Connect with us

บัญชีแยกประเภทสาธารณะคริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency Public Ledger)

เทคโนโลยีที่เปรียบเสมือนสมุดธนาคารโลกดิจิทัล

บัญชีแยกประเภทสาธารณะคืออะไร?

คำว่า “บัญชีแยกประเภทสาธารณะ” หรือ “Public Ledger” นั้นได้มาจากระบบการเก็บบันทึกที่เก่าแก่ ซึ่งมักใช้ในการบันทึกข้อมูล เช่น ราคาสินค้าเกษตร ข่าวสาร และบทวิเคราะห์ เป็นต้น และมีหลักการทำงานที่จะเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาดูและตรวจสอบได้ โดยการใช้ระบบบัญชีแยกประเภทสาธารณะร่วมกับคริปโตต่าง ๆ นั้นก็อาศัยกลไกการเก็บบันทึกและการตรวจสอบสาธารณะที่คล้ายคลึงกันนำมาใช้งาน และกลไกการทำงานนี้ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คริปโตได้รับความนิยมสูงมากอีกด้วย ซึ่งหลักการทำงานดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้ภายใต้ชื่อ “เทคโนโลยี Blockchain” ที่ทำหน้าที่เปรียบเสมือนสมุดธนาคาร (หรือมากกว่านั้น) หมายความว่า บัญชีแยกประเภทสาธารณะและเทคโนโลยี Blockchain ก็คือสิ่งเดียวกัน

จุดเด่น

  • บัญชีแยกประเภทสาธารณะของคริปโตนั้นเป็นระบบการเก็บบันทึก
  • ทำการเก็บรักษาข้อมูลประจำตัวของผู้เข้าร่วมโดยไม่ระบุชื่อ แสดงยอดเงินคงเหลือของคริปโตที่เกี่ยวข้อง
  • เป็นบันทึกทางธุรกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นจริงระหว่างผู้เข้าร่วมบนเครือข่าย

หลักการทำงานของบัญชีแยกประเภทสาธารณะ

คริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency) คือสกุลเงินที่ถูกเข้ารหัสทางดิจิทัล และทำงานแบบกระจายอำนาจ ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนมูลค่าด้วยการโอนโทเคนดิจิทัลระหว่างผู้เข้าร่วมเครือข่าย โดยบัญชีแยกประเภทสาธารณะจะถูกใช้เป็นระบบการเก็บบันทึกที่เก็บรักษาข้อมูลประจำตัวของผู้เข้าร่วมในรูปแบบที่ปลอดภัยและแบบไม่ระบุชื่อ (หรือระบุแบบหลอก) รวมไปถึงยอดเงินคงเหลือในคริปโตที่เกี่ยวข้อง และบันทึกรายการธุรกรรมที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมดที่ดำเนินการระหว่างผู้เข้าร่วมเครือข่าย

ยกตัวอย่างการทำธุรกรรมผ่านธนาคาร สมมติว่าคุณได้เขียนเช็คให้เพื่อน หรือโอนเงินทางออนไลน์เข้าบัญชีธนาคารของเพื่อนเป็นเงิน 200 บาท ซึ่งการทำธุรกรรมทั้งสองแบบนั้น รายละเอียดของธุรกรรมจะได้รับการอัปเดตในบันทึกของทางธนาคาร โดยบัญชีของคุณจะถูกหักเงินเป็นจำนวน 200 บาท และในขณะเดียวกันบัญชีของเพื่อนคุณก็จะได้รับเงินในจำนวนเดียวกันนั้น ซึ่งระบบบัญชีของธนาคารจะทำการเก็บบันทึกยอดคงเหลือ และดูแลให้บัญชีของผู้ส่งมีเงินเพียงพอ มิเช่นนั้นแล้วจะไม่อนุญาตให้มีการโอน หรือเช็คถูกตีกลับ โดยหากผู้ส่งมีเงินในบัญชีเพียง 200 บาท และทำการออกเช็คมูลค่า 100 บาทจำนวน 2 ใบ ลำดับการแสดงเช็คจะเป็นตัวกำหนดว่าใครจะได้รับเงินก่อน และเช็คของใครจะถูกตีกลับหากผู้ส่งมีเงินในบัญชีไม่เพียงพอ

การตรวจสอบรายละเอียดการทำธุรกรรม

รายละเอียดของธุรกรรมในบันทึกของธนาคารนั้น จะสามารถสอบถามและตรวจสอบได้โดยทั้งสองฝ่ายที่ทำธุรกรรมร่วมกัน นอกจากนี้บันทึกธนาคารสามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ได้รับมอบหมาย และหน่วยงานส่วนกลางที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ตัวอย่างเช่น แผนกภาษีหรือรัฐบาล เป็นต้น โดยพิจารณาการเข้าถึงตามความจำเป็นเท่านั้น ซึ่งจะไม่มีใครสามารถเข้าถึงรายละเอียดทั้งหมดได้นอกจากผู้ที่เป็นเจ้าของบัญชี

