ทำความรู้จักกับ Basic Attention Token (BAT)
โทเคนที่ถูกสร้างตามมาตรฐาน ERC-20 เพื่อใช้บนเครือข่ายเฉพาะเป็นหลัก
โทเคนที่ถูกสร้างตามมาตรฐาน ERC-20 เพื่อใช้บนเครือข่ายเฉพาะเป็นหลัก
Basic Attention Token เป็นคริปโตเคอเรนซีประเภท Utility Token ที่ใช้สัญลักษณ์ย่อว่า “BAT” โดยแพลตฟอร์มที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของโทเคน BAT คือเว็บเบราว์เซอร์ที่ชื่อว่า “Brave” ที่เป็นระบบ Open Source ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วกว่า ปลอดภัยกว่า และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า โดยโทเคน BAT นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อการใช้งานภายในเครือข่ายของ Brave เป็นหลัก เพื่อการเรียกดูเว็บไซต์ที่เป็นส่วนตัว และสามารถสร้างผลประโยชน์ร่วมกันสำหรับ User, Publisher และ Advertiser ได้อีกด้วย
Brave ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ Chromium ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์แบบ Open Source ที่ขับเคลื่อนเว็บเบราว์เซอร์อย่าง Google Chrome ด้วยเช่นกัน แต่เบราว์เซอร์ Brave ได้นำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้ร่วมด้วยเพื่อพัฒนารูปแบบของตนเอง รวมไปถึงแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการใช้เว็บเบราว์เซอร์ทั่วไป โดยข้อมูลต่อไปนี้จะเป็นการเจาะลึกว่าเบราว์เซอร์ Brave และโทเคน BAT นำเสนอการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ดีกว่าอย่างไร
User
หากคุณเป็นผู้ใช้ (User) โดยทั่วไปแล้วผู้ใช้มักจะออนไลน์ทุกวันเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคเนื้อหา เช่น อ่านบทความ ดูวิดีโอ หรือฟังพอดแคสต์ รวมไปถึงเพื่อซื้อขายผลิตภัณฑ์และบริการ หรือแม้กระทั่งเพื่อสื่อสารกับเพื่อน ครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน
Publisher & Creator
หากคุณเป็นผู้สร้างเนื้อหา (Creator) สิ่งที่ Brave นำเสนอคือการเปิดช่องทางให้คุณได้เข้าถึงการเผยแพร่เนื้อหาได้เช่นเดียวกับเว็บไซต์ข่าวทั่วไป โดยการสร้างไซต์ของคุณเองนั้น คุณจะถูกเรียกว่า Publisher เพราะนอกจากที่คุณจะเป็น Creator ที่สร้างเนื้อหาหรือคิด Content แล้วนั้น แต่คุณยังสามารถเผยแพร่เนื้อหาของคุณเองได้อีกด้วย รวมไปถึงคุณยังสามารถรับรายได้จากการโฆษณาและจากผู้ใช้ที่เข้าชมเนื้อหาของคุณได้เช่นเดียวกัน
Advertiser
Publisher สามารถสร้างรายได้จากการขายพื้นที่ไซต์ของตนเองให้กับแบรนด์ต่าง ๆ หรือที่เรียกว่า Advertiser สำหรับการลงโฆษณาได้อีกด้วย ซึ่งแบรนด์จะซื้อพื้นที่บนไซต์ของ Publisher โดยหวังว่าในขณะที่มีผู้ใช้งานเข้ามาชมเนื้อหาของ Publisher นั้นพวกเขาก็จะสามารถมองเห็นโฆษณาของแบรนด์ไปพร้อมกัน และสามารถคลิกที่โฆษณาเพื่อทำการเข้าถึงแบรนด์นั้น ๆ โดยตรงได้อีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตามการใช้งานเว็บเบราว์เซอร์มักจะเกิดปัญหาในรูปแบบเดียวกันไม่ว่าจะอยู่บนซอฟต์แวร์ใด ๆ ก็ตาม ยกตัวอย่างปัญหาหลัก ๆ ที่พบเห็นได้บ่อยครั้ง ดังนี้
ปัญหาที่ 1: ความเร็ว
