Connect with us

Bitcoin vs Ethereum: แตกต่างกันอย่างไร?

คริปโตสองสกุลยอดนิยม ที่มีทั้งความเหมือนและความต่าง

ภาพรวม

Ether (ETH) เป็นคริปโตประจำเครือข่าย Ethereum และถือเป็นโทเคนดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุดรองจาก Bitcoin (BTC) โดยยังรวมไปถึงการมีมูลค่าทางตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในฐานะคริปโตอีกด้วย ซึ่งการเปรียบเทียบกันระหว่างอันดับหนึ่งและอันดับสองในหลาย ๆ วงการนั้นถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป ไม่เว้นแม้แต่ในวงการคริปโตที่จะเกิดการเปรียบเทียบระหว่างสองความยิ่งใหญ่อย่าง Ether และ Bitcoin ก็เป็นเรื่องที่ผู้คนยังคงให้ความสนใจอยู่ทุกช่วงเวลา

โดยหากพูดถึงความคล้ายคลึงกันของ Ether และ Bitcoin ก็มีอยู่หลายด้านด้วยกัน ตัวอย่างเช่น

  • ทั้งสองเป็นคริปโตที่เปิดให้ซื้อขายผ่านตลาดแลกเปลี่ยนทางออนไลน์
  • ทั้งสองสามารถเก็บไว้ใน Digital Wallet ประเภทต่าง ๆ ได้
  • ทั้งสองมีระบบการกระจายอำนาจเหมือนกัน โดยไม่ได้ออกหรือควบคุมโดยธนาคารกลางหรือหน่วยงานใด ๆ ทั้งสิ้น
  • ทั้งสองใช้เทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทสาธารณะที่เรียกว่า “Blockchain”

แต่อย่างไรก็ตามทั้ง Ether และ Bitcoin ก็ยังมีความแตกต่างที่สำคัญอยู่หลายประการ นอกเหนือไปจากระดับความนิยมและมูลค่าสูงสุดตามตลาด โดยข้อมูลต่อไปนี้จะเป็นการพิจารณาความเหมือนและความแตกต่างกันระหว่าง Ether และ Bitcoin อย่างละเอียดยิ่งขึ้น

จุดเด่น

  • คริปโตทั้งสองสกุลอยู่บนเครือข่าย Blockchain เหมือนกัน แต่มีจุดประสงค์ที่ต่างกัน
  • Ether มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะเติมเต็มเทคโนโลยี มากกว่าที่จะแข่งขันกับ Bitcoin
  • Bitcoin มีความโดนเด่นมากกว่าในเรื่องของความนิยมและมูลค่าตามตลาด แต่สำหรับ Ether มีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีที่มากกว่า

ข้อมูลเบื้องต้นของ Bitcoin

Bitcoin ได้มีการเปิดตัวในเดือนมกราคมของปี 2009 โดยมีแนวคิดและข้อกำหนดต่าง ๆ ระบุไว้ใน White Paper ที่เผยแพร่โดยบุคคลลึกลับที่ใช้นามแฝงว่า “Satoshi Nakamoto” ซึ่งแนวคิดบางส่วนระบุว่า Bitcoin เป็นสกุลเงินออนไลน์หรือสกุลเงินเสมือนที่มีความปลอดภัยสูง โดยไม่ต้องมีอำนาจใดเข้ามาเกี่ยวข้อง และแน่นอนว่ามันมีความแตกต่างจากสกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาลอย่างสิ้นเชิง ในแง่ของการเป็นสกุลเงินที่จับต้องไม่ได้ แต่จะแสดงเพียงยอดคงเหลือในบัญชีแยกประเภทสาธารณะที่มีการเข้ารหัสลับเท่านั้น และถึงแม้ว่า Bitcoin จะไม่ใช่ความพยายามครั้งแรกในการสร้างสกุลเงินออนไลน์ก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นสกุลเงินออนไลน์แรกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด อีกทั้งยังได้กลายเป็นที่รู้จักในฐานะผู้บุกเบิกของคริปโตเกือบทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น แนวคิดของสกุลเงินแบบกระจายอำนาจนี้เริ่มได้รับการยอมรับจากหน่วยงานกำกับดูแลและหน่วยงานของรัฐบ้างแล้ว ถึงแม้ว่าจะยังไม่ใช่สื่อกลางในการชำระเงินหรือการจัดเก็บมูลค่า (Store of Value) ที่ได้รับการยอมรับและถูกต้องตามกฎหมายอย่างเป็นทางการก็ตามที แต่ก็เป็นสกุลเงินที่สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะของตัวเองได้ และยังคงอยู่ร่วมกับระบบการเงินได้อีกด้วย

*เหตุการณ์สำคัญ: ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโตอย่างรวดเร็วในวงการคริปโตเมื่อปี 2017 มูลค่ารวมทางตลาดของ Bitcoin คิดเป็นเกือบ 87% ของมูลค่ารวมทั้งหมดในตลาด

