โรมมิ่งคืออะไร
เมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ เราจะเล่นเน็ตได้เหมือนตอนอยู่ประเทศไทยไหม แล้วควรใช้เน็ตวิธีใดจึงจะดีที่สุด
เมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ เราจะเล่นเน็ตได้เหมือนตอนอยู่ประเทศไทยไหม แล้วควรใช้เน็ตวิธีใดจึงจะดีที่สุด
โรมมิ่ง(Roaming) คือ บริการข้ามเครือข่าย เป็นบริการที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่นำสมาร์ตโฟนไปใช้งานนอกพื้นที่สัญญาณของผู้ให้บริการนั้นๆ ซึ่งเครือข่ายที่เลือกใช้อยู่อาจจะส่งคลื่นความถี่ไปไม่ถึง จึงมีข้ออนุญาตให้เชื่อมต่อเพื่อสามารถใช้งานสมาร์ตโฟนได้เช่นปกติ ด้วยการอาศัยเครือข่ายอื่นมาเป็นสื่อกลางในการเชื่อมต่อแทน ดังนั้นจึงแบ่งออกเป็น 2 กรณี ได้แก่ โรมมิ่งภายในประเทศ (Local Roaming) และโรมมิ่งต่างประเทศ (International Roaming)
ประโยชน์ของการโรมมิ่งคือ เราสามารถใช้งานบริการโทรศัพท์รวมทั้งบริการอินเทอร์เน็ตได้เช่นเดิมไร้กังวลขณะที่อยู่ต่างประเทศ ราวกับว่ากำลังใช้งานอยู่ในประเทศของตัวเอง แต่การที่เราจะใช้งานโทรศัพท์แบบนี้ได้นั้น เมื่อคุณจะเดินทางไปต่างประเทศ พร้อมทั้งนำโทรศัพท์ไปด้วย และคุณมีความประสงค์ต้องการให้ SIM ที่ใช้อยู่นั้น ใช้งานได้เหมือนกับตอนที่อยู่ในประเทศไทย คุณจะต้องแจ้งแก่ผู้ให้บริการเครือข่ายที่คุณใช้อยู่เสียก่อน เพื่อแจ้งความประสงค์ว่าต้องการเปิดใช้งานบริการ Roaming โดยผู้ให้บริการก็จะมีการคิดค่าบริการ Roaming แตกต่างกันไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณเดินทางไปประเทศไหนนั่นเอง โดยคุณต้องแจ้งหมายเลขโทรศัพท์, ชื่อประเทศปลายทาง และระยะเวลาที่ต้องการใช้งาน ทางผู้ให้บริการก็จะจัดการให้คุณแบบเสร็จสรรพ
เหตุผลที่ทำให้การโทรและการรับส่งข้อความ (Voice & SMS Roaming) เมื่ออยู่ต่างประเทศมีราคาแพง ทั้งนี้เพราะข้อเทคนิคต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับ 2 ผู้ให้บริการเครือข่ายที่อยู่คนละประเทศกัน โดยต้องทำการเชื่อมโยงเครือข่ายเข้าหากัน จึงส่งผลทำให้มีอัตราค่าบริการที่มีราคาสูงกว่า และใช่ว่าคุณภาพสัญญาณจะเสถียรอีกด้วย
ดังนั้นความต้องการที่จะใช้งานโทรและรับ-ส่งข้อความขณะอยู่ต่างประเทศให้ได้เหมือนเช่นในประเทศไทยนั้นจึงมีความลำบาก
“โรมมิ่งมีประโยชน์เพียงแต่ค่าบริการในการโทรและรับส่งsms มีราคาแพง”
วิธีการใช้งานสมาร์ตโฟนเพื่อติดต่อสื่อสารขณะอยู่ต่างประเทศให้ประหยัดกว่าการเปิดใช้งานโรมมิ่งแบบปกติ เช่น
– เลือกใช้ Wi-Fi ฟรีตามพื้นที่ต่างๆ เช่น สวนสาธารณะ, สนามบิน, ร้านค้า หรือโรงแรมที่คุณเข้าพักข้อดี คือไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถโทรติดต่อสื่อสารด้วยการใช้แอปพลิเคชันแชท อย่างเช่น LINE, Messenger, Wechat, Google Hangouts เพื่อส่งข้อความ หรือโทรผ่านแอปพลิเคชันได้ ข้อเสีย คือสัญญาณที่ไม่เสถียรของ WiFi แบบสาธารณะ เพราะถ้ามีผู้ใช้งานเยอะ ก็ย่อมแย่งกันใช้งาน ยังรวมถึงปัจจัยสิ่งกีดขวาง หรือสัญญาณรบกวนต่างๆ
