(รีวิว) Crypto.com แพลตฟอร์มตลาดแลกเปลี่ยนที่มีความปลอดภัยสูง

ทำความรู้จักกับ Crypto.com

 

คลิกที่นี่ เพื่อรับเงินคืนมูลค่า $25 จาก Crypto.com

เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มทางการเงินที่ให้บริการหลากหลาย ที่มาพร้อมกับการรองรับสกุลเงินต่าง ๆ มากมายทั้งสกุลเงินดั้งเดิมและคริปโต และในขณะนี้มีจำนวนบัญชีผู้ใช้จากทั่วโลกกว่า 10 ล้านบัญชีด้วยกัน รวมไปถึงทางแพลตฟอร์มนั้นได้ทำงานร่วมกับสถาบันการกำกับดูแลทั่วโลกอีกด้วย

ในช่วงเริ่มการก่อตั้งบริษัทนั้นได้เปิดตัวในชื่อ “Monaco Technologies GmbH” และอยู่ภายใต้การควบคุมของ CEO คนปัจจุบันคือ Kris Marszalek ซึ่งเขาได้ให้สโลแกนของบริษัทว่า “ใช้จ่ายได้ทุกที่โดยไม่มีค่าธรรมเนียม”

• ในปี 2017 Monaco ได้เปิดตัว Utility Token ของตนเองที่ใช้ชื่อว่า “MCO” โดยได้รับการสนับสนุนผ่านการระดมทุน ICO ซึ่งสามารถระดมทุนไปได้กว่า 26 ล้านเหรียญสหรัฐ และได้ทำการแจกจ่ายโทเคน MCO ไปกว่า 12 ล้านโทเคน (จากอุปทานทั้งหมด 31.5 ล้านโทเคน)
• ในปี 2018 Monaco ได้ประกาศรีแบรนด์เป็น Crypto.com และในเวลาเดียวกันก็ได้เปิดตัว Crypto.com Chain พร้อมด้วยโทเคนใหม่ที่ชื่อว่า “CRO” และรวมไปถึงยังได้จัดส่ง Crypto.com Visa Card ให้กับกลุ่มลูกค้าที่เข้าเงื่อนไขในขณะนั้น
• ในปี 2019 Crypto.com ได้เปิดตัวการแลกเปลี่ยนแบบ Crypto-to-Crypto โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเอาชนะส่วนแบ่งทางการตลาด และได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้แก่ Crypto.com Pay, Crypto Earn และ Crypto Credit รวมไปถึงได้เริ่มการจัดส่ง Crypto.com Visa Card ไปยังกลุ่มลูกค้าในสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นเดียวกัน
• ในปี 2020 Crypto.com ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์น้องใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยม ได้แก่ DeFi Wallet และ DeFi Swap และได้เริ่มการส่งมอบ Crypto.com Visa Card ให้แก่กลุ่มลูกค้าในยุโรปอีกด้วย และในขณะเดียวกันก็ได้ประกาศยกเลิกการใช้โทเคน “MCO” โดยเปลี่ยนไปใช้โทเคน “CRO” ทั้งหมด

ข้อมูลบริษัท	ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2559 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในฮ่องกง ก่อตั้งโดย Kris Marszalek, Gary Or, Rafael Melo และ Bobby Bao
รูปแบบแพลตฟอร์ม	Website: crypto.com Application: Crypto.com รองรับระบบ Android และ iOS (Download: Android / iOS)
ความสะดวกในการใช้งาน	Website: ระดับปานกลาง Application: ระดับง่าย
ระยะเวลายืนยันการเป็นสมาชิก	1 วัน
สกุลเงินดั้งเดิมที่รองรับ	AUD, BGN, CAD, CHF, CZK, DKK, EUR, GBP, HKD, HRK, HUF, ILS, JPY, NOK, NZD, PLN, RON, SEK, SGD, USD และ ZAR
ประเทศที่เปิดให้บริการ	มากกว่า 90 ประเทศ
ช่องทางการชำระเงิน	โอนเงินผ่านธนาคาร, Credit/Debit Card, SEPA, PayPal, Skrill และอื่น ๆ
จำนวนคริปโตที่รองรับ	117 สกุล (อ้างอิงข้อมูล CoinMarketCap.com วันที่ 17/9/2564)
ระบบบริการลูกค้า	ศึกษาข้อมูลและขอความช่วยเหลือได้ ที่นี่ ตลอด 24/7

 

ประเทศที่รองรับและการลงทะเบียนสมาชิก

ในปัจจุบันแพลตฟอร์ม Crypto.com เปิดให้บริการในหลายภูมิภาคด้วยกัน เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป แคนาดา ออสเตรเลีย รัสเซีย กลุ่มประเทศในละตินอเมริกา บางประเทศในเอเชีย และบางประเทศในแอฟริกา เป็นต้น

