Connect with us

สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อรถคันแรก

อยากซื้อรถยนต์คันแรกแต่เริ่มต้นไม่ถูก ทาง Tadoo จะช่วยแนะนำสิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อรถคันแรก

ดูงบประมาณ

การดูงบประมาณ เราต้องทำความเข้าใจเรื่องดอกเบี้ยและเงินดาวน์ โดยราคารถทั่ว ๆ ไปมีตั้งแต่สี่แสนกว่า ๆ ไปจนถึงหลักล้าน ซึ่งการซื้อขายเราจะซื้อผ่านเงินสดก็ได้ หรือจะผ่อนก็ได้ ถ้าซื้อแบบผ่อนก็แปลว่าเราต้องมีเงินดาวน์ ซึ่งเงินดาวน์ คือ เงินที่ผู้ขายสินค้าเรียกเก็บจากผู้ซื้อล่วงหน้า ซึ่งส่วนมากจะนิยมเรียกเก็บเป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับราคาเต็ม เช่น 10%, 20% หรือ 25% เป็นต้น ส่วนที่เหลือจะผ่อนส่งเป็นงวด ๆ ไปจนครบตามสัญญา ส่วนใหญ่ถ้าดาวน์ต่ำกว่า 15% ก็จะต้องมีคนค้ำประกัน จำนวนเงินที่เราดาวน์ก็จะมีผลต่อการคิดดอกเบี้ยในการผ่อนชำระ เช่น ดาวน์ 15% ดอกเบี้ยก็จะแพงกว่า ดาวน์ 25% เงื่อนไขก็จะอยู่ที่ธนาคารที่เรายื่นกู้

จุดเด่น

  • ซื้อรถยนต์คันแรกทั้งทีต้องคิดให้รอบด้านที่สุด
  • มีรถยนต์แล้วต้องทำ พ.ร.บ.และประกันรถยนต์ด้วย
  • เลือกรถที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของเรา

เลือกประเภทรถที่เหมาะกับการใช้งานของเรา

ประเภทรถมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น รถเก๋ง, รถEco Car, รถกระบะ, รถ SUV, รถสปอร์ต, รถซูเปอร์คาร์, รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งแต่ละประเภทก็มีวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เช่น

– รถ City Car เหมาะสำหรับการเน้นขับในเมือง ไม่ได้ขับทางไกลมากนัก เช่น Honda Jazz, Mazda 2, Toyota Vios เป็นต้น
– รถ Eco Car เหมาะกับการประหยัดน้ำมัน เช่น Nissan March, Honda Brio เป็นต้น
– หากใครขับทางไกลขึ้นมาหน่อย มีไปต่างจังหวัดบ่อย ให้เลือกพวกรถยนต์ขนาดกลางเช่น Civic, Mazda 3 หรือเลือกแบบขนาดใหญ่ไปเลยอย่าง Camry, Accord เป็นต้น
– รถ SUV หรือรถ 5 ประตู เป็นรถที่เหมาะกับครอบครัว เพราะนั่งได้หลายคน บรรจุของได้เยอะ เช่น CX5, CRV
– รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV ก็เป็นรถที่กำลังมาแรงในยุคนี้เลย ซึ่งใช้พลังงานจากไฟฟ้าแทนน้ำมัน แต่ราคาก็ยังค่อนข้างสูงอยู่ เช่น Tesla, BYD, Nissan Leaf เป็นต้น
– รถสปอร์ต และรถซูเปอร์คาร์ เหมาะสำหรับใครที่มีงบประมาณสูงอยากได้รถเครื่องยนต์แรงดีไซน์ไม่ค่อยเหมือนใคร

ดูขนาดเครื่องยนต์ เลือกใช้เชื้อเพลิงให้เหมาะสม

ขนาดของเครื่องยนต์ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเรา เช่น
– เครื่องยนต์ขนาด 1,200 – 2,000 เน้นใช้รถวิ่งในเมือง
– เครื่องยนต์ขนาด 2,000 ขึ้นไปเพื่อให้มีอัตราเร่งไว้ใช้งาน เน้นใช้รถวิ่งนอกเมือง

สำหรับเชื้อเพลิงของรถยนต์ คือ น้ำมัน ซึ่งรถยนต์แต่ละรุ่นเติมน้ำมันไม่เหมือนกัน รถแต่ละประเภทจะมีระบุไว้อยู่แล้วที่ด้านในของฝาถังน้ำมัน โดยน้ำมันรถยนต์หลัก ๆ ก็คือ เบนซิน และ ดีเซล

1. น้ำมันเบนซิน จะได้เรื่องอัตราเร่งที่ไหลลื่น ส่วนใหญ่จะใช้กับรถเก๋งหลาย ๆ รุ่น มีประเภทน้ำมันให้เลือกเช่น 91, 95, E20, E85 มีความแตกต่างกันดังนี้

– ประเภทน้ำมัน 91 กับ 95 ราคาจะค่อนข้างสูง
– E20, E85 น้ำมันประเภทนี้ข้อดีคือ ราคาถูก ข้อเสียคือน้ำมันจะหมดไวกว่าแบบ 91 กับ 95 เพราะมีปริมาณแอลกอฮอล์ที่สูงกว่า และจะต้องหมั่นดูแลเครื่องยนต์ เพราะแอลกอฮอล์จะกัดกร่อนเครื่องยนต์

