บัตรกดเงินสดเป็นอีกหนึ่งสินเชื่อส่วนบุคคล ในรูปของบัตรแข็งคล้ายกับบัตรเครดิต ออกโดยธนาคารและสถาบันการเงิน ลักษณะการใช้งานต่างจากบัตรเครดิต ชื่อสินเชื่อบอกจุดประสงค์ชัดเจนอยู่แล้วว่าใช้เพื่อ “กดเงินสด” จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำธุรกรรมที่ต้องใช้เงินสดเป็นหลัก
บัตรกดเงินสดใช้งานง่ายมาก เราสามารถกดเงินสดออกมาใช้ก่อนได้ตามวงเงินที่ธนาคาร สถาบันการเงินผู้ออกบัตรอนุมัติ จากนั้นจะมีการเรียกชำระตามยอดใช้งานจริงบวกดอกเบี้ย ผู้ถือบัตรกดเงินสดสามารถเลือกชำระยอดขั้นต่ำได้ เงินที่ชำระไปจะถูกหมุนเวียนกลับเข้ามาในบัตรอีกครั้ง
หนึ่งจุดเด่นของบัตรกดเงินสดคือไม่มีค่าธรรมเนียมการใช้งาน จะกดกี่ครั้ง กี่บาทก็ฟรี แต่มีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสียที่ต้องพิจารณาคือ แม้ชำระเงินเต็มจำนวนก็มีการคิดดอกเบี้ย บัตรกดเงินสดมีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดในกลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคล อยู่ที่ 28% ต่อปี (*ไม่ทุกเจ้า)
4 ขั้นตอนง่าย ๆ เพื่อเลือกโปรโมชั่นบัตรกดเงินสดที่เหมาะสมกับแผนการเงินของคุณมากที่สุด
สามารถเลือกได้ทั้งธนาคารหรือสถาบันการเงินชั้นนำ
กรอกข้อมูลส่วนตัวเบื้องต้น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด ช่องทางการติดต่อ
อาชีพ ฐานเงินเดือน ที่มาของรายได้
ค้นหาบัตรที่เหมาะสมกับการใช้งานที่คุณต้องการ
3,600 รีวิว
สมัครบัตรกดเงินสดไม่ได้ยากอย่างที่คิดค่ะ เข้าไปดูรายละเอียดใน tadoo ได้เลย เขามีให้ครบ
รู้งี้สมัครตั้งนานแล้ว ขั้นตอนก็ง่าย รายละเอียดดีเทลก็ชัดเจน รวดเร็วทันใจดี
มีไว้ก็ดีนะครับผมว่า พอถึงเวลาฉุกเฉินจริงๆ เราก็ใช้ประโยชน์จากมันได้
แนะนำให้หาข้อมูลก่อนสมัครจะดีกว่า ถ้าไม่แน่ใจเข้ามาดูใน tadoo ก็ได้ จะได้ไม่เสียใจทีหลัง
เว็บไซต์นี้ช่วยผมหาข้อมูลได้เร็วดีครับ ผมทำไว้แล้ว แนะนำว่าคนที่ชอบหมุนเงินไม่ทันควรมีไว้ครับ เดี๋ยวนี้สมัครออนไลน์ก็ง่ายนิดเดียว
เพิ่งรู้ว่าดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดสูงขนาดนี้เลย ขอบคุณเว็บ tadoo สำหรับข้อมูลดีๆ
บัตรกดเงินสดต่างจากบัตร ATM ตรงที่เงินที่กดออกมาเป็นเงินจากอนาคตที่เรา “เชื่อ” ธนาคาร สถาบันการเงินเอาไว้ และต้องชำระเงินที่ใช้คืนบวกดอกเบี้ยเมื่อถึงรอบชำระ
รูปแบบการชำระหนี้มีให้เลือก 2 แบบ คือ 1.จ่ายแบบเต็มจำนวน 2. จ่ายขั้นต่ำ เป็นการผ่อนจ่ายเงินที่กดไปโดยไม่ต้องจ่ายเต็มจำนวน
พึงระลึกไว้เสมอว่า บัตรกดเงินสด ไม่มีวันปลอดดอกเบี้ย ดอกเบี้ยเริ่มคิดตั้งแต่วันที่กดเงิน แม้จ่ายเงินเต็มจำนวนก็มีการคิดดอกเบี้ย ยิ่งถ้าจ่ายแบบขั้นต่ำจำนวนดอกเบี้ยก็จะเพิ่มขึ้น แม้อัตราดอกเบี้ยจะคำนวณแบบลดต้นลดดอกก็ตาม
Tadoo มีทริคแนะนำการใช้บัตรกดเงินสดเล็ก ๆ น้อย ๆ มาประกอบการพิจารณา ว่าใช้บัตรกดเงินสดอย่างไรให้เราไม่เป็นหนี้ จ่ายน้อยที่สุด