– เปลี่ยนซิมใหม่ที่ต่างประเทศ หรือซิมการ์ดสำหรับท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ข้อดี คือ ราคาถูกกว่าการโรมมิ่งแบบปกติ ข้อเสีย คือต้องเปลี่ยนเบอร์หมายเลขโทรศัพท์ (กรณีซื้อซิมการ์ดใหม่ที่ต่างประเทศ) หรือไม่มีเบอร์โทรศัพท์ (กรณีเลือกซิมการ์ดท่องเที่ยว)
– หา Pocket WiFi มาใช้งานแทนซิมการ์ด ข้อดี คือ ราคาถูกและใช้งานอินเทอร์เน็ตหลายอุปกรณ์หลายคนพร้อมกัน ข้อเสีย คือ ไม่สามารถใช้งานการโทร/ข้อความ ผ่านเครือข่ายแบบปกติ
เราสามารถโทรและรับส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันได้เพื่อประหยัดการเปิดใช้โรมมิ่งแบบปกติ
Roaming Sim หมายถึงซิมการ์ดที่เอาไว้ใช้งานต่างประเทศโดยเฉพาะ หรืออธิบายง่ายๆ คือซิมการ์ดท่องเที่ยวนั่นเอง เล่นได้แต่อินเทอร์เน็ตเท่านั้น ไม่สามารถโทรเข้าโทรออกเหมือนปกติได้ โดยแต่ละผู้ให้บริการจะมีข้อเสนอ และจุดเด่นแตกต่างกันไป ค่าบริการก็ขึ้นอยู่กับข้อสัญญาต่างๆ ประสิทธิภาพการใช้งานของสัญญาณบางพื้นที่อาจไม่ครอบคลุม แต่ถ้าเป็นเมืองหลวงก็หายห่วง อย่างไรก็ตามก่อนคุณจะซื้อซิม การ์ดประเภทนี้อาจต้องถามกับผู้ให้บริการว่าในพื้นที่ที่คุณจะเดินทางไปนั้นมีสัญญาณรองรับหรือไม่ ประเด็นที่น่าสนใจคือจะมีราคาถูกกว่า และมั่นใจได้ว่าซิมการ์ดนั้นรองรับสมาร์ตโฟนคู่ใจของเราด้วย เพราะอย่าลืมว่าคลื่นความถี่ที่รองรับของแต่ละรุ่นนั้นไม่เหมือนกัน
Local Sim หากคุณชื่นชอบการท่องเที่ยวควรจะเลือกซื้อ Local Sim มากกว่า ถ้าคุณไปในหลายพื้นที่ของประเทศนั้นๆ ประโยชน์คือคุณภาพสัญญาณจะครอบคลุมได้ดี สัญญาณแรงกว่า โปรโมชั่นมีน้อยกว่าเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการในไทย ส่วนราคาก็ใกล้เคียงกัน แต่ซิมการ์ดนั้นๆ อาจไม่รองรับกับคลื่นความถี่สมาร์ตโฟนของเรา และมีขั้นตอนยุ่งยากในการซื้อซิมการ์ด เช่น เอกสารแสดงตัวตน หรือความยุ่งยากในการตั้งค่าต่างๆ
1. AIS Ready2Fly ใช้เน็ตเมืองนอกได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนซิม มีทั้งแพ็กเกจประเทศเพื่อนบ้าน, เอเชีย&ออสเตรเลีย และทุกทวีปทั่วโลก สามารถเช็กรายชื่อประเทศได้ในเว็บไซต์เอไอเอส
2. Dtac Net to Go พิเศษเฉพาะลูกค้า Super Non-Stop แพ็กเกจรายเดือนที่ใช้อยู่ เล่นเน็ตเมืองนอกได้ ครอบคลุม 24 ประเทศทั่วโลก ไม่ต้องเปลี่ยนซิม สามารถเช็กรายชื่อประเทศได้ในเว็บไซต์ดีแทค
3. Truemove H มีแพ็กเกจเสริมหลัก 2 แพ็กเกจ สำหรับลูกค้า ให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ง่าย ๆ ในต่างประเทศโดยไม่ต้องเปลี่ยนซิม ไม่ต้องเลือกเครือข่าย โดยมีแพ็กเกจ Travel Asia ที่สามารถใช้งานได้ในกว่า 20 ประเทศ และแพ็กเกจ Travel World ที่สามารถใช้งานได้ในกว่า 60 ประเทศ รายละเอียดอื่นๆ ดูได้จากเว็บไซต์ทรูมูฟเอช
ง่ายกว่าเมื่อเปรียบเทียบแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตมือถือต่างๆ ผ่าน tadoo.co เข้าเว็บเดียวสามารถดูเปรียบเทียบได้ทั้ง 3 ค่าย สนใจแพ็กเกจเสริมเน็ตต่างประเทศ เลือกผ่าน tadoo.co