ข้อมูลเบื้องต้นของ Ethereum

ในปี 2015 ได้มีการเปิดตัว Ethereum อย่างเป็นทางการ โดยมีการนำเสนอการใช้งานเทคโนโลยี Blockchain ที่นอกเหนือไปจากการเป็นคริปโตในการชำระเงิน ซึ่งสิ่งที่ Ethereum นำเสนอคือการตั้งตัวเองเป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์กระจายอำนาจแบบ Open Source ที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่ยอมรับมากที่สุด

Ethereum ได้เปิดให้ปรับใช้ Smart Contract และ Dapps เพื่อสามารถสร้างและรันการทำงานได้โดยไม่มีการหยุดพัก ไร้ซึ่งการฉ้อโกง และไม่มีการควบคุมหรือการแทรกแซงจากบุคคลที่สาม นอกจากนี้ Ethereum ก็มาพร้อมกับภาษาการเขียนโปรแกรมของตนเองชื่อว่า “Solidity” ที่ทำงานอยู่บน Blockchain และด้วยสิ่งนี้จึงทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างและรัน Dapps ได้อย่างง่ายดาย

Dapps ที่มีประสิทธิภาพบนเครือข่าย Ethereum นั้นมีหลากหลายมาก ซึ่งมันขับเคลื่อนโดยการใช้งานโทเคนดิจิทัลประจำเครือข่ายอย่าง Ether (ETH) โดยเมื่อปี 2014 นั้นทาง Ethereum ได้เปิดโครงการระดมทุน ICO สำหรับโปรเจ็ค Ether และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดย Ether นั้นเปรียบเสมือนเชื้อเพลิงหรือพลังงานสำหรับการรัน Code บนแพลตฟอร์ม Ethereum อีกทั้งยังถูกใช้โดยนักพัฒนาในการสร้างและรัน Dapps อีกด้วยเช่นเดียวกัน

Ether (ETH) นั้นถูกใช้เพื่อวัตุประสงค์หลัก 2 ประการด้วยกัน ดังนี้

  • ใช้ในการแลกเปลี่ยนมูลค่าภายในตลาดคริปโต เช่นเดียวกันกับสกุลอื่น ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
  • ใช้ในเครือข่าย Ethereum เพื่อเรียกใช้งาน Dapps และตามคำกล่าวใน White Paper ของ Ethereum ว่า “ผู้คนทั่วโลกจะสามารถใช้ Ether เพื่อการชำระเงิน, จัดเก็บมูลค่า และเพื่อเป็นหลักประกันได้”

“ผู้สร้าง Ethereum เคยเป็นหนึ่งในทีมพัฒนาของ Bitcoin มาก่อน”

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Ethereum vs Bitcoin

ถึงแม้ว่าทั้งเครือข่ายของ Ethereum และ Bitcoin นั้นจะขับเคลื่อนด้วยหลักการของบัญชีแยกประเภทแบบกระจายอำนาจและการเข้ารหัส แต่ทั้งสองก็มีความแตกต่างกันทางเทคนิคในหลาย ๆ ด้าน ตัวอย่างเช่น ธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum นั้นมี Code บางส่วนที่เปิดให้เข้าร่วมในการใช้งานได้ แต่ในขณะที่ Code ของ Bitcoin นั้นมีไว้เพื่อการจัดเก็บบันทึกธุรกรรมเพียงอย่างเดียว เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีความแตกต่างอื่น ๆ ได้แก่ เวลากำเนิดบล็อก (Ethereum อยู่ในหลักวินาที แต่ Bitcoin อยู่ในหลักนาที) และอัลกอริธึมที่ใช้ในการรันการทำงานบนเครือข่าย Blockchain (Ethereum ใช้อัลกอริธึม ethash ในขณะที่ Bitcoin ใช้ SHA-256)

และที่สำคัญไปกว่านั้น เครือข่ายของ Ethereum และ Bitcoin ยังมีความแตกต่างกันในเรื่องของเป้าหมายโดยรวม ในขณะที่ Bitcoin ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกให้กับสกุลเงินดั้งเดิมในหลายภูมิภาค และปราถนาที่จะได้รับการยอมรับให้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน รวมไปถึงการจัดเก็บมูลค่าอีกด้วย แต่ในทางกลับกัน Ethereum นั้นมีความตั้งใจจะเป็นแพลตฟอร์มที่อำนวยความสะดวกในการสร้างสัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์ และแอพพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ ซึ่งวลีที่ใช้อธิบายเครือข่ายของ Ethereum ว่าเปรียบเสมือน “คอมพิวเตอร์ของโลกดิจิทัล” นั้นก็ไม่เกินความจริงเท่าใดนัก

Bitcoin และ Ether เป็นคริปโตทั้งคู่ก็จริง แต่จุดประสงค์หลักของ Ether นั้นไม่ใช่เพื่อการสร้างตัวเองให้เป็นเพียงระบบการเงินทางเลือกเพียงอย่างเดียว แต่ยังถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวก และสามารถสร้างรายได้จากการดำเนินงานของ Smart Contract และ Dapps บนเครือข่าย Ethereum ได้ด้วยเช่นกัน

