ประกันภัยโทรศัพท์มือถือ
ประกันภัยโทรศัพท์มือถือมี 3 แบบ คือ ประกันร้าน ประกันศูนย์ และประกันแบบซื้อเอง
ประกันภัยโทรศัพท์มือถือมี 3 แบบ คือ ประกันร้าน ประกันศูนย์ และประกันแบบซื้อเอง
เมื่อคุณซื้อโทรศัพท์มือถือมาแล้ว จะมีประกันสำหรับโทรศัพท์มือถือเพื่อปกป้องโทรศัพท์ของเราให้ปลอดภัยจากเหตุต่างๆ เช่น ตกหล่น หรือเกิดความเสียหายจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน มาดูกันดีกว่าว่าประกันภัยโทรศัพท์มือถือมีอะไรบ้าง
ประกันภัยโทรศัพท์มือถือคือการประกันภัยโทรศัพท์มือถือเมื่อเกิดกรณีสุดวิสัยกับโทรศัพท์ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือตกหล่น, โทรศัพท์เสียหายจากภัยต่างๆ อาทิ นํ้าท่วม พายุ, ไฟไหม้ ฟ้าผ่า
หรือประกันโทรศัพท์มือถือในกรณีโทรศัพท์โดนขโมย หรือสูญหาย โดยที่ผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครอง รายละเอียดต่างๆของประกันโทรศัพท์มือถือจะแตกต่างกันไปแต่ละราย ดังนั้นผู้ใช้งานต้องตรวจสอบรายละเอียดของประกันภัยอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจทำประกันภัยโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ได้ความคุ้มครองสูงสุด
การทำประกันภัยมือถือจะทำให้เราลดภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมโทรศัพท์มือถือได้ ถ้าในกรณีที่โทรศัพท์มือถือเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุต่างๆ คุณก็ไม่ต้องจ่ายค่าซ่อมโทรศัพท์มือถือในราคาเต็ม เช่น ค่าซ่อมแซมทั้งหมด 5,000 บาท ก็จะไม่ต้องจ่ายในราคาเต็ม โดยอาจจะจ่ายแค่บางส่วนหรือประกันโทรศัพท์มือถือบางแห่ง ก็ไม่ต้องเสียค่าซ่อมเลยก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันของบริษัทประกันหรือศูนย์ซ่อมบำรุงแต่ละรายอีกด้วยเช่นกัน
“โทรศัพท์มือถือที่ดีต้องมีประกันภัย”
หลายๆคนน่าจะรู้จักประกันโทรศัพท์จากร้านหรือศูนย์จำหน่ายเป็นอย่างดี เพราะเป็นประกันโทรศัพท์มือถือที่มาพร้อมกับการซื้อโทรศัพท์ โดยปกติแล้วคุณซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่จากร้านขายโทรศัพท์ ร้านโทรศัพท์ก็จะมีประกันโทรศัพท์มือถือที่ให้ความคุ้มครองโทรศัพท์มือถือของคุณโดยทันทีตามระยะเวลาที่กำหนด ส่วนใหญ่กำหนดที่ 7 วันคือ ถ้าเกิดโทรศัพท์มีความเสียหายหรือเกิดอาการไม่ปกติภายใน 7 วันหลังจากซื้อไปแล้วก็สามารถมาติดต่อซ่อมหรือบางร้านก็ให้เปลี่ยนเครื่องใหม่ได้เลย เป็นต้น ซึ่งภายใน 7 วันนี้ประกันคุ้มครองในกรณีที่เป็นความผิดปกติที่เกิดจากตัวเครื่องเท่านั้น เช่น โทรศัพท์เปิดไม่ติด เลนส์กล้องโทรศัพท์มีปัญหา หน้าจอแสดงสีเพี้ยน เป็นต้น แต่จะไม่ได้ความคุ้มครองครอบคลุมกรณีที่ความเสียหายนั้นเกิดจากการใช้งานของผู้บริโภค
เมื่อคุณพบว่า โทรศัพท์มือถือที่คุณซื้อมาใหม่นั้นมีความผิดปกติเกิดขึ้นในระหว่าง 7 วัน คุณสามารถนำโทรศัพท์มือถือของคุณไปยังร้านที่คุณซื้อมา และแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นกับพนักงานทันที เพื่อที่จะได้รับการเปลี่ยนเครื่องใหม่หรือทำการซ่อมในทันที
ถ้าโทรศัพท์มือถือมีประกัน สามารถนำไปซ่อมได้ที่ศูนย์บริการ
ประกันโทรศัพท์มือถือแบบประกันจากศูนย์จำหน่ายโทรศัพท์มือถือ หรือเรียกสั้นๆว่า ประกันศูนย์ คือ ประกันโทรศัพท์มือถือที่เราจะได้ความคุ้มครองจากแบรนด์มือถือที่เราซื้อมา โดยทั่วไปแล้วประกันศูนย์จะให้ความคุ้มครองโทรศัพท์มือถือสูงสุด 1 ปี ซึ่งเงื่อนไขต่างๆของประกันศูนย์เป็นไปตามข้อกำหนดของโทรศัพท์มือถือแต่ละแบรนด์ นั่นหมายความว่า หากโทรศัพท์มือถือของคุณอยู่ในระยะประกันศูนย์ 1 ปี แล้วพบว่าเครื่องมีปัญหาหรือใช้งานไม่ได้ ก็สามารถส่งเคลมได้ที่ศูนย์บริการของมือถือของแบรนด์ที่เราซื้อมาได้เลย หากมือถือของคุณยังอยู่ในระยะประกันศูนย์ คุณอาจจะได้รับการซ่อมฟรี หรือถ้ามีค่าใช้จ่ายในการซ่อม ก็จะไม่ต้องจ่ายในราคาเต็ม
ประกันภัยโทรศัพท์มือถือแบบซื้อกรมธรรม์เอง จะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างไปจากประกันโทรศัพท์มือถือ 2 รูปแบบข้างต้น เพราะประกันโทรศัพท์มือถือแบบซื้อกรมธรรม์เองนี้ จะให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมด้วย ซึ่งจะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ น้ำท่วม พายุ ไฟไหม้ ฟ้าผ่า โดนขโมย โทรศัพท์สูญหาย แน่นอนว่า ประกันภัยประเภทนี้ คุณจะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันเพิ่มเติมด้วยตัวคุณเองๆ และความคุ้มครองที่จะได้รับมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับค่าเบี้ยประกัน รายละเอียดและเงื่อนไขการรับประกันของบริษัทประกันแต่ละแห่ง ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเลือกซื้อประกันโทรศัพท์มือถือ เราแนะนำให้คุณศึกษาความคุ้มครองและข้อยกเว้นให้ละเอียด เพื่อให้ได้ความคุ้มครองตรงกับที่คุณต้องการมากที่สุด
แม้ว่าบริษัทประกันภัยแต่ละแห่ง จะมี ประกันภัยโทรศัพท์มือถือ มาให้ผู้บริโภคอย่างเราใช้บริการ แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องใช้งานโทรศัพท์ของคุณอย่างระมัดระวัง และ ก่อนตัดสินใจซื้อโทรศัพท์มือถือสักเครื่อง ก็อย่าลืมเช็คตัวเครื่อง กล้อง และฟังก์ชัน ต่างๆก่อนจ่ายเงินนะคะ