อย่างที่บอกว่า บัตรกดเงินสดดอกเบี้ยเริ่มเดินตั้งแต่วันที่กด ฉะนั้นเงินอนาคตที่เรากดมาใช้ ต้องมั่นใจว่าใช้จ่ายเพราะความจำเป็นจริง ๆ เช่น จ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมยานพาหนะ เพราะหากเรามือเติบ ใช้เงินนี้โดยไม่จำเป็น จะต้องเสียใจทีหลังเพราะดอกเบี้ยแน่นอน เนื่องจากบัตรประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุด
นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการชำระหนี้บัตรกดเงินสด เพราะอัตราดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดคิดเป็นรายวัน ท่องไว้ว่า จ่ายหนี้หมด ดอกเบี้ยก็หยุดเดิน *อัตราการคำนวณโปรดศึกษาจากรายละเอียดบัตรที่ท่านถือ
ไม่แนะนำชำระเงินแบบขั้นต่ำ บางธนาคารให้ผ่อนจ่ายต่ำสุด 3-5% ของยอดชำระเต็ม แต่ไม่เกิน 300-500 บาท บางคนตาพร่าหลงดีใจนึกว่าจ่ายน้อย จ่ายน้อยแต่จ่ายนานนี่แหละ ดอกเบี้ยบาน แต่ถ้าใครมีความจำเป็นต้องจ่ายแบบขั้นต่ำจริง ๆ แนะนำว่าให้ผ่อนจ่ายเงินเพดานมากที่สุดที่เราจ่ายไหว เพราะจำนวนเดือนที่ต้องผ่อนจะหมดเร็ว ดอกเบี้ยที่ถูกคิดก็จะน้อยลง
แม้วางแผนการเงินดีแค่ไหน อุบัติเหตุนอกแผนเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การทำบัตรกดเงินสดสำรองไว้ ช่วยคุณได้ยามต้องใช้เงินสดเป็นก้อน
Top tip: บัตรกดเงินสด ดอกเบี้ยเดินไม่มีวันหยุด ชำระหนี้ให้หมดเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
คุณเนตรนภา – ผู้ใช้งานจากทางบ้าน
หนึ่งในคำถามยอดฮิตของคนต้องการสมัครบัตรกดเงินสด คือ ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ถึงสามารถสมัครได้
จากการสำรวจของ Tadoo พบว่า ยอดเงินเดือนขั้นต่ำที่สามารถสมัครได้คือ 7,000 บาท เป็นบัตรกดเงินสด People Card ของธนาคารออมสิน ส่วนเพดานขั้นต่ำที่ธนาคาร สถาบันการเงินส่วนใหญ่นิยมกำหนดคือ 10,000 บาท เช่น บัตรกดเงินสดกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรกดเงินสด เทสโก้ โลตัส พรีเมียร์, บัตรกดเงินสด เดอะวัน เซ็นทรัล เฟิร์สช้อยส์ เป็นต้น
ส่วนวงเงินบัตรมากน้อยขึ้นอยู่กับฐานเงินเดือนของเรา โดยทั่วไปธนาคารอนุมัติสูงสุดที่ 5 เท่าของรายได้ เช่น เงินเดือน 10,0000 บาท มีสิทธิ์ได้วงเงินสูงสุด 50,000 บาท
Tadoo ยังมีผลิตภัณฑ์ด้านการเงินอีกหลายประเภท ตอบสนองทุกความต้องการของคุณ
รูดซื้อสินค้าและบริการ รับแต้มสะสม ลุ้นสิทธิ์เงินคืน และสิทธิประโยชน์อีกหลากหลาย
ขอสินเชื่อ วงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
กู้เงินผ่อนบ้านระยะยาว ไม่ต้องจ่ายเป็นเงินก้อน
ทำสินเชื่อกู้บ้านหลังเดิมกับสถาบันการเงินเจ้าใหม่ เพื่อปรับลดดอกเบี้ย เพิ่มระยะเวลาผ่อน
การคำนวณดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก เป็นวิธีนิยมใช้ของธนาคารกับการผ่อนจ่ายสินเชื่อแบบขั้นต่ำ เข้าใจง่าย ๆ คือ แบ่งจ่ายเงินขั้นต่ำเงินต้นเท่ากันทุกเดือน แต่เดือนแรกดอกเบี้ยจะสูงสุด เพราะยอดค้างชำระยังมากที่สุด แต่เดือนถัดไปดอกเบี้ยจะลดลง คำนวณตามยอดค้างชำระ ยิ่งเงินต้นเหลือน้อย ดอกเบี้ยในเดือนนั้น ๆ ยิ่งน้อยตาม
* อัตราดอกเบี้ย โปรดศึกษารายละเอียดตามเงื่อนไขบัตรกดเงินสดที่ท่านถือ
สมมติกดเงินสด 10,000 บาท สรุปยอดใน 27 วันต่อมา และจ่ายขั้นต่ำ 300 บาท ในอีก 17 วันต่อมา