ซึ่งข้อกำหนดในการลงทะเบียนนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่ในภูมิภาคใดก็ตาม ทางแพลตฟอร์มจะขอเอกสารยืนยันตัวตนก่อนที่ระบบจะอนุมัติให้เป็นสมาชิก โดยสิ่งที่คุณต้องยื่นให้แก่ทางแพลตฟอร์มในเบื้องต้น มีดังนี้

• ชื่อเต็มตามกฎหมาย
• รูปภาพของบัตรประจำตัวที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ
• เซลฟี่เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าคุณมีตัวตนจริง

และหากคุณต้องการรับ Crypto.com Visa Card นั้นคุณจะต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมแก่ทางแพลตฟอร์ม ได้แก่ เอกสารยืนยันที่อยู่ของคุณพร้อมด้วยบิลค่าสาธารณูปโภคล่าสุด (ไม่เกิน 3 เดือน) เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเป็นที่อยู่จริง และคุณพักอาศัยอยู่จริงในช่วงระยะเวลาดังกล่าว โดยมีระยะเวลารอคอยในการตรวจสอบเอกสารประมาณ 3 วันทำการ

ผลิตภัณฑ์และบริการบน Crypto.com

ทางแพลตฟอร์มเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่หลากหลาย ที่มาพร้อมกับระบบการใช้งานที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ ดังนี้

1. Crypto.com Exchange
เป็นผลิตภัณฑ์หลักที่เสนอการแลกเปลี่ยนแบบ Crypto-to-Crypto โดยเฉพาะ ซึ่งจะมุ่งเน้นไปยังนักลงทุนที่มีประสบการณ์ระดับปานกลางขึ้นไป โดยจะสามารถทำการซื้อขายคริปโตได้หลากหลายสกุล เช่น BTC, USDT และ CRO เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถซื้อขายอนุพันธ์และ Margin Trading ที่นำเสนอขนาด Leverage ตั้งแต่ 3x สูงสุดถึง 50x อีกด้วย

ซึ่งตัวผลิตภัณฑ์ได้รับการออกแบบมาเพื่อเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าที่พอจะมีประสบการณ์มาบ้างแล้ว เนื่องจากคำสั่งซื้อบางฟังก์ชันนั้นมีความซับซ้อนเล็กน้อย โดยจะมีฟังก์ชันคำสั่งซื้อตั้งแต่ Limit, Market, Derivative 100x และ Advance Stop-limit/Stop-loss

และนอกจากนี้ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ Crypto.com Exchange ยังสามารถเข้าถึงฟังก์ชันเพิ่มเติมบนผลิตภัณฑ์ได้ ดังนี้ (ศึกษาเพิ่มเติมได้ ที่นี่)

– Margin Trading

– Derivatives Trading

– The Syndicate

– Supercharger

– Trading Arena

2. Crypto.com DeFi Swap & DeFi Wallet
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาและอัปเดตใหม่ล่าสุดบนแพลตฟอร์ม เนื่องด้วยกระแสความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นมากในช่วงปีที่ผ่านมานี้ โดยทางแพลตฟอร์มได้อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานในการจัดเก็บสินทรัพย์อย่างปลอดภัยเต็มรูปแบบ รวมไปถึงการ Swap, Staking และใช้ประโยชน์จากโปรโตคอล DeFi ในการสร้างรายได้ให้กับการถือครองสินทรัพย์ของผู้ใช้ได้อีกด้วย ในขณะเดียวกันก็ได้นำเสนอรางวัลที่เพิ่มแรงจูงใจ หากผู้ใช้ทำการ Staking โทเคน CRO จะสามารถรับผลตอบแทนมากกว่า 20 เท่าด้วยกัน
(ศึกษาเพิ่มเติมได้ ที่นี่)

 

3. Crypto.com Visa Card
เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิต/เดบิต ร่วมกันกับการใช้งานคริปโต ซึ่งถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าทึ่งและได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเหล่าสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะได้รับจะอ้างอิงตามมูลค่าการ Staking โทเคน CRO ดังภาพต่อไปนี้
(ศึกษาเพิ่มเติมได้ ที่นี่)

4. Crypto.com NFT
เป็นอีกหนึ่งในประเภทของสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปีนี้ สำหรับ NFT หรือ Non-Fungible Token เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยอยู่ในรูปแบบของงานศิลปะ, สัตว์เลี้ยงเสมือน, อสังหาริมทรัพย์เสมือน, การ์ดดิจิทัล และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทางแพลตฟอร์มได้เปิดพื้นที่ให้กับเหล่านักลงทุนที่ต้องการสะสมงานศิลปะ รวมไปถึงศิลปินหรือบุคคลทั่วไปที่มีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์ผลงาน ได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในตลาด NFT ของ Crypto.com อีกด้วย (ศึกษาเพิ่มเติมได้ ที่นี่)

