Connect with us

ทำความรู้จักกับ Aave (AAVE)

แพลตฟอร์มสินเชื่อกู้ยืมที่มีโทเคน AAVE เป็นศูนย์กลางของเครือข่าย

Fast Fact: Aave (AAVE)

 

Aave (AAVE) | ข่าวโดย Tadoo

Aave เป็นโปรโตคอลทางการเงินแบบกระจายอำนาจสำหรับการกู้ยืมสินเชื่อและให้ยืมสินเชื่อ ซึ่งมีบทบาททำหน้าที่คล้ายคลึงกับตลาดการการเงินในระบบการเงินดั้งเดิม นอกจากนี้ Aave ยังช่วยให้คุณสามารถฝากสินทรัพย์ดิจิทัลลงในกลุ่มสภาพคล่อง (Liquidity Pool) เพื่อรับดอกเบี้ยแบบเรียลไทม์ในรูปแบบของโทเคน AAVE รวมไปถึงการกู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหลักประกันส่วนเกิน (Over-Collateralized) ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ “Flash Loans” ที่เป็นกลไกการกู้ยืมระยะสั้นที่ไม่ต้องใช้หลักประกันใด ๆ ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามแพลตฟอร์ม Aave ถูกควบคุมในลักษณะการกระจายอำนาจด้วยระบบการกำกับดูแลแบบหายระดับ (Multi-level Governance) ผ่านผู้ถือโทเคน AAVE ที่จะรับประกันสภาพคล่อง รวมไปถึงความสามารถในการลงคะแนนเสียงในการจัดการแพลตฟอร์มได้อีกด้วย

จุดเด่น

  • Aave เป็นโปรโตคอลสภาพคล่องแบบกระจายอำนาจ
  • Aave มีทั้งบริการให้กู้แบบไร้หลักประกัน และหลักประกันส่วนเกิน
  • โทเคน AAVE คือศูนย์กลางของการกำกับดูแล จะใช้ในการลงคะแนนในทุก ๆ หัวข้อ

Aave: Aavenomics & Multi-level Governance by AAVE Token

Aave (AAVE) | ข่าวโดย Tadoo

โทเคน AAVE ถือเป็นจุดศูนย์กลางของการกำกับดูแลของโปรโตคอล Aave โดยสามารถใช้เพื่อลงคะแนนเสียงและตัดสินใจเกี่ยวกับผลลัพธ์ของข้อเสนอการปรับปรุงของ Aave (Aave Improvement Proposals: AIPs) นอกจากนี้โทเคน AAVE สามารถใช้การ Staking ภายใน Safety Module เพื่อจุดประสงค์ในการรักษาความปลอดภัย รวมไปถึงเป็นหลักประกันแก่โปรโตคอลและผู้ฝาก ซึ่งผู้ใช้ก็จะสามารถรับรางวัลได้จากการ Staking และได้รับค่าธรรมเนียมจากโปรโตคอลได้อีกด้วย

เป้าหมายหลักของ Aave Tokenomics หรือระบบเศรษฐศาสตร์ของโทเคน AAVE (Aavenomics) ที่นำเสนอผ่านแรงจูงใจและนโยบายคือ การสร้าง Shelling Point ที่เป็นการเติบโต ความยั่งยืน และความปลอดภัยของโปรโตคอล แน่นอนว่ามีความสำคัญเหนือตัวบุคคลที่มีวัตุประสงค์ในการรับผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว

ความขัดแย้งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนเครือข่ายไม่ว่าจะในระบบการกำกับดูแลแบบใดก็ตาม ต่างสามารถทำให้เป้าหมายที่วางไว้ไม่ชัดเจนและอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่เหมาะสมได้ ซึ่งการกำกับดูแลแบบหลายระดับ (Multi-level Governance) นั้นจะทำให้เครือข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากผู้เข้าร่วมในเครือข่ายจะต้องดำเนินงานภายใต้ขอบเขตของมาตรฐานความเสี่ยงและนโยบายระดังสูงที่ตกลงร่วมกัน หมายความว่าผู้ที่ถือโทเคน AAVE ทุกคนต่างก็มีโอกาสที่จะเป็นความเสี่ยงต่อโปรโตคอล เนื่องจากหากทำการ Staking โทเคนแล้วก็จะสามารถมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงโปรโตคอลได้ โดยปกติแล้วการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะอยู่ในรูปแบบของการบูรณาการทางเทคนิค หรือการมีส่วนร่วมทางการเงิน ซึ่งทั้งสองตัวอย่างดังกล่าวต่างก็มีความคาดหวังที่จะเปลี่ยนแปลงทั้งในเรื่องของพฤติกรรม ความปลอดภัย และฟังก์ชันการทำงาน

