Connect with us

แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่เหมาะกับการดูหนัง

อยากดูหนังให้มันส์ และได้อรรถรสอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีสะดุด จะต้องใช้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบไหนบ้าง

อยากใช้อินเทอร์เน็ตมือถือดูหนัง จะใช้แพ็กเกจแบบไหนดี

การดูหนังเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่งของเรา เมื่อมีเวลาว่าง คนส่วนมากเลือกจะดูหนัง ไม่ว่าจะเป็นดูหนังที่โรงภาพยนตร์ หรือแม้กระทั่งดูหนังที่บ้าน แต่ในปัจจุบันมีผู้ให้บริการภาพยนตร์มากมาย เช่น Netflix, Viu ที่จะทำให้คุณดูหนังที่ไหนก็ได้ Tadoo แนะนำแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตสำหรับเอาไว้ดูหนังในยามว่างกัน มาดูกันดีกว่าว่ามีแพ็กเกจแบบไหนบ้าง

จุดเด่น

  • แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตความเร็ว 2 GB สามารถดูวิดีโอแบบ HD ได้ 2.2 ชม.
  • แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตความเร็ว 5 GB สามารถดูวิดีโอแบบ HD ได้ 5.5 ชม.
  • แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตความเร็ว 10 GB สามารถดูวิดีโอแบบ HD ได้ 11 ชม.

ดูวิดีโอออนไลน์จะใช้อินเทอร์เน็ตเท่าไหร่

การดูวิดีโอหรือการสตรีมมิ่งวิดีโอออนไลน์นั้นจะใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตที่มากการฟังเพลงออนไลน์ เนื่องจากเป็นการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งภาพและเสียงนั่นเอง ยิ่งกว่านั้นคือต้องใช้ความเร็วเน็ตที่ค่อนข้างสูงพอสมควรอีกด้วยถ้าหากต้องการดูวิดีโอหรือดูสตรีมมิ่งที่มีความคมชัดสูงแบบลื่นไหลไม่มีสะดุด

ผู้ให้บริการดูภาพยนตร์และซีรีส์ในปัจจุบันก็มีหลากหลายค่าย ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Iflix, HBO, Viu เป็นต้น ซึ่งจะมีภาพยนตร์และซีรีส์ให้ดูอย่างหลากหลาย โดยมีให้เลือกดูตั้งแต่ความละเอียดเริ่มต้นระหว่าง 240p / 320p ไปจนสูงสุดที่ระดับ 4K ก็มีให้แบบความละเอียดชัด ถูกใจผู้ชมแน่นอน ซึ่งความละเอียดระดับต่างๆ นั้นก็จะใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตที่แตกต่างกันไป ยิ่งวิดีโอมีความคมชัดเท่าไหร่ ก็จะยิ่งใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตมากขึ้นเท่านั้นด้วย เรามาดูกันว่าเมื่อเราต้องการดูภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่ความละเอียดเท่าไหร่จะใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตเท่าไหร่ ดังนี้

– วิดีโอความละเอียดต่ำ 240p / 320p จะต้องใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตประมาณ 300MB ต่อชั่วโมง
– วิดีโอความละเอียดปานกลาง 480p จะต้องใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ต ประมาณ 700MB ต่อชั่วโมง
– วิดีโอความละเอียด HD 720p จะต้องใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ต ประมาณ 900MB ต่อชั่วโมง
– วิดีโอความละเอียด FHD 1080p จะต้องใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ต ประมาณ 1.5GB ต่อชั่วโมง
– วิดีโอความละเอียด 2K จะต้องใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ต ประมาณ 3GB ต่อชั่วโมง
– วิดีโอความละเอียด 4K จะต้องใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ต ประมาณ 7.2GB ต่อชั่วโมง

แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตความเร็ว 2 GB

เมื่อเรามาเปรียบเทียบด้วยข้อมูลของอินเทอร์เน็ตแล้ว Tadoo.co ได้แบ่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตออกเป็น 3 ช่วงด้วยกันคือ 2GB, 5GB และ 10 GB ในส่วนนี้ขออธิบายสำหรับข้อมูลอินเทอร์เน็ตแบบ 2G ก่อน โดยทั่วไปเราใช้เน็ต 2GB ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไป เช่น เล่น Facebook, Instagram หรือท่องอินเทอร์เน็ตก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตขนาด 2GB ในการดูหนังล่ะ จะใช้ดูหนังได้เป็นระยะยาวนานที่สุดเท่าไหร่ (แถมการฟังเพลงออนไลน์มาให้ด้วย) ดังนี้

– ดูวิดีโอหรือสตรีมมิ่งความละเอียดต่ำ 240p / 320p ได้ 6.5 ชม.
– ดูวิดีโอความละเอียดปานกลาง 480p ได้ 2.8 ชม.
– ดูวิดีโอหรือสตรีมมิ่งแบบ HD ได้ 2.2 ชม.
– ดูวิดีโอหรือสตรีมมิ่งแบบ FHD ได้ 1.3 ชม.
– ดูวิดีโอหรือสตรีมมิ่งแบบ 2K ได้ 0.6 ชม.
– ดูวิดีโอหรือสตรีมมิ่งแบบ 4K ได้ 0.25 ชม.

การฟังเพลงออนไลน์
– ฟังเพลงคุณภาพเสียงระดับต่ำได้ 47 ชม.
– ฟังเพลงคุณภาพเสียงระดับปานกลางได้ 28 ชม.
– ฟังเพลงคุณภาพเสียงระดับสูงได้ 17 ชม.