เมื่อคุณต้องการเข้าถึงเนื้อหาบนไซต์ของ Publisher โดยหลักการทำงานนั้นเซิฟเวอร์จะทำการรวบรวมและส่งเนื้อหานั้นไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณ แต่ทั้งนี้เซิฟเวอร์ก็ยังต้องรวบรวมโฆษณาและแสดงโฆษณาจาก Ad Exchange ไปพร้อมกันด้วย ซึ่งสิ่งนี้มักใช้เวลาในการรวบรวม (เฉลี่ยการโหลดโฆษณาบนโทรศัพท์ใช้เวลา 5 วินาที) และอาจทำให้คุณเสียเงินได้ (สำหรับการใช้งานบนโทรศัพท์อาจมีค่าใช้จ่ายมากถึง $23 ต่อเดือน) อีกทั้งยังลดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ได้มากถึง 21% ด้วยกัน
ปัญหาที่ 2: ความปลอดภัย
ในขณะที่คุณกำลังเข้าชมเนื้อหาบนเว็บไซต์และมองเห็นโฆษณาในลักษณะทั่วไป แต่คุณทราบหรือไม่ว่าในบางครั้งโฆษณาที่อันตรายก็มักแฝงตัวมาในรูปแบบของโฆษณาปกติทั่วไปได้เช่นเดียวกัน โดยโฆษณาที่เป็นอันตรายนั้นมักจะอยู่ในรูปแบบของการปลอมแปลงข้อมูล ที่ทำให้เฮ็กเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญบนคอมพิวเตอร์ของคุณได้ เช่น ชื่อ ที่อยู่ วันเกิด หมายเลขประกันสังคม และหมายเลขบัตรเครดิต เป็นต้น ซึ่งในบางกรณีแฮกเกอร์อาจเข้าถึงข้อมูลของคุณได้โดยคุณไม่จำเป็นต้องคลิกที่โฆษณาเหล่านั้นด้วยซ้ำ
ปัญหาที่ 3: ความเป็นส่วนตัว
Publisher ไม่เพียงแต่ขายพื้นที่บนไซต์เพื่อให้ Advertiser สามารถลงโฆษณาของตนเองได้เท่านั้น แต่ Advertiser ยังสามารถติดตามเนื้อหาของผู้ใช้งานบนไซต์ได้อีกด้วย (โดยการทิ้งคุกกี้) ซึ่งเมื่อรวมกับที่อยู่ IP ของคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้นั้นทาง Advertiser ก็จะขายโปรไฟล์เฉพาะของผู้ใช้กลับไปยัง Ad Exchange ได้อีกด้วย ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถแสดงโฆษณาที่ตรงตามเป้าหมายมากขึ้นในเว็บไซต์ทั้งหมดที่คุณเรียกดูและหากผู้ใช้ทำการซื้อหรือสมัครรับเนื้อหาจาก Publisher ใด ๆ ก็ตามทาง Ad Exchange ก็จะทราบข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนลงไปด้วยเช่นกัน
ในท้ายที่สุดแล้วปัญหาเหล่านี้ก็ลงเอยด้วยเรื่องของราคาที่ต้องจ่ายที่ไม่ได้มีความหมายเพียงแค่เงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงค่าเสียเวลา ค่าความเป็นส่วนตัว และค่าความปลอดภัยด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามปัญหาเหล่านี้ก็สามารถเป็นภัยต่อ Publisher และ Advertiser ได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น Ad Exchange ได้รับส่วนแบ่งของรายได้จากการซื้อพื้นที่โฆษณาจาก Publisher ไปมากกว่า 70% นอกจากนี้ Publisher จะไม่สามารถสร้างรายได้ได้หากผู้ใช้งานมีตัวบล็อกโฆษณา ซึ่งในปัจจุบันมีอุปกรณ์มากกว่า 600 ล้านเครื่องที่มีตัวบล็อกโฆษณา และมันทำให้ Advertiser จะไม่สามารถทราบได้เลยว่าโฆษณาของตนนั้นมีประสิทธิภาพเพียงใด เว้นแต่ว่าผู้ใช้งานจะคลิกที่โฆษณาโดยตรง
แต่ทั้งนี้ทางเบราว์เซอร์ Brave ได้มีจุดมุ่งหมายที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ให้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็น User, Publisher และ Advertiser ด้วยการพัฒนารูปแบบของ Brave และการใช้งาน Basic Attention Token หรือโทเคน BAT
“มูลค่ารวมตามตลาดของโทเคน BAT เดือนกันยายน 2021 อยู่ที่ 3.89 หมื่นล้านบาท”
โดยพื้นฐานแล้ว Brave จะมีการบล็อกโฆษณา มัลแวร์ และการติดตาม เพื่อให้กิจกรรมการท่องเว็บไซต์ของคุณปลอดภัย เป็นส่วนตัว และรวดเร็ว หากสิ่งเหล่านี้คือทั้งหมดที่คุณต้องการนั้นคุณสามารถดาวน์โหลดเบราว์เซอร์ Brave ได้ฟรี และเนื่องด้วย Brave ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ Chromium ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์แบบ Open Source ที่ขับเคลื่อนเว็บเบราว์เซอร์อย่าง Google Chrome จึงทำให้มั่นใจได้ว่าโปรแกรมเสริม (Plug-in) และส่วนขยายทั้งหมดนั้นจะทำงานได้อย่างราบรื่นด้วยเช่นเดียวกัน