2. น้ำมันดีเซล จะได้แรงบิดที่เยอะ ส่วนใหญ่จะใช้กับรถกระบะ เพราะต้องใช้แรงมากตอนที่ขนของเยอะ ๆ

“อย่าเติมน้ำมันรถผิดประเภทเด็ดขาด จะส่งผลเสียต่อรถยนต์”

เลือกแบรนด์รถให้เหมาะกับเรา

รถยนต์ที่มีการซื้อขายกันในประเทศไทยเรา ส่วนใหญ่หลัก ๆ ที่เห็นจะเป็นค่ายรถญี่ปุ่น และค่ารถยุโรป ซึ่งสองค่ายนี้ ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันไป ดังนี้

ข้อดีของรถญี่ปุ่น
– ราคาถูก อะไหล่ถูก
– หาศูนย์บริการซ่อมง่าย
– รุ่นที่ฮิต ๆ ราคาขายต่อไม่ค่อยตก

ข้อเสียของรถญี่ปุ่น
– คุณภาพตามราคา
– คุณภาพวัสดุอาจไม่สูงมาก

ข้อดีของรถยุโรป
– มีความหรูหรา
– จัดเต็มเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก

ข้อเสียของรถยุโรป
– ราคาแพง อะไหล่หายาก
– ราคาขายต่อค่อนข้างตก

ใช้งานรถแบบไหน เลือกประเภทรถแบบนั้น เพื่อความเหมาะสมและช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตประจำวัน

ดูเรื่อง Option เสริมและบริการหลังการขาย

Option เสริม ได้แก่ เรื่องเบาะ ซึ่งจะมีเบาะหนัง กับเบาะผ้า ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกันคือ

ข้อดีของเบาะหนัง
– หรูหราดูดี
– ดูแลง่าย
– ลดปัญหาเรื่องการสะสมฝุ่น

ข้อเสียของเบาะหนัง
– หนังจะเสียง่ายถ้าจอดรถตากแดดร้อนจัดบ่อย ๆ
– ถ้ารถร้อน เบาะก็ร้อนด้วย
– เบาะหนังมีความลื่น นั่งแล้วไหลตามแรงเหวี่ยงได้ง่าย

ข้อดีของเบาะผ้า
– ราคาถูก
– มีลวดลายให้เลือกมากมาย
– นั่งแล้วไม่ลื่น หรือไหลไปตามแรงเหวี่ยงของรถ

ข้อเสียของเบาะผ้า
– มีการสะสมของฝุ่น
– เกิดกลิ่นอับได้ง่ายกว่าแบบหนัง
– ทำความสะอาดยาก

นอกจากเรื่อง Option เสริมแล้ว ก่อนซื้อรถยนต์เช็กบริการหลังการขายก่อนจะดีที่สุด เช่น ศูนย์บริการดีหรือไม่ ตรวจเช็กว่ามีการบริการอะไรที่โดนร้องเรียนบ้าง และระยะเวลาการรับประกัน ต้องศึกษาให้ดี ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อรถของแต่ละบริษัทนั้น ๆ

ทำประกันรถยนต์

ประกันภัยแรกที่คนมีรถทุกคนควรทำ คือ ประกันภัยภาคบังคับหรือ พ.ร.บ. ส่วนประกันภาคสมัครใจมีให้เลือกทำหลายประเภท แต่ส่วนมากแล้วการทำประกันของรถใหม่ป้ายแดงเพิ่งออกจากศูนย์คือ ประกันรถยนต์ชั้น 1

ประกันรถยนต์ชั้น 1 – ความคุ้มครองสูงสุด เบี้ยประกันแพงสุด ค่อนข้างครอบคลุมทุกเหตุ เช่น คุ้มครองอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถเฉี่ยวชนกำแพง ฟุตบาท ต้นไม้ เป็นต้น ความคุ้มครองเป็นไปตามทุนประกันที่ทำไว้ ยิ่งทุนสูงเบี้ยประกันยิ่งแพง เหมาะกับรถใหม่ รถหรูราคาแพง รถซูเปอร์คาร์ รถสปอร์ต และรถอื่น ๆ ที่ต้องการความคุ้มครองสูงสุด รวมถึงคุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ และน้ำท่วมอีกด้วย

นอกจากสิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์คันแรก ยังต้องเตรียมงบประมาณสำรองในการบำรุงดูแลรักษารถยนต์ในอนาคตด้วย เช่น ค่าเช็กระยะ เปลี่ยนยาง เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ติดฟิล์ม เป็นต้น เพื่อให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างรอบคอบที่สุด จึงควรค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ศึกษาหาข้อมูล สิ่งสำคัญที่สุดเลยคือความจำเป็นในการมีรถยนต์ของเรา หากตัดสินใจซื้อรถยนต์แล้ว อยากทำหรือต่อประกันรถยนต์ เลือกผ่าน Tadoo

ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับรถยนต์

ความคุ้มครองรถพังเสียหาย

เพิ่มเติม

ความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน

เพิ่มเติม

ความคุ้มครองรถสำหรับธุรกิจ

เพิ่มเติม

ประเภทของประกันรถยนต์

คู่มือยอดนิยมสำหรับรถยนต์