(รีวิว) Bitfinex แพลตฟอร์มการซื้อขายขั้นสูง
แพลตฟอร์มที่มีผลิตภัณฑ์และเครื่องมือหลากหลาย เพื่อนักลงทุนมืออาชีพ
แพลตฟอร์มที่มีผลิตภัณฑ์และเครื่องมือหลากหลาย เพื่อนักลงทุนมืออาชีพ
คลิกที่นี่ เพื่อสมัครสมาชิกและรับค่าธรรมเนียมคืน 6%
เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตขั้นสูง ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ อีกทั้งยังให้ตัวเลือกมากมายสำหรับการเทรดแบบมาร์จิ้นและการกู้ยืมอีกด้วย โดยในปี 2020 มีมูลค่าสุทธิของบริษัทมากกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2021 Bitfinex ได้ระบุตัวเลขอย่างชัดเจนว่ามีปริมาณลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นสูงถึง 300% ด้วยกัน
ข้อมูลบริษัท | ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2555 หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศฮ่องกง ก่อตั้งโดย Giancarlo Devansini และ Raphael Nicolle ในนามของบริษัท iFinex.inc |
รูปแบบแพลตฟอร์ม | Website: www.bitfinex.com Application: Bitfinex รองรับระบบ Android และ iOS (Download: Android / iOS) |
ความสะดวกในการใช้งาน | Website: ระดับปานกลาง Application: ระดับง่าย |
ระยะเวลายืนยันการเป็นสมาชิก | 1 วัน |
สกุลเงินดั้งเดิมที่รองรับ | EUR, JPY, GBP และ USD |
ช่องทางการชำระเงิน | โอนเงินผ่านธนาคารเท่านั้น |
จำนวนคริปโตที่รองรับ | 151 สกุล (อ้างอิงข้อมูลCoinMarketcap.com วันที่ 17/9/2564) |
1. Exchange
Bitfinex ได้นำเสนอรายการคำสั่งซื้อที่มีสภาพคล่องมากที่สุดในโลกอีกแห่งหนึ่ง ช่วยให้นักลงทุนมีความมั่นใจในเรื่องความคลาดเคลื่อนของราคาที่อยู่ในระดับต่ำ เพื่อการสร้างคำสั่งซื้อขายที่ดีที่สุดของนักลงทุน
Bitfinex นั้นมี GUI ขั้นสูงที่สามารถปรับแต่งได้ อีกทั้งยังมีการจับคู่เหรียญมากกว่า 50 คู่ด้วยกัน (เช่น BTC/ETH) รวมไปถึงประเภทของคำสั่งซื้อที่หลากหลาย เช่น Limit, Market, Stop-limit, Trailing Stop, Fill or Kill และคำสั่งซื้อที่ปรับขนาดด้วยตนเอง เป็นต้น
อินเทอร์เฟซหรือคุณสมบัติบนแพลตฟอร์มการเทรดของ Bitfinex นั้นสามารถปรับแต่งได้ด้วยตนเองเช่นกัน โดยคุณสามารถเข้าถึงฟังก์ชันการสร้างแผนภูมิขั้นสูง และการเข้าถึง #API ได้อีกด้วย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ต่างทำให้แพลตฟอร์มนี้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
2. Margin Trading
Bitfinex อนุญาตสมาชิกผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มทำการกู้เงินได้ และสามารถเพิ่ม Leverage ได้สูงสุดถึง 10 เท่าอีกด้วย โดยรับเงินทุนได้จากฟังก์ชันที่ใช้ระบบ P2P บนแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า “Margin Funding” ซึ่งผู้ใช้สามารถป้อนคำสั่งซื้อเพื่อยืมเงินในจำนวนที่ต้องการได้ด้วยตนเอง โดยให้อยู่ในขอบเขตของอัตราเงินทุน และระยะเวลาที่ต้องการ หรือจะใช้ระบบอัตโนมัติของ Bitfinex จัดการให้ก็ได้เช่นเดียวกัน
3. Margin Funding