โปรโตคอลของ Aave ได้รวบรวมความไว้วางใจไว้ระหว่างผู้ที่เรียกว่า “Stakeholder” หรือ “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” เช่น ผู้ถือโทเคน, ผู้ได้รับมอบหมายจากการโหวต, ผู้จัดการตลาด, ผู้ให้บริการสภาพคล่อง และผู้รวมระบบ เป็นต้น และถึงแม้ว่าการดำเนินการกำกับดูแลแบบหลายชั้นจะไม่สามารถแก้ไขกับความเพิกเฉยต่อสิทธิ์ที่ผู้ใช้ได้รับได้ในทางปฏิบัติ (เช่น ลงคะแนนเสียง) แต่การกำกับดูแลแบบตามสภาพคล่อง (Liquidity-Based Governance) ของเครือข่ายได้สร้างแรงจูงใจทางเศรษฐกิจที่ทำให้กลุ่มการลงคะแนนมีความกระตือรือร้นมากขึ้น และด้วยการออกแบบสิ่งจูงใจที่เกิดจากระบบการกำกับดูแลแบบหลายระดับนั้นได้กระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมต่างตระหนักถึงความเสี่ยงร่วมกัน เนื่องจากต้องพึ่งพาอาศัยกันและกันทั้งในแง่ของเศรษฐกิจและโปรโตคอล ในขณะเดียวกันก็สามารถเพิ่มความยืดหยุ่นระหว่างผู้จัดการตลาดได้มากขึ้นอีกด้วย

Aave (AAVE) | ข่าวโดย Tadoo

ภายในระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจนั้น Aave ระบุว่า การกำกับดูแลคือหัวใจสำคัญที่ควรจะมีแนวคิดที่จับต้องได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการบังคับทิศทางของเครือข่ายไปในรูปแบบใดก็ตาม แต่เครือข่าย Aave ก็ตระหนักดีว่าผู้คนมักยกย่องความซับซ้อนของการบังคับบัญชาในสังคมที่มีศูนย์กลาง และจากมุมมองดังกล่าว จึงส่งผลให้การกำกับดูแลของเครือข่ายต่าง ๆ ยังไม่โปรงใสมากพอ เนื่องจากถึงแม้ว่าจะใช้การลงคะแนนเสียงเพื่อขับเคลื่อนเครือข่าย แต่ผลคะแนนเสียงกลับเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของกระบวนการกำกับดูแลเท่านั้น ตัวอย่างเช่น Ethereum Blockchain ที่ระบุว่าเป็นการกำกับดูแลแบบ On-Chain ที่ทำงานด้วยความโปร่งใสเต็มรูปแบบ แต่การทำงานก็เป็นไปตามกระบวนการแบบ Off-Chain ที่เป็นการถ่ายทอดด้วยระบบ On-Chain เสียมากกว่า และผลที่ได้คือระบบที่ซึ่งอำนาจถูกประกอบขึ้นไปเป็นตัวแทน มากกว่าที่จะถูกนำคะแนนเสียงไปใช้โดยตรง ดังนั้นระบบกำกับดูแลของ Aave จึงตระหนักว่า “ทุกคนเป็นส่วนสำคัญของรูปแบบการกำกับดูแล”

Aave: จุดเริ่มต้น AAVE Token

อุปทานทั้งหมดของโทเคน AAVE อยู่ที่ 16 ล้านโทเคน โดยโทเคนจำนวน 3 ล้านโทเคนจะถูกจัดสรรให้กับ Aave Reserve และถูกควบคุมไว้โดยผู้ถือโทเคน AAVE เพื่อเป็นการจูงใจให้ระบบนิเวศของเครือข่าย Aave เติบโตและพัฒนาขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในจำนวนที่เหลืออีก 13 ล้านโทเคนนั้นจะสามารถแลกได้โดยผู้ถือโทเคน LEND โดยมีอัตราส่วนอยู่ที่ 100 LEND : 1 AAVE

