The Next Big Thing: การจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล
การจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในตลาดการเงิน
การจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในตลาดการเงิน
นอกเหนือจากบทบาทในการปฏิวัติการสื่อสารแล้วนั้น อินเทอร์เน็ตยังถือได้ว่าเป็นแรงผลักดันในการลงทุนทางออนไลน์อีกด้วย โดยเป็นการทำลายอุปสรรคด้านการเข้าถึงข้อมูล และการดำเนินการต่าง ๆ สำหรับนักลงทุนรายย่อย ซึ่งการแพร่กระจายของแอพพลิเคชันการซื้อขายนั้น ทำให้เกิดฟังก์ชันอีกมากมายตามมาในภายหลัง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเหล่านักลงทุนในวงกว้าง หมายความว่าความสามารถในการเข้าร่วมตลาดการเงินนั้นจะมีความรวดเร็วในการดำเนินการมากขึ้น และมีค่าธรรมเนียมที่ลดต่ำลง
ตั้งแต่นั้นมาแพลตฟอร์มตลาดหุ้นชื่อดังอย่าง eTrade และ Interactive Broker นั้นก็ได้รับความนิยมในการซื้อขายมากยิ่งขึ้น เป็นเพราะทั้งสองแพลตฟอร์มนี้ทำให้กลุ่มสินทรัพย์ รวมไปถึงเครื่องมือการลงทุนต่าง ๆ และการศึกษาข้อมูลสำหรับนักลงทุนรายย่อยนั้น สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้รวมฟังก์ชันต่าง ๆ เอาไว้ทั้งหมดในที่เดียว และยังได้ทำการจัดหาสภาพคล่องจากการแลกเปลี่ยนหลายรายการ โดยรวมไปถึง ECN (Electronic Communication Network) ซึ่งเป็นบัญชีที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างคำสั่งซื้อขายเข้าไปในตลาดได้โดยไม่จำเป็นต้องดำเนินการผ่านโบรกเกอร์ใด ๆ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มข้อได้เปรียบในการลงทุนทางออนไลน์อีกด้วย
ในขณะเดียวกัน ก็อาจจะเกิดจุดเปลี่ยนของตลาดการเงินครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง เมื่อการถือกำเนิดขึ้นมาของตลาดการเงินคลาสใหม่และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “สินทรัพย์ดิจิทัล” แต่อย่างไรก็ตามชื่อดังกล่าวนั้น ถือว่ามีความหมายค่อนข้างกว้าง เนื่องจากภายในสินทรัพย์ดิจิทัล ก็มีสินทรัพย์หลากหลายประเภทแตกต่างกันออกไป ทั้งในแง่ของกรณีใช้งาน ที่มาของสินทรัพย์ รวมไปถึงกระบวนการแจกจ่าย ซึ่งจะอธิบายให้เข้าใจง่ายว่าตลาดคลาสใหม่ดังกล่าวนี้ มีสินทรัพย์ประเภทใดเกี่ยวข้องบ้างในหัวข้อถัดไป
ข้อสำคัญที่ควรพิจารณาเป็นอย่างแรก เนื่องจากมีความท้าทายมากมายในเรื่องของหลักการทำงานในสินทรัพย์ดิจิทัล ดังนั้นควรทำอย่างไรให้นักลงทุนที่ยังไม่มีประสบการณ์มากนักหันมาสนใจมันมากขึ้น และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เครื่องมือในการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลเกิดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยให้นักลงทุนรายย่อยเหล่านี้สามารถทราบถึงที่มาของตลาดและยังเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
สำหรับบริษัทที่อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์มเหล่านี้ควรมีสิ่งที่เรียกว่าแรงกระตุ้น หรือแรงดึงดูดที่ชัดเจนให้ผู้คนเข้ามาสนใจด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น การให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ในขณะนี้ราคาตลาดของคริปโตทั้งหมดมีมูลค่าโดยรวมกว่า 46 ล้านล้านบาท” และราคาของสกุลเงินต่าง ๆ เริ่มที่จะแสดงสัญญาณของการทรงตัวต่อตลาดแล้ว เป็นต้น
หากตลาดมีอัตราการเติบโตที่มากขึ้นแล้วนั้น หมายความว่ามีโอกาสที่เหล่านักลงทุนประสบการณ์น้อยจะมีแนวโน้มเข้ามาร่วมให้ความสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งต้องใช้แพลตฟอร์มที่มอบความสะดวกในการเข้าถึงที่ง่ายกว่าและครอบคลุมทุกการลงทุนในโลกตลาดการเงิน โดยหากเทียบกับตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนในปัจจุบันนั้นจะมีเฉพาะแค่รายการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเดียวเท่านั้น