เป็นบริการเงินทุนหลักประกันบน Bitfinex ที่สมาชิกผู้ใช้จะได้รับดอกเบี้ยเป็นสกุลเงินดั้งเดิมและคริปโตก็ได้ โดยได้มาจากการจัดหาเงินทุนให้กับนักลงทุนบนแพลตฟอร์มที่ต้องการเทรดแบบมาร์จิ้นและเพิ่ม Leverage ซึ่งผู้ใช้จะได้สามารถเสนอเงินทุนในหลากหลายสกุลเงินให้แก่พวกเขา ตามอัตราและระยะเวลาที่ต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นผู้ใช้ยังสามารถใช้คุณสมบัติการต่ออายุอัตโนมัติ เพื่อขอต่ออายุข้อเสนอการวางเงินทุนเมื่อมันหมดอายุได้อีกด้วย
4. การซื้อขายอนุพันธ์ (Derivative Product)
เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของราคาคริปโต โดยสามารถซื้อขายได้ที่บริการ “Derivative Products” ซึ่งมีสัญญาถาวรอยู่แล้วและมีอนุพันธ์อื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา โดยบริการนี้สามารถซื้อขายได้โดยใช้ Derivative Wallet ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Stablecoin อย่าง USDT
5. Staking และ Lending
Bitfinex เปิดให้บริการ Staking และกู้ยืมด้วยเช่นกัน โดยผู้ใช้สามารถใช้บริการผ่านคริปโตที่ถือครองได้ไม่ยาก ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านเทคนิคใด ๆ เพียงแค่ใช้การวางหลักประกันเท่านั้น
6. ประเภทคำสั่งซื้อต่าง ๆ
Advanced order types: เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างคำสั่งซื้อขายได้หลายรายการในครั้งเดียว โดยสร้างเป็นคำสั่งอัตโนมัติในช่วงราคาที่ผู้ใช้กำหนดเอง
Paper Trading: เป็นระบบการเทรดจำลอง ไม่ต้องใช้เงินจริง โดยช่วยให้ผู้ใช้สามารถทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายของตนเอง
Honey Framework: เป็นการสร้างคำสั่งซื้อที่กำหนดด้วยตนเองที่ใช้งานร่วมกับกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติที่อยู่บนแพลตฟอร์ม ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย
มุมมองการซื้อขายเป็นแบบทั่วไปและใช้งานง่าย ซึ่งรองรับระบบปฏิบัติการทั้ง Android, iOS, Windows, OSX และ Linux
และในขณะเดียวกัน Bitfinex ได้นำเสนอโซลูชันอีกมากมายหลายประเภทด้วยกันที่จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกสบายในการใช้งานอีกด้วย ได้แก่
“Bitfinex นำเสนอ Order Book ที่มีสภาพคล่องระดับสูงสุด”
Bitfinex รองรับช่องทางการโอนเงินผ่านธนาคารด้วยสกุลเงินดั้งเดิม ได้แก่ EUR, JPY, GBP และ USD รวมไปถึงการรองรับ Tether (USDT) ซึ่งเป็น Stablecoin ที่ผูกตรึงมูลค่าไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างไม่เป็นทางการ
สำหรับการชำระด้วยคริปโตนั้นรองรับมากกว่า 80 สกุลด้วยกัน เช่น Bitcoin, Litecoin, Ethereum, Zcash, Monero, Dash, Ripple, Iota, EOS และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ช่องทางการฝากถอนคริปโตนั้นสามารถทำได้หากผู้ใช้มีการระบุที่อยู่อีเมลในระบบสมาชิกเท่านั้น และจะทำการซ่อนแอดเดรสการรับส่งด้วยระบบ TOR ได้อีกด้วย
รูปแบบค่าธรรมเนียม | Taker-Maker |
Taker | 0.2% – 0.55% |
Maker | 0% – 0.1% |
การกู้ยืม | 15% – 18% |
Margin Funding | 15% – 18% |
Bitfinex ใช้รูปแบบค่าธรรมเนียมที่เรียกว่า Taker-Maker โดยค่าธรรมเนียมประเภทนี้จะถูกเรียกเก็บเมื่อมีการดำเนินการซื้อขายและจับคู่ ไม่ใช่เมื่อมีการสร้างคำสั่งซื้อขาย
Maker: เป็นคำสั่งซื้อที่ไม่ได้รับการจับคู่และจะยังไม่ได้รับการดำเนินการในทันที เนื่องจากคำสั่งซื้อไม่ตรงกับรายการใดใน Order Book เลย