จุดเริ่มต้นของโทเคน AAVE นั้นได้เริ่มขึ้นผ่านโครงการระดมทุนเสนอขายเหรียญเริ่มต้น ICO แต่ในขณะนั้นได้ใช้ชื่อโทเคนว่า “LEND” โดยจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 ซึ่งระดมทุนไปได้กว่า 16.2 ล้านดอลลาร์จากการขายโทเคนในจำนวน 1 พันล้านโทเคน ในราคา 0.0162 ดอลลาร์/โทเคน และในขณะนั้นจำนวน 23% ของโทเคนได้ถูกจัดสรรไว้สำหรับผู้ก่อตั้งและตัวโครงการ

จากนั้นในปี 2018 ได้มีการรีแบรนด์เกิดขึ้นโดยเปลี่ยนไปใช้ชื่อโทเคน “AAVE” แทน (เดิมเครือข่าย Aave ใช้ชื่อว่า ETHLend) และต่อมาในเดือนกรกฎาคม ปี 2020 Aave ได้เปิดเผยว่าจะมีการชะลอการแลกเปลี่ยนโทเคน โดยโทเคนในชื่อเดิมว่า “LEND” ที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดกว่า 1.3 พันล้านโทเคนนั้น จะถูกเปลี่ยนไปเป็นโทเคน AAVE ที่สร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ด้วยการแลกเปลี่ยนในอัตรา 1:100 ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น

นอกจากนี้โทเคน AAVE นั้นถูกสร้างขึ้นบนเครือข่าย Ethereum ตามมาตรฐานโทเคน ERC-20 และได้รับการออกแบบมาให้เป็นโทเคนที่มีคุณสมบัติของภาวะเงินฝืด ซึ่งในกรณีที่โปรโตคอล DeFi ขาดแคลนโทเคน AAVE นั้น โทเคนที่ถูก Staking ไว้ก็จะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะถูกนำมาใช้เป็นหลักประกัน

“Aave มาจากภาษาฟินแลนด์ มีความหมายว่า ‘ผี’”

Aave: การชำระบัญชี (Liquidations)

ในฐานะแพลตฟอร์มสินเชื่อกู้ยืม Aave นอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ “Flash Loans” แล้วยังมีการกู้ยืมแบบหลักประกันส่วนเกิน (Over-Collateralized) หรือการกู้ยืมแบบวางหลักประกันที่มีมูลค่ามากกว่าเงินที่กู้ และด้วยสินเชื่อกู้ยืมประเภทนี้ ผู้กู้มีหน้าที่ที่จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า มูลค่าหลักประกันของตนเองนั้นจะไม่ลดต่ำลงกว่าระดับต่ำที่สุด (Minimum Level) มากเกินไป มิฉะนั้นพวกเขาจะเสี่ยงต่อการถูกชำระบัญชี ซึ่งเป็นการที่ส่วนหนึ่งของหลักประกันจะถูกขายทอดตลาดออกไปโดยอัตโนมัติเพื่อชำระหนี้ รวมทั้งค่าปรับและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ อีกด้วย

ถึงแม้จะเป็นวิธีที่ทำให้ผู้กู้เจ็บปวด แต่การชำระบัญชีทำให้แพลตฟอร์ม Aave มีความแข็งแกร่ง ด้วยการกำจัดเงินกู้ที่ไม่สามารถป้องกันออกไปจากระบบได้ เพื่อช่วยให้มั่นใจว่าสภาพคล่องที่มีอยู่ในเครือข่ายจะเพียงพอสำหรับผู้ใช้รายอื่น และเป็นการรักษาสมดุลบนแพลตฟอร์มอีกทางหนึ่งได้ ซึ่งในกรณีร้ายแรงที่แพลตฟอร์มไม่สามารถรักษาสภาพคล่องเอาไว้ได้นั้น โทเคน AAVE ที่ถูกล็อคเอาไว้ในโมดูลความปลอดภัย จะถูกประมูลในตลาดเปิดเพื่อคืนสภาพคล่องให้แก่แพลตฟอร์มอีกครั้ง