และบัญชีแยกประเภทสาธารณะก็ทำงานในลักษณะเดียวกับบันทึกของธนาคารเช่นกัน โดยรายละเอียดธุรกรรมในบัญชีแยกประเภทสาธารณะของคริปโตนั้น จะสามารถตรวจสอบและสอบถามได้โดยผู้เข้าร่วมการทำธุรกรรมทั้งสองฝ่าย แต่อย่างไรก็ตามจะไม่มีหน่วยงานกลางหรือผู้เข้าร่วมคนใดสามารถทราบตัวตนทั้งสองฝ่ายได้ ซึ่งการธุรกรรมจะได้รับการอนุมัติ และบันทึกหลังจากมีการยืนยันสภาพคล่องของผู้ส่งเงินว่ามีจำนวนที่เพียงพอ มิเช่นนั้นรายการจะถูกยกเลิกทันที

“บัญชีแยกประเภทสาธารณะ คือหน้าที่หลักของเทคโนโลยี Blockchain”

ธุรกรรมคริปโตเคอเรนซีในบัญชีแยกประเภทสาธารณะ

บัญชีแยกประเภทสาธารณะนั้นถูกมองว่า เป็นระบบการจัดการข้อมูลหรือการจัดเก็บที่คล้ายกับระบบฐานข้อมูล (Database) ของบันทึกธนาคาร ซึ่งความแตกต่างอยู่ที่การใช้เทคโนโลยี Blockchain เป็นฐานการทำงานของบัญชีประเภทนี้ โดยรายการธุรกรรมจะถูกบันทึกไว้บนบล็อกหลังจากตรวจสอบความถูกต้องแล้วโดยผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่อยู่ในสถานะนักขุด
ซึ่งการบันทึกและการจัดเก็บที่ได้รับการยืนยันทั้งหมดในบัญชีแยกประเภทสาธารณะนั้นมีจุดเริ่มต้นจากการสร้างขุดเหรียญและนำมันไปใช้งาน โดยในแต่ละบล็อกจะถูกเติมเต็มด้วยรายละเอียดของธุรกรรม และบล็อกใหม่จะถูกขุดขึ้นมา จากนั้นผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เรียกว่า ”นักขุด” จะทำการเพิ่มบล็อกลงไปใน Blockchain

ผู้เข้าร่วมเครือข่ายทั้งหมดนั้น มักถูกเรียกว่า “Full Node” โดยมันจะทำการรักษาสำเนาของบัญชีแยกประเภททั้งหมดไว้บนอุปกรณ์ของตนที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายของคริปโต และไม่ว่าใครจะอยู่ที่ใดก็สามารถเข้าร่วมได้หากมีความสนใจเนื่องจากเป็นเครือข่ายที่ไร้พรมแดน ซึ่งบัญชีแยกประเภทนั้นจะถูกแจกจ่ายไปสู่เครือข่ายของผู้เข้าร่วมเมื่อมีการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Blockchain บนอุปกรณ์ของผู้เข้าร่วมเอง

เนื่องจากจำนวนผู้เข้าร่วมที่สามารถดูแลสำเนาของบัญชีได้นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายร้อยหลายพันคน ซึ่งจะทำให้พวกเขาทราบถึงสถานะที่แท้จริงของเครือข่ายแบบเรียลไทม์ ตัวอย่างเช่น การโอนโทเคน, จำนวนโทเคนที่เก็บไว้, ธุรกรรมน่าเชื่อถือหรือไม่ และรวมไปถึงการบันทึกไว้เพื่อป้องกันการใช้งานโทเคนในทางที่ผิด เช่น การใช้จ่ายซ้ำซ้อน (Double-spend) เป็นต้น และนอกจากนี้ยังมีการผสมผสานคุณสมบัติที่หลากหลายของบัญชีแยกประเภทสาธารณะ เช่น อัลกอริธึม, การเข้ารหัส และกลไกการแจกจ่ายรางวัล เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลประจำตัวของผู้เข้าร่วมจะได้รับการปกป้อง และมีเพียงรายการธุรกรรมที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้นที่จะถูกดำเนินการบนเครือข่าย

ตัวอย่างเพิ่มเติม
การทำธุรกรรมให้เสร็จสิ้น: นายเอต้องการส่ง Bitcoin จำนวน 1 Bitcoin ให้กับนายบี โดยนายเอและนายบีจะต้องทำการแลกแอดเดรส Wallet กัน รวมถึงบอกจำนวนที่ต้องการจะโอนเช่นกันถึงแม้ว่าจะเป็นจำนวนแค่ 1 Bitcoin ก็ตาม ซึ่งบางครั้งอาจมีการสับสนในเรื่องของมูลค่าได้เนื่องจากความผันผวนของราคา แต่อย่างไรก็ตามกลไกลายเซ็นดิจิทัลจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า เฉพาะผู้ที่มีโทเคนจริงเท่านั้นที่จะสามารถดำเนินธุรกรรมจาก Wallet พวกเขาได้ และในขณะเดียวกันโหนดทั้งหมดบนเครือข่ายจะมองเห็นธุรกรรมนี้แบบเรียลไทม์ จากนั้นนักขุดจะทำการตรวจสอบความถูกต้อง และอัปเดตบันทึกลงในบล็อกเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น