Taker: เป็นคำสั่งซื้อที่ได้รับการจับคู่และจะได้รับการดำเนินการอนุมัติทันที เนื่องจากคำสั่งซื้อนั้นตรงกับรายการใน Order Book
หากเป็นการโอนเงินผ่านทางธนาคารไม่ว่าจะเป็นการฝากหรือถอน จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 0.1% และอัตราสูงสุดที่ 1% สำหรับรายการฝากถอนเร่งด่วน ซึ่งการฝากเงินด้วยคริปโตจะไม่มีค่าธรรมเนียม แต่ในขณะที่การถอนนั้นจะมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยขึ้นอยู่กับสกุลเงินที่ถอน สามารถตรวจสอบค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมได้ ที่นี่
Bitfinex ถูกจัดอยู่อันดับที่ 9 ในฐานะ Exchange ด้วยปริมาณการซื้อขายต่อวันกว่า 3 หมื่นล้านบาท
อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญบน Bitfinex คือการฝากเงิน โดยสามารถใช้สกุลเงินที่หลากหลายในการฝากได้แบบไม่มีค่าธรรมเนียม มีขั้นตอนดังนี้
การถอนเงินมีขั้นตอนดังนี้
ถึงแม้ว่าทาง Bitfinex ได้รับผลกระทบจากการละเมิดความปลอดภัยบนแพลตฟอร์มหลายครั้งในปี 2015 และภายในปี 2016 มีการโจรกรรม Bitcoin ถึงสองครั้งด้วยกัน โดยครั้งแรกสูญเสีย Bitcoin จำนวน 1,500 Bitcoin และครั้งที่สองเป็นจำนวน 120,000 Bitcoin ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการโจรกรรมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในวงการคริปโต และเกิดการกระตุ้นให้มีการสอบสวนอย่างกว้างขวาง
โดยหลังจากเหตุการณ์ครั้งใหญ่นั้น ทางแพลตฟอร์มได้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ด้วยการใช้ระบบของ Google Authenticator เป็นการตรวจสอบสิทธิ์สองระดับ (Two-Factor Authenticator) ในการเข้าสู่ระบบและถอนเงิน ซึ่งถือเป็นระบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันเนื่องจากได้รับการยอมรับในเรื่องการเสริมความปลอดภัยให้กับบัญชีผู้ใช้
และในขณะเดียวกันทาง Bitfinex ก็ได้เพิ่มระบบการตรวจสอบที่ละเอียดยิ่งขึ้น ด้วยมาตรฐานนโยบายด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (Anti-Money Laundering and Combating the Financing of Terrorism: AML/CFT) และรวมไปถึงขั้นตอน Know Your Customer (KYC) โดยระบบเหล่านี้จะใช้เอกสารของผู้ใช้ในการตรวจสอบ เพื่อยืนยันการมีตัวตนและตรวจสอบประวัติต่าง ๆ อีกด้วย
หากคุณเป็นนักลงทุนที่มีประสบการณ์ Bitfinex ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการทำกำไร เนื่องจากบนแพลตฟอร์มนี้น่าจะมีทุกสิ่งที่นักลงทุนต้องการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสภาพคล่อง เครื่องมือการลงทุนต่าง ๆ ประเภทคำสั่งซื้อที่หลากหลาย ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับสไตล์และกลยุทธ์ที่คุณมี
โดยสำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเงินทุนเนื่องจากเหตุการณ์ในอดีตนั้น ซึ่งในขณะนี้ทางแพลตฟอร์มได้ทำการคืนเงินให้กับลูกค้าทุกคนเรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่าทาง Bitfinex ได้ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในอดีตนั้นส่งผลให้ Bitfinex มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทนทานต่อการโจมตีอีกด้วย
คลิกที่นี่ เพื่อสมัครสมาชิกและรับค่าธรรมเนียมคืน 6%