ข่าว

วิปรัฐบาล ลงมติ แก้รธน.ม.256 ไม่แตะ หมวด1-2 พร้อมตั้งส.ส.ร.

วิปรัฐบาล ลงมติ แก้รธน. ม.256 ไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 พร้อมตั้ง ส.ส.ร. ยัน เตรียมทำโครงสร้างให้เร็วที่สุด คาด จะแล้วเสร็จก่อนกมธ. สรุปผลยื่นประชุมสภา

วันนี้ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) พร้อมด้วยตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค แถลงภายหลังการประชุมวิปรัฐบาลถึงการยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของฝ่ายรัฐบาล

โดยนายวิรัชกล่าวว่า หลังจากที่ให้แต่ละพรรคไปทำการบ้านเรื่องประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญของแต่ละพรรคว่ามีประเด็นอะไรบ้าง ประกอบกับเมื่อวานได้ฟังการแถลงข่าวของทางสำนักนายกฯ ว่าทางรัฐบาลจะไม่มีส่วนของรัฐบาลส่งมา แต่จะให้วิปรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ

ดังนั้น จากการพูดคุยกันในวิป ได้ข้อสรุปว่า

  1. จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560
  2. จะเริ่มจากการแก้ไขมาตรา 256 ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองก็ได้ยื่นไปแล้ว โดยไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 ขณะที่บางพรรคอาจจะแก้ทุกหมวด แต่พรรคร่วมรัฐบาลเรามีข้อสรุปว่า จะแก้มาตรา 256 โดยไม่แตะต้องหมวดที่ 1 และหมวดที่ 2 ส่วนหมวดอื่น ๆ จะอยู่ในระหว่างที่เราปรึกษาหารือ
  3. จะตั้ง ส.ส.ร.เพื่อมาดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม ทางวิปรัฐบาลจะเริ่มเตรียมทำโครงสร้างของส.ส.ร. ให้เร็วที่สุด โดยคาดการณ์ว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จก่อนที่คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสรุปผลการศึกษาเข้าสู่ที่ประชุมสภา จากนั้นจึงจะดำเนินการยื่นญัตติ ซึ่งจะยื่นอย่างเป็นเอกภาพ คือยื่นพร้อมกัน

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีหลายคนออกความเห็นว่าฝ่ายรัฐบาลดำเนินการเรื่องนี้ช้าไป ทั้งที่เรื่องนี้เป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลด้วยซ้ำไป นายวิรัชกล่าวว่า ในส่วนนี้เราถือว่าไม่ช้า เพราะเราบอกเสมอว่า เราต้องรอการศึกษาของ กมธ.ก่อน และถ้าบอกว่ารัฐบาลช้าเราก็ต้องถามกลับว่า ฝ่ายค้านยื่นเร็วไปหรือไม่ ยื่นแล้วไม่ได้รอผลของการศึกษาเลยหรือ แต่ก็ไม่เป็นไร ในส่วนของเรา เราดำเนินการตามขั้นตอน

สำหรับโครงสร้างของส.ส.ร. คร่าว ๆ นั้น นายวิรัชระบุว่า วางไว้กว้าง ๆ ยังไม่ได้ลงรายละเอียด ซึ่งอาจจะมีตัวแทนของจังหวัด ต้องมีนักวิชาการ ฯลฯ เหล่านี้ต้องไปพูดกันในพรรคร่วมรัฐบาล

kamon w.

จบสายภาษาแต่หนีไปทำงานด้านบริการเกือบ 2 ปี ตอนนี้กลับมาขีด ๆ เขียน ๆ อีกครั้ง พร้อมแพสชั่นในงานข่าวที่เต็มเปี่ยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button