“ตลาดการเงินที่ดี ควรเข้าถึงง่ายและไม่ซับซ้อน”
อย่างที่ทราบกันดีว่ากระบวนการซื้อขายคริปโตนั้น ยังคงมีความยากกว่าการซื้อหุ้นปกติทั่วไป เนื่องจากตลาดการเงินดิจิทัลจะเน้นไปที่การดึงดูดนักลงทุนใหม่เป็นหลัก ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์ในการเทรดหุ้นมาก่อนก็ได้ ซึ่งเหล่านักลงทุนในตลาดการเงินดั้งเดิมได้ให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกันว่า “การเข้าถึงตลาดการเงินดิจิทัลเป็นเรื่องยากมากสำหรับพวกเขา เนื่องจากเขาต้องสลัดความเคยชินในตลาดเก่าทิ้งไปทั้งหมด โดยพวกเขาไม่สามารถใช้เครื่องมือในตลาดหุ้นมาปรับใช้กับมันได้เลยแม้แต่น้อย” ซึ่งสิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำเข้าไปอีกว่าตลาดการเงินดิจิทัลที่เน้นการดึงดูดนักลงทุนรายใหม่นั้น อาจเป็นข้อจำกัดที่รุนแรงสำหรับนักลงทุนในตลาดดั้งเดิม
ซึ่งสิ่งนี้เป็นเหตุให้นักลงทุนในตลาดการเงินดั้งเดิมจำนวนมาก เริ่มจะตระหนักถึงเรื่องเครื่องมือที่สามารถใช้งานอย่างเฉพาะเจาะจงในแต่ละการลงทุนได้ และควรมีการออกแบบเพิ่มเติมเพื่อนำมาจัดการพอร์ตการลงทุนในตลาดการเงินดิจิทัลร่วมด้วยไม่ว่าผู้ใช้งานจะเป็นนักลงทุนระดับใดก็ตาม
โดยในปัจจุบันหากนักลงทุนรายใหม่ต้องการที่จะเข้าร่วมตลาดคริปโตนั้น ก็จะต้องเลือก Wallet ที่รองรับการแลกเปลี่ยนและการจัดเก็บควบคู่กันไป และจากนั้นจึงทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่พวกเขาสนใจได้ ซึ่งเมื่อพวกเขาเข้าสู่ตลาดที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเรื่องของความซับซ้อนของกระบวนการทำงาน ก็ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญในการเข้ามาร่วมตลาดของนักลงทุนอีกหลายคน ซึ่งมีนักลงทุนมากมายในตลาดการเงินดั้งเดิมได้ตระหนักถึงปัญหานี้
โดย Alon Muroch ซีอีโอของ Blox กล่าวว่า “การจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมันไม่ง่ายเหมือนการเดินเล่นในสวนสาธารณะ ถึงแม้จะเป็นบรรดานักลงทุนที่มีประสบการณ์แล้วก็ตามที ซึ่งการที่จะรู้ว่าสินทรัพย์ของคุณควรเก็บไว้ที่ใด ควรดำเนินการอย่างไร และมีสถานะแบบเรียลไทม์เป็นอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพนั้น ต่างก็เป็นสิ่งที่ท้าทายอยู่มากสำหรับทุกคน”
ด้วยเหตุนี้บางบริษัทจึงได้นำเสนอเครื่องมือที่ในปัจจุบันก็สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในตลาดการเงินดั้งเดิม นั่นคือ “การจัดการสินทรัพย์ร่วมกัน” โดยแทนที่คุณจะต้องจัดการหลายบัญชี และหลาย Wallet พร้อมกันนั้น แพลตฟอร์มเหล่านี้จึงพัฒนาให้การจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยจะช่วยให้ผู้ใช้รวบรวมการถือครองสินทรัพย์ที่หลากหลายภายใต้บัญชีเดียว และในขณะเดียวกันก็ยังมอบเครื่องมือการจัดการพอร์ตการลงทุนที่ได้รับการอัปเกรดแล้วให้ได้ใช้งานควบคู่กันอีกด้วย
ซึ่งมีหลายกองทุนด้วยกันที่ทำให้การจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล และการลงทุนในตลาดดั้งเดิมนั้นทำได้พร้อมกันในที่เดียว โดยมีบริษัทแห่งหนึ่งคือ Bitwise Asset Management ที่ระบุว่าหลังจากที่ได้ตั้งกองทุนเฉพาะของสินทรัพย์ดิจิทัลภายในแพลตฟอร์มแล้วนั้น บริษัทก็ได้รับผลตอบแทนที่พุ่งขึ้นถึง 51% ในเวลาไม่ถึง 4 เดือน และด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ชี้ให้เห็นว่า จำนวนกองทุนเพื่อการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปี 2018 อีกด้วย
แต่ถึงอย่างไรก็มีเหล่านักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดที่ยังคงจัดการการลงทุนด้วยตนเอง และในขณะเดียวกันก็ยังมีหลายแพลตฟอร์มที่สร้างตัวเองให้เป็นเครื่องมือที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เหล่านี้ก็ยังคงเกิดขึ้นทุกวัน