“ปัจจุบันมีผู้ให้บริการภาพยนตร์มากมาย เช่น Netflix, Viu ที่จะทำให้คุณดูหนังที่ไหนก็ได้”

แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตความเร็ว 5 GB

สำหรับข้อมูลอินเทอร์เน็ตความเร็ว 5GB จะเพิ่มความเร็วในการชมวิดีโอเพิ่งขึ้น และนอกจากนี้ยังสามารถใช้งานแอปพลิเคชันอื่นๆได้อย่างลื่นไหล ไม่สะดุด เช่น จะส่งข้อความใน Line ก็รวดเร็ว หรือจะดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างๆด้วยความเร็วอินเทอร์เน็ตขนาด 5G ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เมื่อคุณต้องการจะชมภาพยนตร์หรือฟังเพลงด้วยข้อมูลอินเทอร์เน็ตความเร็ว 5GB สามารถชมได้ที่ความละเอียดระดับต่างๆ ดังนี้

– ดูวิดีโอหรือสตรีมมิ่งความละเอียดต่ำ 240p / 320p ได้ 16.25 ชม.
– ดูวิดีโอความละเอียดปานกลาง 480p ได้ 7 ชม.
– ดูวิดีโอหรือสตรีมมิ่งแบบ HD ได้ 5.5 ชม.
– ดูวิดีโอหรือสตรีมมิ่งแบบ FHD ได้ 3.25 ชม.
– ดูวิดีโอหรือสตรีมมิ่งแบบ 2K ได้ 1.5 ชม.
– วิดีโอหรือสตรีมมิ่งแบบ 4K ได้ 0.6 ชม.

การฟังเพลงออนไลน์
– ฟังเพลงคุณภาพเสียงระดับต่ำได้ 117 ชม.
– ฟังเพลงคุณภาพเสียงระดับปานกลางได้ 70 ชม.
– ฟังเพลงคุณภาพเสียงระดับสูงได้ 42.5 ชม.

ยิ่งวิดีโอมีความคมชัดเท่าไหร่ ก็จะยิ่งใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตมากขึ้นเท่านั้นด้วย

แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตความเร็ว 10 GB

การใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตความเร็ว 10GB นั้นถือว่าเป็นระดับความเร็วที่สูงและเพียงพอในการชมภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าชมภาพยนตร์ที่ความละเอียดสูงขึ้น ก็จะทำให้ระยะเวลาที่-สามารถชมได้อย่างต่อเนื่องลดลงไปด้วย ซึ่งจะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

– ดูวิดีโอหรือสตรีมมิ่งความละเอียดต่ำ 240p / 320p ได้ 32.5 ชม.
– ดูวิดีโอความละเอียดปานกลาง 480p ได้ 14 ชม.
– ดูวิดีโอหรือสตรีมมิ่งแบบ HD ได้ 11 ชม.
– ดูวิดีโอหรือสตรีมมิ่งแบบ FHD ได้ 6.5ชม.
– ดูวิดีโอหรือสตรีมมิ่งแบบ 2K ได้ 3 ชม.
– วิดีโอหรือสตรีมมิ่งแบบ 4K ได้ 1.2 ชม.

การฟังเพลงออนไลน์
– ฟังเพลงคุณภาพเสียงระดับต่ำได้ 234 ชม.
– ฟังเพลงคุณภาพเสียงระดับปานกลางได้ 140 ชม.
– ฟังเพลงคุณภาพเสียงระดับสูงได้ 85 ชม.

เลือกแพ็กเกจมือถือสำหรับดูหนังของเครือข่ายไหนดี

ปัจจุบันนี้มีผู้ให้บริการ 3 บริษัทที่ให้บริการแพ็กเกจมือถือสำหรับดูหนัง จะมีรายละเอียดที่น่าสนใจสำหรับสายดูหนังมากมาย ดังนี้

1. Truemove H – จุดเด่นของแพ็กเกจมือถือแบบรายเดือนของทรูมูฟ เอชก็คือ สามารถใช้งาน 4G ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและค่าบริการรายเดือนเริ่มต้นที่ไม่แพง และให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่สูง
– เริ่มต้นที่ 699 บาทต่อเดือน
– อินเทอร์เน็ตขนาด 50GB และใช้ความเร็วสูงสุด 1000 Mbps
– โทรทุกเครือข่ายสูงสุด 70 นาที

2. DTAC – จุดเด่นของดีแทคคือ พร้อมพัฒนาสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตแบบไม่หยุดยั้ง เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำทางด้านเครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตในเมืองไทย
– เริ่มต้นที่ 1099 บาทต่อเดือน
– โทรฟรีทุกเครือข่ายสูงสุด 700 นาที
– ใช้อินเทอร์เน็ตขนาด 30 GB ที่ความเร็วสูงสุด 100 Mbps ไม่อั้น ไม่ลดสปีด

3. AIS – เอไอเอสพัฒนาแพ็กเกจแบบรายเดือนเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานที่หลากหลายและมาพร้อมกับเครือข่าย 5G เจ้าแรกในเมืองไทย ที่ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตมีความรวดเร็วมากขึ้น
– โปร 4G Max speed 1299 บาท/เดือน
– เน็ตแรงสุดขีด เล่นได้เยอะจุใจ
– ใช้เน็ต 3G และ 4G ได้ไม่จำกัด ไม่ลดสปีด และพร้อมพัฒนาเครือข่ายไปสู่การใช้งาน 5G
– โทรทุกเครือข่ายสูงสุด 850 นาที

ผลิตภัณฑ์มือถือ

คู่มือยอดนิยมสำหรับมือถือ