5. Crypto.com Pay
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนและธุรกิจต่าง ๆ สามารถชำระค่าบริการได้ด้วยคริปโตแบบไม่มีค่าธรรมเนียม และสำหรับการชำระผ่านสกุลเงินดั้งเดิมจะต้องเสียค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 0.5% เท่านั้น (ศึกษาเพิ่มเติมได้ ที่นี่)

6. Crypto.com Crypto Earn
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการในรูปแบบเดียวกับบัญชีดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคาร โดยคุณสามารถฝากคริปโตที่ต้องการเพื่อรับดอกเบี้ยทุกวัน ซึ่งจะได้รับดอกเบี้ยในสกุลเดียวกับที่ฝากเอาไว้ แต่อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้รับการอนุมัติให้ใช้งานในฮ่องกง ซาร์ มอลตา และสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องด้วยขอบเขตของอำนาจศาลที่มีข้อจำกัด

ผลิตภัณฑ์นี้ได้ระบุเงื่อนไขของการฝากในเรื่องของระยะเวลา ได้แก่ 1 เดือน, 3 เดือน และแบบยืดหยุ่น ซึ่งแน่นอนว่าอัตราดอกเบี้ยที่จะได้รับก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณการฝากและสกุลเงินนั้น ๆ (ศึกษาเพิ่มเติมได้ ที่นี่)

7. Crypto.com Crypto Credit
เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดบนแพลตฟอร์มนี้ ถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์จะยังเปิดตัวได้ไม่นานและฟังก์ชันยังไม่ครบสมบูรณ์ แต่ในฟังก์ชันที่พร้อมใช้งานนั้นก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว โดยมันจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถกู้ยืมเงินจากแพลตฟอร์ม เพื่อนำไปใช้จ่ายและสามารถชำระเงินคืนในภายหลังได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการยืมเป็นเงินสดจำนวน $5,000 โดยคุณจะต้องทำการวางหลักประกันเป็นคริปโตสกุลใดก็ได้เป็นมูลค่า $10,000 เป็นต้น และทางผลิตภัณฑ์จะมีคุณสมบัติเฉพาะตัว ดังนี้

– ไม่มีกำหนดเวลาการชำระคืน
– ไม่มีการตรวจสอบเครดิตของผู้กู้
– การใช้โทเคน CRO เป็นหลักประกันจะมีค่าธรรมเนียมต่ำ
– ไม่มีจำนวนขั้นต่ำในการชำระ
(ศึกษาเพิ่มเติมได้ ที่นี่)

 

การบริการเพิ่มเติมด้านอื่น ๆ ดังนี้

Crypto.org Chain
เป็นบริการ Blockchain สาธารณะแบบ Open Source และกระจายศูนย์อำนาจแบบเต็มตัว โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นเครือข่ายที่สามารถกระจายอำนาจได้อย่างเต็มที่ด้วยความเร็วสูง และมาพร้อมกับการนำเสนออัตราค่าธรรมเนียมต่ำ รวมไปถึงการออกแบบมาเพื่อเป็นการขับเคลื่อนในการนำเทคโนโลยี Blockchain มาปรับใช้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้นผ่านการใช้งานในด้านต่าง ๆ เช่น การชำระเงิน, DeFi และ NFT เป็นต้น (ศึกษาเพิ่มเติมได้ ที่นี่)

Pay For Business
เป็นบริการที่อำนวยความสะดวกในการชำระเงินด้วยโทเคนในระบบ DeFi มากกว่า 30 โทเคนด้วยกัน เช่น CRO, ETH, BTC, DOT และ DOGE เป็นต้น และยังสามารถส่งคริปโตได้แบบไม่มีค่าธรรมเนียม นอกจากนั้นยังได้รับเงินคืนสูงสุดถึง 10% โดยจะจ่ายให้ในรูปแบบของโทเคน CRO อีกด้วย

ซึ่งการชำระเงินด้วยโทเคนนั้นจะใช้สำหรับการซื้อสินค้าทางออนไลน์จากร้านค้าปลีกต่าง ๆ กว่า 300 แบรนด์ใน 30 ประเทศทั่วโลก เช่น WooCommerce, OpenCart, Ecwid, Oveit, nopCommerce และ PrestaShop เป็นต้น (ศึกษาเพิ่มเติมได้ ที่นี่)