Connect with us

ทำอย่างไรเมื่อรถเสีย

มีประกันรถยนต์ หายห่วงเรื่องรถเสีย ดูแลทั้งรถและตัวคุณ

รถเสียเกิดจากสาเหตุใดบ้าง

การมีรถยนต์ไม่ใช่เพียงว่าขับเป็นอย่างเดียว แต่เราต้องรู้จักดูแลรักษารถยนต์ของเราด้วย เพื่อการใช้งานรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ จะได้ไม่ต้องมาซ่อมรถกันบ่อยๆ นอกจากจะเสียเงินแล้วยังเสียเวลาอีกด้วย ไหนจะปัญหาตามมาอื่นๆ เช่น ความไม่สะดวกเมื่อต้องนำรถเข้าซ่อมเพราะต้องใช้รถไปทำงานทุกวัน ทำให้เสียประโยชน์จากการขาดใช้รถ และกรณีรถเสียด้วยตัวของรถเอง ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ หากคุณไม่ได้ซื้อความคุ้มครองเสริมไว้ ประกันก็ไม่คุ้มครอง เช่น กรณียางแตก ฉีกขาด หากเกิดด้วยตัวยางเองประกันไม่คุ้มครอง แต่หากเป็นเพราะอุบัติเหตุขับตกหลุมบ่อ แบบนี้จึงจะเคลมประกันได้

จุดเด่น

  • หากไม่ใส่ใจเรื่องการบำรุงรักษารถ อาจเจอปัญหารถเสียได้
  • แนวทางปฏิบัติหากเกิดปัญหารถเสียขึ้นกับคุณ
  • ความคุ้มครองเสริม หรือบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนช่วยคุณได้

สาเหตุที่ทำให้รถเสีย

-ปัญหาจากแบตเตอรี่ โดยปกติแล้วแบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้รถ ปัญหาจากแบตเตอรี่ เช่น แบตเสื่อม ส่งผลให้รถสตาร์ทไม่ติด วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นคือ ให้พ่วงสายชาร์จ เพื่อชาร์จแบตเตอรี่จากรถคันอื่นมาก่อนจากนั้นค่อยนำรถไปเช็คอีกที

-ปัญหาจากระบบไฟฟ้า คือ การที่ระบบไฟฟ้าภายในรถทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ไม่มีแรงมากพอในการสตาร์ทรถ คุณอาจจะสังเกตได้จาก จอภาพ จอวิทยุ มีไฟไม่สม่ำเสมอ,ไฟหน้าปัดไมล์รถมีแสงมืดกว่าปกติ วิธีแก้ คือ หากพ่วงแบตแล้วไม่หาย ให้นำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจสอบ

-ปัญหาจากไดชาร์จ คือ อาการคล้ายกับแบตเสื่อม แต่ยังสตาร์ทรถได้บ้างในบางครั้ง วิธีแก้เบื้องต้น คือ ลองพ่วงแบตเตอรี่ดู พอสตาร์ทสักพักแล้วถอดขั้วข้างหนึ่งออก หากรถดับหรือกระตุกนั่นแสดงว่ามีปัญหาที่ไดชาร์จแน่นอน

-ปัญหาจากไดสตาร์ท หากเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่แล้วรถยังสตาร์ทไม่ติดอีก หรือมีเสียงผิดปกติขณะทำการสตาร์ทรถ นั่นบ่งบอกถึงไดสตาร์ทมีปัญหา ซึ่งมีได้หลายสาเหตุ เช่น เช่น สายไฟหลุด, ฟิวส์ขาด, แปรงถ่านหมด

-ปัญหาจากยางรถยนต์ อาจเกิดจากยางรถที่ใช้งานมาในระยะเวลานาน เกิดการเสื่อมสภาพ ส่งผลทำให้ยางรั่ว ยางแบน หรืออาจเกิดจากสาเหตุขับรถไปเหยียบของแหลมคม เช่น ตะปู นอกจากนี้สภาพอากาศก็ส่งผลต่อยางรถยนต์เช่นกัน เพราะอากาศที่ร้อนจัดในฤดูร้อนจะทำให้แรงดันลมในยางสูงขึ้นมากกว่าปกติ จนอาจทำให้ยางรถยนต์ระเบิดขึ้นมาได้

แนวทางปฏิบัติหากเกิดปัญหารถเสียกลางทางแต่ยังพอเคลื่อนตัวไปได้

หากวันดีคืนดี รถที่เราขับๆ อยู่เกิดเสียหรือดับระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นบนทางปกติ หรือบนทางด่วน ซึ่งเราคงจะตกใจไม่น้อยและอาจจะทำอะไรไม่ถูก สิ่งสำคัญอันดับแรก คือ เราต้องตั้งสติ เพื่อหาหนทางแก้ไขปัญหาต่อไป โดยหากเกิดรถเสียระหว่างทางในกรณีที่เกิดสิ่งผิดปกติขึ้นกับรถของเรา แต่รถยังพอที่จะสามารถเคลื่อนตัวไปได้ ให้พยายามบังคับเราไปไว้ข้างทางก่อน เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น แต่หากรถดับสนิทไม่สามารถเคลื่อนตัวได้เลย ให้รีบเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อเป็นสัญญาณเตือนรถคันอื่นว่ามีรถเสียอยู่ หากมีอุปกรณ์เสริม เช่น ป้ายสามเหลี่ยม ก็ควรนำมาวางเตือนรถคันอื่นไว้เช่นกัน

“เจอปัญหารถเสียกลางทาง ตั้งสติ รีบโทรหาประกันรถยนต์”