แต่อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายแง่มุมในระบบนิเวศของ Brave ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการใช้งานไม่ว่าจะเป็น User, Publisher และ Advertiser รวมไปถึงความเชื่อมโยงของ Basic Attention Token หรือ BAT ซึ่งเป็น Utility Token ที่พัฒนาบนเครือข่ายของ Ethereum ตามมาตรฐานโทเคน ERC-20 โดยได้นำมาใช้งานในระบบนิเวศของ Brave ดังนี้
หากคุณเป็น User นั้นคุณจะสามารถรับโทเคน BAT ได้จาก Advertiser โดยการเลือกรับชมโฆษณาตั้งแต่ต้นจนจบ
โฆษณานั้นจะแสดงควบคู่ไปกับเนื้อหาที่คุณรับชม โดยจำนวนของ BAT ที่คุณจะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับค่าความสนใจต่อโฆษณา กล่าวคือจำนวน BAT จะถูกคำนวณตามเวลาที่โฆษณานั้นปรากฎในแท็บที่ใช้งานอยู่ และขึ้นอยู่กับขนาดของโฆษณาที่มองเห็นได้ตามสัดส่วนที่แสดงอยู่บนหน้าเนื้อหา
คุณไม่ใช่คนเดียวที่ได้รับโทเคน BAT จากการเข้าชมเนื้อหาและโฆษณาเท่านั้น แต่ Publisher ก็ได้รับด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากเนื้อหาของพวกเขาได้นำคุณไปยังส่วนที่มีการแสดงโฆษณาเหล่านั้นตั้งแต่แรก ดังนั้น Publisher จึงได้รับแรงจูงใจในการสร้างเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม เพื่อการสร้างรายได้ร่วมกับผู้ใช้งาน โดยยิ่งคุณใช้เวลาในการดูเนื้อหาและโฆษณาที่แสดงควบคู่กันมากเท่าใด พวกเขาก็จะได้รับโทเคน BAT มากขึ้นเท่านั้น
คุณสมบัติพิเศษอีกประการหนึ่งของระบบนิเวศของ Brave ก็คือคุณจะสามารถให้ทิปหรือบริจาคด้วยโทเคน BAT ให้กับ Publisher ที่คุณชื่นชอบได้โดยตรงสำหรับการสร้างเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม หรือคุณสามารถใช้โทเคน BAT เพื่อซื้อเนื้อหาหรือบริการพรีเมียมจาก Publisher ได้โดยตรงอีกด้วย
แบรนด์ต่าง ๆ ที่เข้าร่วมในการลงโฆษณานั้นสามารถทราบถึงประสิทธิภาพในโฆษณาของตนเองได้ด้วยโปรโตคอล Attention Value อันชาญฉลาดของ Brave
ทั้งนี้ Brave จะไม่มีการเก็บประวัติการเข้าชมของคุณ รวมไปถึงจะไม่มีการแชร์กิจกรรมส่วนตัว หรือตัวตนของคุณแก่บุคคลที่สาม เพียงแต่จะใช้ Machine Learning หรือการจดจำพฤติกรรมของคุณภายในเบราว์เซอร์ เพื่อกำหนดว่าจะแสดงโฆษณาประเภทใดแก่คุณ ซึ่งโฆษณาจะมีเฉพาะแบรนด์ที่เป็นพันธมิตรกับ Brave เท่านั้น
คุณอาจเกิดคำถามว่า “ทำไมถึงไม่จ่ายผลตอบแทนด้วยเงินดอลลาร์?” คำตอบคือ “ความเป็นส่วนตัว” เนื่องจากในการรับ การให้ทิป หรือการบริจาคด้วยสกุลเงินดั้งเดิมนั้น คุณจะต้องเปิดเผยตัวตนและข้อมูลทางการเงินของคุณ ซึ่งด้วยการใช้โทเคน BAT จะเกิดเป็นธุรกรรมแบบสาธารณะบน Ethereum Blockchain แต่ในขณะเดียวกันนั้นตัวตนของคุณจะยังคงเป็นส่วนตัวอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตามคุณสามารถเป็นเจ้าของ หรือซื้อและขายโทเคน BAT เป็นสกุลเงินดั้งเดิมหรือแปลงเป็นคริปโตเคอเรนซีสกุลอื่นได้จากช่องทางหลักอย่าง Brave นอกจากนี้ยังซื้อขายเพื่อเก็งกำไรในตลาดแลกเปลี่ยนรองได้เช่นเดียวกันกับคริปโตเคอเรนซีตัวอื่น ๆ อีกด้วย ตัวอย่างเช่น Bitkub, Binance, Kraken, Bitfinex และ FTX เป็นต้น
อุปทานสูงสุดของโทเคน BAT อยู่ที่ 1.5 พันล้านโทเคน