การเชื่อมประตูไปสู่ตลาดใหม่ จะยิ่งทำให้การลงทุนมีประสิทธิภาพ
จนถึงตอนนี้อุตสาหกรรมการเงินประเภทสินทรัพย์ดิจิทัลได้แสดงให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย โดยการแลกเปลี่ยนทั้งหมดนี้อาจอยู่ในรูปแบบของสกุลเงินโดยส่วนใหญ่ แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดของรายการสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งสิ่งนี้เองจึงทำให้เกิดความท้าทายสำหรับเหล่านักลงทุนมากมาย เนื่องจากการแลกเปลี่ยนบางรายการก็ไม่สามารถทำงานร่วมกับทุก ๆ Wallet ได้ ซึ่งมันจะนำไปสู่ความยุ่งยากในการจัดการสินทรัพย์ที่หลากหลายอีกเช่นเดียวกัน
และเพื่อแก้ไขปัญหานี้ทางแพลตฟอร์มการจัดการสินทรัพย์ จึงพยายามทำให้กระบวนการต่าง ๆ นั้นดำเนินการได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยบุคคลที่สามหรือผู้จัดการการลงทุนใด ๆ ซึ่งรวมไปถึงกลุ่มนักลงทุนรายวันที่ยังขาดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ และเครื่องมือเหล่านี้ก็นำเสนอเส้นทางสู่การเข้าถึงและความสำเร็จที่ง่ายขึ้นได้อีกด้วย
มีหลายแพลตฟอร์มที่ประกาศว่าจะปรับปรุงเครื่องมือการจัดการสินทรัพย์สำหรับนักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล และก็มีหลายแพลตฟอร์มด้วยกันที่ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในด้านนี้แล้ว ยกตัวอย่างเช่น Blox ของ Muroch นั้นได้นำเสนอวิธีการง่าย ๆ แก่ผู้ใช้ในการรวมหลาย ๆ Wallet และบัญชีการแลกเปลี่ยนไว้ในที่เดียวเครื่องมือของ Blox จะช่วยให้นักลงทุนสามารถจัดการพอร์ตการลงทุนหลาย ๆ พอร์ตไปพร้อมกัน และยังรองรับการซิงค์อัตโนมัติอีกด้วย ดังนั้นการซื้อขายสินทรัพย์และการเทรดในตลาดหุ้นจะได้รับการอัปเดตจากส่วนกลางไปพร้อม ๆ กันอยู่เสมอ โดยนอกจากนี้แล้วแพลตฟอร์มยังได้กระตุ้นให้มีการใช้ Utility Token ที่ชื่อว่า CDT มากขึ้นอีกด้วย เพื่อใช้ในการปลดล็อกคุณสมบัติพิเศษ และยังสามารถรับโทเคนเพิ่มได้จากการใช้เครื่องมือติดตามพอร์ตลงทุนในแพลตฟอร์มของ Blox อีกด้วย
มีแพลตฟอร์มอื่น ๆ อีกมากมายที่มีเครื่องมือจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลบนแพลตฟอร์มของตลาดการเงินดั้งเดิม เช่น Iconomi เป็นต้น ที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างกลุ่มการจัดเก็บสินทรัพย์ต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการปรับแต่งความเสี่ยงที่ตนเองต้องการได้เช่นกัน และยังมีอีกแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า Blockmoon ที่ใช้ Blockchain เป็นฐานในการทำงาน และให้บริการอำนวยความสะดวกเครื่องมือการจัดการสินทรัพย์ เพื่อการจัดการการลงทุนของคุณเองได้เช่นกัน
ท้ายที่สุดหากมองในแง่ดีแล้ว คริปโตนั้นจะได้รับการยอมรับมากขึ้นก็ต่อเมื่อผู้ที่ต้องการเข้ามาในตลาดนั้นสามารถเข้าถึงได้ง่ายดาย ซึ่งเครื่องมือการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลนี้จะช่วยให้นักลงทุนทุกระดับตั้งแต่ไร้ประสบการณ์จนไปถึงที่มีประสบการณ์มากแล้ว ได้เข้ามาร่วมใช้งานบนแพลตฟอร์มที่เรียบง่าย และเป็นศูนย์กลางในการจัดการการลงทุนหลากหลายประเภทของพวกเขาด้วย ซึ่งรวมไปถึงความสามารถที่จะมอบเส้นทางที่ชัดเจนในการเข้าสู่ตลาดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้กลายเป็นกระแสมากขึ้น และยังคงมีแพลตฟอร์มที่ให้บริการเฉพาะเจาะจงแค่สำหรับคริปโตเพียงอย่างเดียว แต่ถึงอย่างไรก็ตามเป้าหมายของแพลตฟอร์มที่ดีก็ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่นั้น แต่ยังรวมไปถึงความต้องการที่จะเป็นศูนย์กลางในการทำความเข้าใจในตลาดการลงทุนทั้งหมดให้ดีขึ้นอีกด้วย