พรีเมียร์ลีก

สรุปผล พรีเมียร์ลีก นัดที่ 35 พร้อมไฮไลท์ทุกคู่ และอัปเดตตารางคะแนนล่าสุด

สรุปผล พรีเมียร์ลีก นัดที่ 35 พร้อมไฮไลท์ทุกคู่ และอัปเดตตารางคะแนนล่าสุด

(คลิกที่ผลการแข่งขันเพื่อชมไฮไลท์)

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม 2563

นอริช ซิตี้ 0-4 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
วัตฟอร์ด 2-1 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
ลิเวอร์พูล 1-1 เบิร์นลีย์
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-0 เชลซี
ไบรท์ตัน 0-5 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม 2563

วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส 3-0 เอฟเวอร์ตัน
แอสตัน วิลล่า 2-0 คริสตัล พาเลซ
ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 2-1 อาร์เซนอล
บอร์นมัธ 4-1 เลสเตอร์ ซิตี้

วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2563

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-2 เซาแธมป์ตัน

 

สรุปเหตุการณ์น่าสนใจประจำแมตช์เดย์ที่ 35

  • “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้ กลายเป็นทีมแรกที่ต้องตกชั้นไปเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลหน้า หลังเจอ มิเชล อันโตนิโอ ของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซัดคนเดียว 4 ประตู พาทีมถล่มด้วยสกอร์ 4-0
  • “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอกับ เบิร์นลีย์ 1-1 ทำให้การสร้างสถิติคว้าคะแนนสูงที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ของพวกเขาต้องพบกับความยากลำบากมากขึ้น ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะพลาดเสมอ หรือแพ้ไม่ได้แล้ว หากต้องการล้มสถิติ 100 คะแนนถ้วนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
  • เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทำช็อคแฟนบอลด้วยการเปิดถล่ม “สิงห์บลูส์” เชลซี ถึง 3 ประตูต่อ 0 มีลุ้นตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แถมยังทำให้ช่องว่างระหว่าง เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด ห่างกันเพียงแค่ 2 แต้มเท่านั้น โดย “ผีแดง” แข่งน้อยกว่าอยู่หนึ่งนัด
  • ราฮีม สเตอร์ลิง กดคนเดียว 3 ประตู ในเกมที่ “เรือใบสีฟ้า” ถลุง ไบรท์ตัน 5-0
  • วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ยังคงเกาะกลุ่มลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรปต่อไป หลังเปิดบ้านคว้าชัยเหนือ เอฟเวอร์ตัน ของ คาร์โล อันเชล็อตติ ไปด้วยสกอร์ 3-0
  • เช่นเดียวกับ แอสตัน วิลล่า และ บอร์นมัธ ที่เก็บสามคะแนนล้ำค่าในโซนหนีตกชั้นได้ โดยเฉพาะรายหลังถึงขั้นถล่ม เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับที่ 4 ของตารางขาดลอยถึง 4-1
  • ไฮไลท์ประจำสัปดาห์หนีไม่พ้น นอร์ธลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ระหว่าง สเปอร์ส และ อาร์เซนอล – แม้ ลากาแซตต์ จะเป็นฝ่ายซัดขึ้นนำไปก่อนอย่างสุดสวย แต่ด้วยความผิดพลาดของแนวรับปืนโต ทำให้ สเปอร์ส พลิกกลับมาเอาชนะจากลูกโหม่งช่วงท้ายเกมของ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ พวกเขาแซงขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 8 ของตารางมี 52 คะแนน นำ อาร์เซนอล อยู่ 2 แต้ม
  • คู่สุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ที่โดนยิงนำไปก่อนในช่วงต้นเกม มารัวแซง 2 ลูกภายในเวลา 10 นาทีแต่กลับพลาดท่าให้ ไมเคิล โอบาเฟมี่ ตัวสำรองของ เซาแธมป์ตัน ดีดประตูชัยเข้าไปในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หยุดอยู่ที่ 59 คะแนน เท่ากับ เลสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น

