ไมโครซอฟต์ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกายืนยันจะเจรจาซื้อขายแอปพลิเคชัน Tik Tok แอปฯ สำหรับแชร์วิดีโอยอดนิยมของจีน แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเพิ่งประกาศแบน Tik Tok จากจีนก็ตาม โดยยืนยันจะดำเนินการเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้อย่างเข้มงวด ไม่ให้กระเทือนความมั่นคงประเทศ ด้านไบต์แดนซ์ เจ้าของ Tik Tok เผย การแทรกแซงอาจทำเพื่อให้ราคาซื้อขายถูกลง
จากรายงานของ BBC บริษัทไมโครซอฟต์ยืนยันจะเจรจากับบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) เจ้าของแอป Tik Tok ในอเมริกา แม้ว่าการซื้อขายจะหยุดชะงักเนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแบน Tik Tok จากจีนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ทางไมโครซอฟต์คาดว่าจะได้ข้อสรุปกับไบต์แดนซ์ภายในวันที่ 15 กันยายน
อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟต์ยืนยันว่าหากเจรจาสำเร็จ จะจัดการเรื่องข้อมูลความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศอย่างเต็มที่โดยจะโยกย้ายข้อมูลผู้ใช้แอปในอเมริกาทั้งหมดออกมาเก็บไว้ในฐานข้อมูลของอเมริกาและข้อมูลอื่น ๆ ที่อยู่ในฐานข้อมูลนอกประเทศก็จะลบออกทั้งหมด
ถึงอย่างนั้น การเจรจาซื้อขายของบริษัทยักษ์ใหญ่ก็ยังไม่ราบลื่นเนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันจะแบนแอปพลิเคชันจากจีนโดยอ้างถึงความเสี่ยงที่ข้อมูลความมั่นคงของประเทศจะรั่วไหล แม้ว่าแอปพลิเคชัน Tik Tok จะมีผู้ใช้ในอเมริกาถึง 80 ล้านคน และบริษัทไบต์แดนซ์ก็ทำให้เกิดการจ้างงานในประเทศหลายพันตำแหน่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ทางไบต์แดนซ์มองว่า เหตุผลที่ทรัมป์แทรกแซงการซื้อขายอาจเป็นการช่วยเหลือทางอ้อมเพื่อให้ไมโครซอฟต์ได้ราคาที่ถูกลงกว่านี้
ทั้งนี้ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน นั้นเป็นเรื่องที่เรื้อรังมาระยะหนึ่งแล้วจากการค้าขายระหว่างประเทศ, การควบคุมการระบาดของโควิด-19 จนมาถึงเรื่องแอปฯ Tik Tok ที่มีการอ้างว่าเกิดการรั่วไหลของข้อมูลผู้ใช้ทำให้เสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ
ที่มา BBC