หากพูดถึงในทางทฤษฎีแล้ว Ethereum ก็ยังไม่สามารถเอาชนะ Bitcoin ได้ในขณะนี้ แต่อย่างไรก็ตามความนิยมของ Ether ก็ได้ผลักดันให้คริปโตสกุลอื่นแข่งขันกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมุมมองของนักลงทุนส่วนใหญ่ได้คาดการณ์ว่า ในอนาคตอาจมีสกุลใดสกุลหนึ่งที่จะเข้ามาแทนที่อันดับสองอย่าง Ether ก็เป็นได้ และหากย้อนไปในประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่นับตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อกลางปี 2015 เป็นต้นมานั้น Ether ก็รั้งอันดับอยู่หลัง Bitcoin มาตลอด แต่ในขณะเดียวกันเหล่าคริปโตสกุลใหม่ ที่ได้กำเนิดขึ้นกลับตีตื้นขึ้นมาเพื่อหวังจะโค่นล้ม Ether ให้ได้ ไม่ว่าจะในเรื่องของมูลค่ารวมตามตลาด หรือแม้แต่ความพยายามในการพัฒนาระบบการทำงานให้เหนือกว่าคริปโตทั้ง 2 อันดับแรกอยู่เสมอ

แต่อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ควรระลึกคือ ระบบนิเวศของ Ether นั้นยังมีขนาดเล็กกว่า Bitcoin อยู่มากเช่นเดียวกัน โดยในขณะนี้มูลค่ารวมของตลาดคริปโตอยู่ที่ประมาณ 73 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนแบ่งตามตลาดจะเป็นของ Bitcoin ไปแล้วกว่า 41.5% และเป็นของ Ether 20.2% (อ้างอิงจาก CoinMarketCap 6/9/64) จากตัวเลขดังกล่าวจะเห็นได้ว่า Ether นั้นยังอยู่ห่างไกลจาก Bitcoin อีกมากพอสมควร

และถึงแม้ว่าในความเป็นจริง Ether ก็ไม่ได้ต้องการจะเอาชนะในเรื่องของส่วนแบ่งมูลค่ารวมตามราคาตลาดอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไรสิ่งนี้ก็ได้ชี้ให้เห็นว่า Bitcoin ยังคงได้รับความนิยมมากกว่าหลายเท่าตัว อาจเนื่องมาจากเรื่องของอุปทานหมุนเวียนที่จำกัด และระบบการทำงานที่พัฒนาให้การได้มาซึ่งตัวโทเคนนั้นมีความยากขึ้นทุก ๆ 4 ปี โดย Bitcoin มีอุปทานหมุนเวียนในระบบทั้งหมด 21 ล้าน Bitcoin (อยู่ในตลาดแล้วกว่า 18 ล้าน Bitcoin) แต่ในขณะที่ Ether นั้นมีจำนวนอุปทานที่ไม่จำกัด ซึ่งตอนนี้หมุนเวียนอยู่ในตลาดแล้วกว่า 100 ล้าน Ether ด้วยกัน แต่หากมองไปถึงเรื่องของระบบการทำงานที่ใช้ศักยภาพของ Blockchain ได้อย่างคุ้มค่าและเต็มประสิทธิภาพแล้วนั้น แน่นอนว่าตัว Ethereum ก็ได้ทิ้งห่าง Bitcoin ไปมากพอสมควรด้วยเช่นเดียวกัน

Bitcoin ถือไพ่เหนือกว่าในแง่ของการเป็นคริปโตตัวแรก แต่สำหรับ Ethereum นั้นมีความเหนือกว่าด้านเทคโนโลยี

ประเภทของประกันรถยนต์

ประกันชั้น 1

เพิ่มเติม

ประกันชั้น 2+

เพิ่มเติม

ประกันชั้น 3+

เพิ่มเติม

พ.ร.บ.รถยนต์

เพื่มเติม

ทิปดีๆ เกี่ยวกับประกันรถยนต์

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันรถยนต์

เพิ่มเติม

วิธีคำนวนเบี้ยประกันรถยนต์

เพิ่มเติม

ทำอย่างไรให้ได้เบี้ยประกันลดลง

เพิ่มเติม

ประกันที่เหมาะกับมือใหม่

เพิ่มเติม

หลังเกิดอุบัติเหตุรถชน ควรทำอย่างไร

เพิ่มเติม

เมาแล้วขับ

เพิ่มเติม

ไม่เคลม รับส่วนลดเบี้ยประกัน

เพิ่มเติม

รถมีประกันหรือเปล่า

เพิ่มเติม

ทิปดีๆ เกี่ยวกับประกันรถยนต์

รถยนต์สำหรับคนขับอายุน้อย

เพิ่มเติม

ต่อประกันรถยนต์อัตโนมัติ

เพิ่มเติม

ประกันรถยนต์สำหรับคนขับอายุน้อย

เพิ่มเติม

ประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่มือใหม่

เพิ่มเติม

การแจ้งเคลมประกันรถยนต์หลังเกิดอุบัติเหตุ

เพิ่มเติม