ยอดเดินบัญชี 27 วัน ระหว่างวันที่กดเงินถึงวันสรุปยอด
คำนวณดอกเบี้ยได้ (10,000 x ดอกเบี้ย 15% x 27 วัน) หาร 365 วัน = 110.95 บาท
คำนวณค่าธรรมเนียม (10,000 x ค่าธรรมเนียม 10% x 27 วัน) หาร 365 วัน = 184.92 บาท
รวมดอกเบี้ยได้ 110.95 + 79.97 = 184.92
นำเงินต้น 10,000 + ดอกเบี้ย 184.92 แล้ว – จ่ายขั้นต่ำ 300 บาท เหลือหนี้เดือนต่อไป 9884.92 บาท
จากนั้นเดือนที่ 2 เมื่อครบกำหนดชำระเงิน จำนวนเดินบัญชี 13 วัน
คำนวณดอกเบี้ยได้ (เงินต้น 9884.92 x ดอกเบี้ย 15% x 13 วัน) หาร 365 วัน = 52.80 บาท
คำนวณค่าธรรมเนียม (เงินต้น 9884.92 x ค่าธรรมเนียม 10% x 27 วัน) หาร 365 วัน = 35.20 บาท
รวมดอกเบี้ย 88.00 บาท
จากนั้นให้คิดยอดคงเหลือโดยนำ (เงินต้นคงเหลือจากเดือนที่ 1 + ดอกเบี้ย จากวันที่สรุปยอดถึงวันชำระเงินเดือนที่ 1 116.43 บาท + ดอกเบี้ยเดือนที่ 2 88.00) – ยอดชำระขั้นต่ำ 300 บาท = เหลือเงินต้น 9,789.35 บาท
(ยอดเดินบัญชี 17 วัน ระหว่างวันสรุปยอดถึงวันชำระเงิน
คำนวณดอกเบี้ยได้ (10,000 x ดอกเบี้ย 15% x 17 วัน) หาร 365 วัน = 69.86 บาท
คำนวณค่าธรรมเนียม (10,000 x ค่าธรรมเนียม 10% x 17 วัน) หาร 365 วัน = 46.57 บาท
รวมดอกเบี้ยได้ 69.86 + 46.57 = 116.43)
ได้ บัตรกดเงินสดของแต่ละธนาคารก็มีหลายรูปแบบ หลายโปรโมชั่น
บางธนาคารดึงดูดใจลูกค้าด้วยการพ่วงบริการพิเศษนอกจากกดเงินสด คือ ใช้บัตรผ่อนสินค้า
เช่น โปรโมชั่นผ่อนสินค้า 0% นาน 3 เดือน 6 เดือน 10 เดือน แล้วแต่เงื่อนไข เหมาะสำหรับการซื้อของชิ้นใหญ่ที่มีราคาสูง เช่น โทรทัศน์ เครื่องซักผ้า
ข้อดีคือกระจายจ่ายเงินก้อนผ่อนเป็นเดือน ๆ ตามระยะเวลาที่กำหนด ข้อควรระวังคือ ดอกเบี้ยที่เกิดจากการผิดนัดชำระ ดังนั้นควรจ่ายเงินให้ตรงเวลา
บัตรกดเงินสดกับบัตรเครดิตเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลเหมือนกัน ต่างตรงบัตรเครดิตมีค่าธรรมเนียมในการกดเงินสด ส่วนบัตรกดเงินสดไม่มี ฟังก์ชันของบัตรกดเงินสด คือการใช้เงินสดจริง ๆ จากอนาคต บัตรกดเงินสด ดอกเบี้ยเริ่มเดินตั้งแต่วันที่เรากดเงินสด บัตรเครดิตก็กดเงินสดได้แต่คนนิยมรูดเป็นเครดิตมากกว่าด้วยเหตุผลด้านดอกเบี้ย
สมมติเรากดเงินสดมาใช้ 10,000 บาท กำหนดชำระขั้นต่ำ 1,000 บาท เมื่อครบกำหนดจ่ายขั้นต่ำ จ่ายตรงเวลาวันชำระ ระยะเวลาจนกว่าจะถึงวันชำระครั้งต่อไป ดอกเบี้ยจะคิดจากต้นที่เหลือคือ 900 บาท (อัตราดอกเบี้ยตามที่ธนาคารกำหนด) เมื่อถึงกำหนดจ่ายอีกครั้งจะต้องจ่าย 100+ (อัตราดอกเบี้ยต่อวันของ 900 บาท x จำนวนวันที่ค้างชำระ)
แต่ละคนจะได้รับอนุมัติวงเงินจากสถาบันการเงินไม่เท่ากัน ปกติวงเงินที่ได้สูงสุด 5 เท่าของรายได้ ดังนั้นยิ่งมีรายได้มาก วงเงินที่ได้ยิ่งสูงตาม
ถึงแม้ว่ามีเงินเดือนแค่ 10,000 บาทหรือน้อยกว่า ก็สามารถสมัครบัตรกดเงินสดเอาไว้เพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้ ปัจจุบันหลายธนาคารอนุมัติบัตรกดเงินสดให้กับคนที่มีเงินเดือนตั้งแต่ 7,000 บาทขึ้นไป โดยมีเงื่อนไขว่าผู้สมัครจะต้องเป็นผู้มีรายได้ประจำเท่านั้น และอนุมัติวงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือน