Connect with us

อินเทอร์เน็ตเพื่อการทำงานระยะไกล

เพราะการทำงานในปัจจุบันนี้ต้องตอบโจทย์การเชื่อมต่อทางไกลที่มีประสิทธิภาพ งานถึงจะไม่สะดุด

การทำงานทางไกลในยุคปัจจุบัน

เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน บังคับให้ธุรกิจหรือบริษัทต่างๆ ต้องหยุดดำเนินการชั่วคราวหรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ส่งผลให้ต้องดำเนินงานแบบดิจิทัลและพนักงานต้องทำงานออนไลน์ในช่วงที่ธุรกิจหรือบริษัทถูกปิดตัวอยู่ การทำงานระยะไกลหรือทำงานที่บ้านโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปออฟฟิศ เพื่อลดการแพร่ระบาดและการกระจายของเชื้อโรค ดังนั้นเพื่อให้การทำงานระยะไกลเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการทำงานระยะไกล คือ การมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพ โดยต้องพึ่งพาแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตหรือโทรศัพท์มือถือที่ตอบโจทย์ในการทำงาน

จุดเด่น

  • ทำงานระยะไกลอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการเชื่อมต่อที่มีคุณภาพ
  • เลือกผู้ให้บริการที่ตอบโจทย์การทำงานของคุณ
  • คุณภาพอินเทอร์เน็ตส่งผลต่อคุณภาพของงาน

เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างไรเพื่อให้การทำงานจากระยะไกลมีประสิทธิภาพ

การค้นหาเครือข่ายมือถือที่ดีที่สุดในประเทศไทยสำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องมานั่งหงุดหงิดกับการตัดการเชื่อมต่อ หรือการดาวน์โหลด/อัปโหลดงานที่เชื่องช้า ดังนั้นความเร็วในการดาวน์โหลดจึงเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญเนื่องจากสะท้อนให้เห็นว่าคุณสามารถเข้าถึงสิ่งต่างๆ ทางออนไลน์ได้รวดเร็วเพียงใด เช่น เว็บไซต์ภาพยนตร์ คลิป VDO และอีเมลที่ทำงานได้เร็ว ความเร็วในการอัปโหลดก็สำคัญเช่นกัน นอกจากนี้หากต้องมีการโทรหรือประชุมออนไลน์ก็ต้องเป็นไปอย่างไม่สะดุด

ตัวอย่างแอปพลิเคชันที่ใช้ในการทำงาน เช่น:
– แอปการทำงานระยะไกลยอดนิยมเช่น Slack ต้องการความเร็วในการดาวน์โหลดที่แนะนำและความเร็วในการอัปโหลดที่ 2 Mbps และ 600 Kbps ตามลำดับ
– ความเร็วในการดาวน์โหลดที่แนะนำและความเร็วในการอัปโหลดสำหรับการประชุมทางโทรศัพท์ผ่าน Zoom คือ 2.5–3 Mbps (สำหรับการโทรแบบกลุ่ม)
– Skype ต้องการความเร็วในการดาวน์โหลด 8 Mbps และความเร็วอัปโหลด 512 Kbps
– Google Meet ทำงานได้ดีด้วยความเร็วในการดาวน์โหลด / อัปโหลด 3.2 Mbps

แพ็กเกจมือถือและอินเทอร์เน็ตที่เหมาะในการทำงานระยะไกล

เอไอเอส – เอไอเอสมีแพ็กเกจโทรศัพท์มือถือให้เลือกมากมาย อย่างไรก็ตามตัวเลือกพื้นฐานสำหรับผู้ปฏิบัติงานระยะไกลคือแผน NEXT G MAX SPEED 499 บาทต่อเดือน ซึ่งให้คุณโทรภายในเครือข่าย / นอกเครือข่ายฟรี 200 นาทีและอินเทอร์เน็ต 10GB ที่ความเร็วการเข้าถึง 128 kbps พร้อม ฟรี AIS Super Wi-Fi ไม่จำกัด

หากคุณต้องการแผนบริการข้อมูลแบบไม่จำกัด และความเร็วที่เร็วกว่าคุณสามารถสมัครแพ็กเกจ NEXT G MAX SPEED 1,099 บาทต่อเดือน ที่ให้คุณโทรภายในเครือข่าย / นอกเครือข่ายฟรี 700 นาที และ 3G / 4G ไม่จำกัด ข้อมูลความเร็วสูงสุด 300 Mbps พร้อม AIS Super Wi-Fi ไม่จำกัด

“อินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพ”

ดีแทค

ดีแทคมีแผนบริการต่างๆที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลและโทรนาทีสำหรับการทำงานระยะไกล ตัวอย่างเช่น แพ็กเกจ dtac GO 599 เสนอค่าบริการขั้นต่ำ 599 บาทต่อเดือน สำหรับการโทร 300 นาที ข้อมูล 16GB (ความเร็วสูงสุดบน 4G ที่ 100 Mbps และ 3G ที่ 42 Mbps) และการโรมมิ่งข้อมูล 5GB ฟรีสำหรับ ประเทศเพื่อนบ้าน

ถ้าอยากได้แบบไม่จำกัด แพ็กเกจ dtac GO 1099 internet unlimited ให้ 700 นาที โทรทุกเครือข่ายต่อรอบบิลเน็ตไม่จำกัด และ dtac Wi-Fi ไม่จำกัด 1,099 บาทต่อเดือน

เลือกแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตและมือถือที่ตอบโจทย์ ช่วยให้การทำงานมีคุณภาพ

ทรูมูฟเอช

ทรูมูฟเอชมีแพ็กเกจมากมายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำงานระยะไกล ตัวอย่างเช่น แพ็กเกจ 4G + Super Net Extreme เริ่มต้นที่ 599 บาทต่อเดือน และให้ความเร็วสูงสุด 300 Mbps 20GB และ True Wi-Fi ไม่จำกัด โทรทุกเครือข่ายนาทีละ 1.8 บาท

หากคุณวางแผนที่จะใช้ข้อมูลเป็นจำนวนมาก แพ็กเกจ 4G + Super Net Extreme 1099 จะให้ความคุ้มค่า แพ็กเกจนี้ให้คุณใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัด ที่ความเร็วสูงสุด 300 Mbps พร้อม True Wi-Fi ไม่จำกัด ทั้งหมดในราคา 1,099 บาทต่อเดือน

สรุปความเร็วอินเทอร์เน็ตและคุณภาพบริการข้อมูลของประเทศไทย

สำหรับบริการเครือข่ายมือถือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการครอบคลุมรอบด้านอาจเป็น AIS เพราะเข้าถึงพื้นที่ห่างไกล และครอบคลุมพื้นที่สัญญาณมากที่สุดในประเทศ แต่ถึงอย่างนั้นทรูมูฟเอชและดีแทคก็ไม่ได้น้อย หน้า เพราะมีการพัฒนาการแข่งขันอินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุดและเร็วที่สุดในเมืองใหญ่ ดังนั้นผู้ใช้บริการควรตรวจสอบแผนข้อมูลต่างๆ และขีดจำกัดเฉพาะก่อนที่จะเลือกใช้บริการจากทั้ง 3 ค่าย เพื่อให้การทำงานระยะไกลของคุณเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด นอกจากนี้ควรอัปเดตข่าวสารในเรื่อง 5G เพราะหากสัญญาณ 5G มีกระจายในหลากหลายพื้นที่ จะช่วยให้คุณทำงานระยะไกลได้อย่างรวดเร็วขึ้น ตามที่ กสทช.ประกาศว่าประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศในเอเชียกลุ่มแรกที่ก้าวกระโดดสู่ 5G ด้วยใบอนุญาต 700 เมกะเฮิร์ตซ์ที่มอบให้กับผู้ให้บริการโทรคมนาคม 3 ราย โดยAIS ยังเป็นผู้นำการแข่งขัน 5G ในตลาด ผู้ให้บริการอ้างว่าได้เปิดตัวบริการ 5G ครั้งแรกในประเทศไทยบนย่านความถี่ 2600MHz ในขณะที่ DTAC กำลังวางแผนที่จะติดตั้ง 5G ในย่านความถี่ 700Mhz และเมื่อเร็วๆ นี้ทรูมูฟเอชได้ประกาศเปิดตัว 5G พร้อมใช้งานใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ นี่อาจเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ทำงานจากที่บ้านและคนทำงานระยะไกลทุกคน

ผลิตภัณฑ์มือถือ

คู่มือยอดนิยมสำหรับมือถือ