แนวทางปฏิบัติหากเกิดปัญหารถเสียกลางทางที่ไม่สามารถเคลื่อนตัวได้

ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่อย่างยิ่ง เพราะจะทำให้การจราจรติดขัด ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถใช้ถนนคันอื่นๆ ดังนั้น โทรขอความช่วยเหลือให้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะเบอร์ช่าง เบอร์รถลากที่คุณมีส่วนตัว หรือไม่ว่าจะเป็นโทรแจ้งตำรวจ เพื่อขอความช่วยเหลือ หากเกิดรถเสียบนทางด่วนให้โทรหาการทางพิเศษ แต่หากคุณทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะโทรหาใครจริงๆ ให้โทรหาบริษัทประกันรถยนต์ที่คุณซื้อไว้ เพราะมีเจ้าหน้าที่ช่วยประสานงานหรือพร้อมช่วยเหลือคุณได้ เช่น แจ้งเบอร์ รถลากที่อยู่บริเวณใกล้เคียง หรือประกันบางบริษัทมีความคุ้มครองกรณีรถเสียกลางทาง ก็จะประสานงานให้คนเข้ามาช่วยเหลือคุณ

รถเสียเกิดขึ้นได้ เลือกประกันรถยนต์ที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนสิ ช่วยคุณได้

บริษัทประกันรถยนต์มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนอย่างไรบ้าง

ในบางครั้งเราขับรถอยู่บนถนนอยู่ดีๆ รถก็เกิดเสียขึ้นมา ในบางครั้งก็น้ำมันหมด แบตเตอรี่หมด หรืออาจจะลืมกุญแจไว้ในรถ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนจึงเป็นบริการเสริมที่ช่วยอำนวยความสะดวกอย่างดี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน มีดังนี้

  • บริการรถยกและรถลากฉุกเฉิน เมื่อรถยนต์เสียกลางทางจนไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ไม่ว่าจะเป็นจากการขัดข้องของเครื่องยนต์ ช่วงล่าง หรือระบบไฟฟ้า บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนี้จะช่วยจัดหารถยก-รถลาก และนำส่งอู่ซ่อมหรือศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด
  • บริการชาร์จแบตเตอรี่ กรณีที่แบตเตอรี่รถยนต์หมด ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด บริการช่วยเหลือฉุกเฉินก็จะช่วยเหลือในการพ่วงแบตเตอรี่ให้ ซึ่งเราอาจต้องจ่ายเพิ่มในส่วนของค่าแรงและแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนใหม่
  • บริการเปลี่ยนยางอะไหล่ เมื่อเกิดเหตุกับยางรถของเรา เช่น ยางแบน ยางรั่ว ยางระเบิด สามารถขอรับบริการในการเปลี่ยนยาง หรือขอความช่วยเหลือในการซ่อมแซมได้
  • บริการช่วยเหลือเกี่ยวกับกุญแจรถยนต์ หากเราลืมกุญแจไว้ในรถ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินจะเป็นผู้ประสานงานนำกุญแจสำรองมาให้ โดยลูกค้าจะเป็นผู้ให้ความยินยอมและรับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเอง
  • บริการหารถยนต์เช่า ในกรณีรถเสีย ไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับมาใช้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว บริการช่วยเหลือฉุกเฉินก็จะช่วยประสานงานจัดหารถเช่ามาให้ในการเดินทาง โดยลูกค้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
  • คำปรึกษาด้านเทคนิค หากรถเสียหรือเกิดเหตุฉุกเฉินต้องการที่ปรึกษา บริการช่วยเหลือฉุกเฉินมีผู้ชำนาญการไว้คอยให้คำปรึกษาด้านเทคนิคทางโทรศัพท์ เมื่อโทรติดต่อไปยังคอลเซนเตอร์ของบริษัทประกันนั้นๆ

การดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้นด้วยตัวเอง

ในการดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้นด้วยตัวเอง มีรายการที่ควรตรวจเช็ค ดังนี้

  • น้ำหล่อเย็น เช็คให้อยู่ในระดับ Full เสมอ
  • ระดับน้ำมันเครื่อง ดึงก้านวัดออกมาเพื่อตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่าง “F” กับ “L” แสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องปกติ
  • น้ำมันเบรก น้ำมันคลัทช์ ควรอยู่ที่ระดับ Max อยู่เสมอ
  • ระดับน้ำมันเกียร์ออโต้ ถ้าอยู่ที่ขีด F พอดี แสดงว่าระดับน้ำมันเกียร์ปกติ
  • ตรวจเช็คสภาพของสายพาน ถ้าพบรอยแตกเกิดขึ้น ควรทำการเปลี่ยนแต่เนิ่นๆ
  • ตรวจเช็คสภาพภายในห้องเครื่อง เช่น มีคราบน้ำซึมที่ท่อยางหม้อน้ำหรือไม่, มีคราบน้ำมันเครื่องรั่วซึมหรือไม่, สายไฟภายในห้องเครื่องเรียบร้อยดีไม่มีร่องรอยหนูมากัด เป็นต้น
  • ตรวจเช็คระบบไฟส่องสว่าง และไฟสัญญาณต่างๆ
  • ตรวจเช็คที่ปัดน้ำฝน
  • ตรวจเช็คยางรถยนต์

ทั้งนี้บริการช่วยเหลือแต่ละประเภทก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน ความช่วยเหลือบางอย่างในบางบริษัทก็มีพ่วงมาให้ในกรมธรรม์อยู่แล้ว แต่บางบริษัทก็ต้องซื้อประกันเสริมรถยนต์เพิ่ม ทั้งนี้ควรสอบถามให้แน่ชัดก่อนซื้อประกันว่ามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินหรือไม่ หากสนใจประกันรถยนต์ เลือกผ่าน tadoo.co คลิก

ผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์

ประเภทของประกันรถยนต์

คู่มือยอดนิยมสำหรับประกันรถยนต์