เมื่อคุณทราบว่า คุณจะมีรายได้หลังเกษียณอย่างไรบ้างแล้วนั้น สิ่งที่คุณต้องทำต่อมาคือต้องวางแผนการเกษียณของคุณ Tadoo มีขั้นตอนในการเตรียมตัวเกษียณไว้ 4 ข้อดังนี้
1. กำหนดอายุที่ต้องการเกษียณ คุณอยากจะเกษียณตอนไหน ให้คุณกำหนดอายุที่คุณต้องการเกษียณเอาไว้เลย เช่น อยากเกษียณตอนอายุ 60 ปี เพื่อจะได้รู้ว่าคุณมีเวลาเตรียมตัว เตรียมเงิน และเตรียมใจ อีกนานเท่าไหร่
2. ประมาณช่วงระยะเวลาที่จะใช้ชีวิตหลังเกษียณ เช่น 20, 30 หรือ 40 ปี เพื่อให้คุณรู้ว่าคุณจะใช้เงินหลังเกษียณอีกกี่ปี
3. ประมาณการรายได้และค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ ให้คุณประเมินจากไลฟ์สไตล์ของคุณที่อยากทำหลังจากเกษียณ เช่น ท่องเที่ยว พักผ่อน รวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลเมื่อคุณเจ็บป่วยเอาไว้ด้วย โดยประมาณเป็นรายเดือน คูณด้วย 12 เดือน แล้วคูณด้วยจำนวนปีที่จะใช้ชีวิตหลังจากเกษียณ
5. เริ่มต้นวางแผนการออมในปัจจุบัน ประมาณจากรายได้หลังเกษียณ แล้วให้คุณวางแผนว่าปัจจุบันคุณต้องเก็บเงินอีกเท่าไหร่ถึงจะมีเงินใช้ในยามเกษียณ พร้อมทั้งวางแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับคุณด้วย
คนวัยทำงานส่วนมากคิดว่า วัยเกษียณเป็นเรื่องไกลตัว อีกตั้งนานกว่าจะเกษียณ แต่เชื่อไหมว่า ถ้าเราไม่ได้วางแผนการเงินสำหรับวัยเกษียณตั้งแต่ตอนนี้ มาคิดวางแผนเกษียณตอนอายุมากขึ้นก็ไม่ทันแล้ว แต่ถ้าคุณเตรียมพร้อมสำหรับวัยเกษียณตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน ก็จะทำให้คุณสบายใจ ไร้ปัญหาเรื่องการเงิน เพราะคุณจะมีเงินมากพอสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ท่องเที่ยว รวมถึงค่ารักษาพยาบาลในอนาคตอีกด้วย Tadoo ขอเสนอวิธีออมเงินสำหรับใช้ในวัยเกษียณให้คุณ ไปดูกันเลย
วัยเกษียณ เป็นวัยที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งโรคร้าย อุบัติเหตุและอื่นๆ ให้ประกันช่วยดูแลดีกว่า Tadoo ขอเสนอประกันที่เหมาะกับวัยเกษียณที่สุด
ประกันชีวิตผู้สูงอายุทำได้ง่าย ข้อดีไม่ต้องตรวจสุขภาพ เบี้ยประกันค่อนข้างถูก
เจ็บป่วยต้องไปโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นกรณีผู้ป่วยนอก หรือผู้ป่วยใน บริษัทประกันก็จะจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลให้
ป่วยด้วยโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ ไม่ต้องนำเงินเก็บทั้งหมดไปรักษาตัว บริษัทประกันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แทน
เพราะการซื้อประกันชีวิตเหมือนกับการวางแผนการออมทรัพย์เพื่ออนาคต เป็นการบริหารความเสี่ยงเพราะหากเกิดอะไรขึ้นกับเรา คนที่เรารักก็ยังได้รับเงินชดเชยจากประกันที่เราซื้อไว้
1. เป็นการวางแผนการออมทรัพย์เพื่ออนาคต เพื่อคุ้มครองชีวิตในด้านการเงิน ฝึกวินัยการออม เพื่อแผนอนาคตที่มั่นคง
2. เพื่อเป็นหลักประกันชีวิตให้กับคนที่เรารัก กระจายความเสี่ยงเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระการเงินแก่คนที่เรารักเมื่อเราจากไป
3. สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท รับประโยชน์ในรูปแบบของเงินคืนและการลดหย่อนภาษี
14,795 รีวิว
ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในกองทุนรวม พันธบัตร ตราสารหนี้ หุ้นกู้ หุ้นสามัญ ซึ่งการลงทุนแต่ละประเภทก็จะมีอัตราผลตอบแทนที่แตกต่างกันไป และความเสี่ยงจากการลงทุนนั้นก็แตกต่างกันอีกด้วย การลงทุนที่ได้ผลตอบแทนมากมักจะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงกว่า ทั้งนี้คุณต้องประเมินความเสี่ยงก่อนการลงทุนทุกครั้ง เพื่อให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