บัญชีแยกประเภทสาธารณะของคริปโต คือหัวใจสำคัญของการเป็นสกุลเงินทางดิจิทัล

ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

ถึงแม้ว่าจะมีข้อดีมากมายเกี่ยวกับการใช้งานบัญชีแยกประเภทสาธารณะ แต่ก็ยังมีความกังวลในบางเรื่องเกี่ยวกับการใช้คริปโต ตัวอย่างเช่น กลไกลการทำงานของ Blockchain ที่ถูกกำหนดให้บันทึกทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นทั้งหมดบนเครือข่าย ซึ่งการรักษาสมดุลของการดูแลสำเนาโดยละเอียดที่มีมาอย่างยาวนานนั้นอาจมีการติดขัดหรือไม่ราบรื่นอีกต่อไป และในขณะเดียวกัน ความสามารถในการประมวลผลจำนวนธุรกรรมก็ได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อาจทำให้เกิดความท้าทายที่ว่า เครือข่ายจะรับภาระที่หนักอึ้งในการจัดเก็บบันทึกไปได้ตลอดหรือไม่

ในทำนองเดียวกันนี้มีความกังวลว่าการดูแลบัญชีแยกประเภทสาธารณะที่บันทึกทุกรายการธุรกรรมอย่างถาวรนี้อาจจะเปิดโอกาสให้แฮ็กเกอร์ รัฐบาล หรือหน่วยงานด้านความปลอดภัย สามารถติดตามบันทึกและผู้เข้าร่วมเครือข่ายได้ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้การไม่เปิดเผยตัวตนของผู้เข้าร่วมเครือข่าย Blockchain นั้นตกอยู่ในความเสี่ยง โดยในส่วนนี้ถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการใช้คริปโต

อันที่จริงแล้ว NSA หน่วยงานความมั่นคงของอเมริกาได้ถูกกล่าวหาว่า พยายามติดตามผู้ใช้งาน Bitcoin อีกด้วย และนอกจากนี้คริปโตบนบัญชีแยกประเภทสาธารณะนั้นมักเสี่ยงต่อการพยายามแฮ็กระบบเพื่อขโมยโทเคน และสร้างความอุดตันของเครือข่ายโดยแฮ็กเกอร์ด้วยเช่นเดียวกัน

สรุปปิดท้าย

ในฐานะที่เป็นสถานที่เก็บข้อมูลนั้น บัญชีแยกประเภทสาธารณะถือเป็นหัวใจสำคัญของคริปโต ในแง่ของการจัดเก็บข้อมูลหลังตรวจสอบธุรกรรม และขณะที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายนี้ การกำหนดบทบาทของบัญชีแยกประเภทสาธารณะที่ถูกต้อง อย่างการรักษาคุณสมบัติการกระจายอำนาจ และไม่ระบุตัวตนในการทำธุรกรรมนั้นต่างก็เป็นสิ่งสำคัญทั้งสิ้น เพื่อการใช้งานคริปโตที่ไม่ยุ่งยากสำหรับผู้เข้าร่วมทุกคนอย่างเท่าเทียมกันอีกด้วย

ประเภทของประกันรถยนต์

ประกันชั้น 1

เพิ่มเติม

ประกันชั้น 2+

เพิ่มเติม

ประกันชั้น 3+

เพิ่มเติม

พ.ร.บ.รถยนต์

เพื่มเติม

ทิปดีๆ เกี่ยวกับประกันรถยนต์

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันรถยนต์

เพิ่มเติม

วิธีคำนวนเบี้ยประกันรถยนต์

เพิ่มเติม

ทำอย่างไรให้ได้เบี้ยประกันลดลง

เพิ่มเติม

ประกันที่เหมาะกับมือใหม่

เพิ่มเติม

หลังเกิดอุบัติเหตุรถชน ควรทำอย่างไร

เพิ่มเติม

เมาแล้วขับ

เพิ่มเติม

ไม่เคลม รับส่วนลดเบี้ยประกัน

เพิ่มเติม

รถมีประกันหรือเปล่า

เพิ่มเติม

ทิปดีๆ เกี่ยวกับประกันรถยนต์

ประกันรถยนต์ที่คุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ

เพิ่มเติม

ประกันรถยนต์ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล

เพิ่มเติม

อยากมีรถเก่าคลาสสิค ต้องรู้อะไรบ้าง

เพิ่มเติม

ประกันกลุ่มรถยนต์

เพิ่มเติม

การเคลมความเสียหายจากรถตกหลุมบ่อ

เพิ่มเติม