะไร เช่น ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเล่นมือถือ ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อทำงาน ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเล่นเกมหรือเพื่อความบันเทิง เป็นต้น ดังนั้น ควรเลือกแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตบ้านที่มีความครอบคลุมทั้งตัวบ้าน และมีความเร็วอย่างต่อเนื่อง ควรศึกษารายละเอียดข้อมูลให้ชัดเจน เพื่อจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาด

เลือกบริเวณการติดตั้งเราเตอร์อินเทอร์เน็ตบ้าน

การวางเราเตอร์เป็นช่วยให้สัญญาณอินเทอร์เน็ตครอบคลุมทั้งในบ้านและนอกบ้าน บริเวณที่ควรวางเราเตอร์มีดังต่อไปนี้

1. ติดในจุดที่โล่ง หรือกึ่งกลางของบ้าน – เพราะสัญญาณ Wi-Fi จะกระจายได้ดีในจุดที่โล่ง ไม่ควรวาง Wireless Router ไว้ใกล้อุปกรณ์ที่สามารถส่งสัญญาณรบกวนคลื่นได้ เช่น หลังทีวี บนตู้เย็น หรือใกล้ไมโครเวฟ เพราะจะทำให้ Wireless Router ของเรา ส่งสัญญาณ Wi-Fi ได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ควรวางไว้บนจุดที่อยู่สูง เพราะธรรมชาติของสัญญาณ จะปล่อยจากที่สูงลงที่ต่ำ จะทำให้ได้สัญญาณที่สม่ำเสมอและแรงไม่มีหยุด

2. ติดในจุดใกล้บันได เพื่อกระจายสัญญาณให้ทั่วถึง – หากมีบ้านสองชั้น ควรติดไว้ในจุดที่ใกล้บันได เพื่อให้มีพื้นที่ในการส่งสัญญาณไปถึงชั้น 2 นั่นเอง ประหยัดงบแถมเน็ตแรงอีกด้วย

3. ไม่วางติดผนัง หรือวางติดสิ่งกีดขวาง – หลีกเลี่ยงการวางติดผนัง กำแพง กระจก หรือ โลหะต่าง ๆ เพราะวัสดุเหล่านี้เป็นตัวกีดขวางสัญญาณ Wi-Fi ได้ หลีกเลี่ยงการติดตั้งในจุดนี้จะดีที่สุด

“การเลือกรุ่นเราเตอร์อินเทอร์เน็ตที่ใหม่สุด จะช่วยให้ส่งสัญญาณได้แรงขึ้น”

เลือกอุปกรณ์เสริมในการเชื่อมต่อ

หากถ้าบ้านของคุณมีหลายชั้นและเต็มไปด้วยห้องหรือผนังที่สามารถขวางกันการเดินทางของสัญญาณได้ ทำให้ส่งสัญญาณไปได้ไม่ไกลพอ สัญญาณก็อ่อนลงไปบ้าง หรืออาจจะหาสัญญาณไม่เจอเลยก็เป็นได้ เพราะมีกำแพงและผนังหนากั้นไว้ ซึ่งเป็นตัวแปรให้สัญญาณไม่ครอบคลุมภายในบ้าน จึงควรติดอุปกรณ์เสริมในการกระจาย จะได้สะดวกต่อการทำงานต่าง ๆ

การปิดเครื่องเราเตอร์อินเทอร์เน็ต จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเราเตอร์ได้ รวมถึงทำให้สัญญาณอินเทอร์เน็ต

เลือกแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตบ้านที่มีสัญญาณที่ดี

เมื่อสมาชิกครอบครัวมีเยอะ และบ้านหลายๆชั้น สัญญาณอินเทอร์เน็ตก็เลย สะดุด หรืออาจจะไม่ครอบคลุมทั้งบ้าน ทาง tadoo จึงเลือกนำข้อมูลในแต่ละเครือข่ายมาให้คุณเพื่อประกอบการตัดสินใจ แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตมีอยู่ 4 รูปแบบ ดังต่อไปนี้

1. อินเทอร์เน็ตบ้านทรู – True Gigatex Fiber พร้อมกล่อง ทรูไอดี ไฮบริด สำหรับแพ็กเกจนี้ เป็นแพ็กเกจที่เน้นความแรงมาก ๆ แบบเต็มสปีด พร้อมกับได้รับกล่อง ทรูไอดี ไฮบริด และสิทธิพิเศษต่าง ๆ ความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงสุด 1,000/200Mbps

2. อินเทอร์เน็ตบ้าน 3BB – 3BB Smart mesh เป็นอินเทอร์เน็ตบ้านมีความแรงครอบคลุมทั่วบ้าน ทำให้การเล่นเกมไม่สะดุดความเร็วสูงสุด ท่อแรก 300/300 Mbps ท่อพิเศษ 300/300 Mbps แถมฟรี Mesh WiFi 2 ตัว

3. อินเทอร์เน็ตบ้าน TOT – Gigabolt MAX ระดับ ตั้งแต่ 200-700 Mbps ฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้า และค่าบำรุงรักษารายเดือน ยังมีสิทธิ์ซื้ออุปกรณ์เสริมราคาพิเศษอีกด้วย

4. อินเทอร์เน็ตบ้าน CAT – CAT Work All Day Play All Nightเป็นแพ็กเกจที่สามารถเลือกความเร็วอินเทอร์เน็ตได้ความเร็วสูงสุดเริ่มต้น100 Mbps และช่วงความเร็วต่ำเริ่มต้น 30 Mbps วันเสาร์-อาทิตย์ ได้รับความเร็วเต็มที่ 24 ชั่วโมง

มูลเพิ่มเติมจาก Tadoo

สิ่งที่หลาย ๆ คนไม่ทราบคือการเปิดใช้อุปกรณ์ Wi-Fi นาน ๆ แบบข้ามวันข้ามคืนก็สามารถทำให้เราเตอร์มีปัญหาได้เหมือนกัน ฉะนั้น เพื่อให้เราเตอร์ของเราสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เราควรกำหนดเวลาสำหรับปิด-เปิดระหว่างวันบ้าง หรือเปิดเฉพาะเวลาต้องการใช้งาน จะช่วยให้เราเตอร์ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

ผลิตภัณฑ์อินเทอร์เน็ต

คู่มือยอดนิยมสำหรับอินเทอร์เน็ต