Aave มีตลาดที่ดำเนินการได้แก่ AAVE V1 & V2, AAVE Polygon และ AMM

Aave: โมดูลความปลอดภัย (Safety Module)

ในกรณีของความสามารถในการปรับแต่งของระบบ DeFi ของเครือข่าย Aave ได้รวมเข้ากับแพลตฟอร์ม DEX อื่น ๆ เช่น Balancer เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และกลไกทางการเงินที่แปลกใหม่ โดยโมดูลความปลอดภัยของ Aave อยู่ในรูปแบบของกลุ่มสภาพคล่อง (Liquidity Pool) ที่ถูกกำหนดโดยแพลตฟอร์ม Balancer ซึ่งผู้ที่ถือโทเคน AAVE จะสามารถล็อคโทเคนของตนเองเพื่อรับโทเคน AAVE เพิ่มเติมได้ และสามารถลงคะแนนในการตัดสินใจต่อการปรับปรุงโปรโตคอลได้เช่นกัน นอกจากนี้โทเคน AAVE ที่ถูกล็อคในโมดูลความปลอดภัยจะได้รับค่าธรรมเนียมจากโปรโตคอลของ Aave ได้ เพื่อให้กลไกรักษาสภาพคล่องมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น อีกทั้งยังกลายเป็นหลักประกันสุดท้ายในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ขาดดุล จากการใช้สินทรัพย์บน Aave มากเกินไปหรือแม้กระทั่งความเสี่ยงที่สภาพคล่องจะหมด

โดยการรักษาสภาพคล่องผ่านหลักประกันส่วนเกินนั้น เป็นหัวใจสำคัญของแพลตฟอร์ม Aave หากไม่มีสภาพคล่อง ก็จะไม่มีการกู้ยืมใหม่เกิดขึ้นได้ และในกรณีของเหตุการณ์ขาดดุลนั้น โทเคน AAVE ที่ล็อคอยู่ในโมดูลความปลอดภัยมากถึง 30% จากจำนวนอุปทานทั้งหมด จะถูกขายเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับโปรโตคอลต่อไปได้

อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการเป็นเจ้าของโทเคน AAVE นั้นสามารถซื้อได้โดยตรงจากแพลตฟอร์มหลักอย่างเครือข่าย Aave และนอกจากนี้ยังสามารถซื้อขายเพื่อเก็งกำไรในตลาดแลกเปลี่ยนรองได้เช่นเดียวกันกับคริปโตเคอเรนซีตัวอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น Binance, Kraken, Bitfinex และ FTX เป็นต้น

ประเภทของประกันรถยนต์

ประกันชั้น 1

เพิ่มเติม

ประกันชั้น 2+

เพิ่มเติม

ประกันชั้น 3+

เพิ่มเติม

พ.ร.บ.รถยนต์

เพื่มเติม

ทิปดีๆ เกี่ยวกับประกันรถยนต์

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันรถยนต์

เพิ่มเติม

วิธีคำนวนเบี้ยประกันรถยนต์

เพิ่มเติม

ทำอย่างไรให้ได้เบี้ยประกันลดลง

เพิ่มเติม

ประกันที่เหมาะกับมือใหม่

เพิ่มเติม

หลังเกิดอุบัติเหตุรถชน ควรทำอย่างไร

เพิ่มเติม

เมาแล้วขับ

เพิ่มเติม

ไม่เคลม รับส่วนลดเบี้ยประกัน

เพิ่มเติม

รถมีประกันหรือเปล่า

เพิ่มเติม

ทิปดีๆ เกี่ยวกับประกันรถยนต์

ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล

เพิ่มเติม

ประกันรถยนต์สำหรับนักเรียนนักศึกษา

เพิ่มเติม

วิธีการเคลมประกันรถยนต์

เพิ่มเติม

ความคุ้มครองทรัพย์สินส่วนบุคคลของประกันรถยนต์

เพิ่มเติม

รถฉันมีประกันไหม

เพิ่มเติม