ไฮไลท์ประจำสัปดาห์ – ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ พบ อาร์เซนอล

‘โคล่า’ แจกโชค! ไฮไลท์ สเปอร์ส 2-1 อาร์เซนอล : พรีเมียร์ลีก – ปืนบุกหนักเจอ โทบี้ โหม่งชัย

11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

  • สเปอร์ส: (GK) โยริส, ออริเยร์, อัลเดอร์ไวเรลด์, ซานเชซ, เดวีส์, วิงค์ส, ซิสโซโก้, โล เซลโซ่, ลูคัส, ซน และ แฮร์รี่ เคน
  • อาร์เซนอล: (GK) มาร์ติเนซ, มุสตาฟี่, ลุยซ์, โคลาซินัช, เบเญริน, เซบาญอส, ชาก้า, เทียร์นีย์, เปเป้, ลากาแซตต์ และ ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง

GOAL! นาทีที่ 16 แซร์จ ออริเยร์ ไปเสียบอลหน้ากรอบเขตตัวเอง อเลซองดร์ ลากาแซตต์ ได้บอลเยื้องซ้าย เจ้าตัวแต่งนิดเดียว หวดเปรี้ยงบอลคมกริบเป็นใบมีดเสียบสามเหลี่ยม อาร์เซนอล นำ 1-0

GOAL! นาทีที่ 19 ถือว่าเป็นช็อตลายเซ็นของ “ไอ้ปืนใหญ่” จริงๆ จากจังหวะที่บอลไม่มีอะไร แต่ เซอัด โคลาซินัช ไปจ่ายคืนหลังให้ ดาวิด ลุยซ์ พลาดเจอ ซน ฮึง-มิน สปริ้นท์ไปแย่งมาได้ ก่อน ซูเปอร์สตาร์ชาวเกาหลีใต้ จะพาบอลไปยกผ่านตัว เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ง่ายๆ สกอร์เป็น 1-1

นาทีที่ 30 เบน เดวิส ได้บอลขอลองซัดระยะไกล 30 หลา มาร์ติเนซ ปัดปลายมือไปชนคาน ไก่ เกือบนำ

ครึ่งหลังรูปเกมก็ยังคงสนุก เป็น อาร์เซนอล ที่ครองบอลโหมใส่ สเปอร์ส อยู่ฝ่ายเดียว พร้อมเปอร์เซ็นต์การครองบอลที่มากกว่า 80% ส่วน เจ้าบ้าน ก็พยายามหาจังหวะสวนกลับแต่ยังไม่ชัดเจน

Embed from Getty Images

นาทีที่ 59 เปเป้ ไปแย่งบอลได้หน้าหัวกะโหลกของ สเปอร์ส ได้ก่อนส่งต่อ ลากาแซตต์ จ่ายให้ โอบาเมยอง หลุดไปโล่งๆ ทางซ้าย ศูนย์หน้าชาวกาบอง กดด้วยซ้ายข้างไม่ถนัด บอลชนคานสนั่น

นาทีที่ 70 จากจังหวะสวนกลับไวของ สเปอร์ส เดวิส สวนตูมเดียวมาถึง แฮร์รี่ เคน ที่เอาชนะ ชโคดราน มุสตาฟี่ มาได้แบบง่ายๆ แล้วตบให้ ซน ฮึง-มิน ตรงจุดนัดพบ แต่ มาร์ติเนซ ก็ยังวิ่งมารวบแบบเฉียดฉิว

GOAL! นาทีที่ 81 สเปอร์ส ขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ ซน ฮึง-มิน เปิดลูกเตะมุม อัลเดอร์ไวเรลด์ ขึ้นโขกเอาชนะ เทียร์นีย์ ได้แบบสบายบรื๋อบอลเสียบมุมประตู มาร์ติเนซ หมดสิทธิ์เซฟ ปืน ครองเกมแต่โดนยิง

ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อัปเดตล่าสุด 14 กรกฎาคม 2563

ภาพจาก Premier League

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button