กระเป๋าเงินดิจิทัล Blockchain Wallet
กระเป๋าเงินที่จะช่วยให้การจัดเก็บคริปโตของคุณเป็นเรื่องง่าย
กระเป๋าเงินที่จะช่วยให้การจัดเก็บคริปโตของคุณเป็นเรื่องง่าย
กระเป๋าเงินดิจิทัล Blockchain Wallet ถือว่าเป็น E-Wallet รูปแบบหนึ่งซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้ทำการจัดเก็บสินทรัพย์ และจัดการธุรกรรมที่ทำผ่าน Bitcoin หรือ Ethereum เท่านั้น ซึ่งให้บริการโดยบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใช้ชื่อว่า Blockchain.com ที่ก่อตั้งโดย Peter Smith และ Nicolas Cary
ซึ่งในหลักการทำงานระบุว่าบริการดังกล่าวจะช่วยให้คุณสามารถโอนคริปโตเคอเรนซีอย่าง Bitcoin และ Ethereum ได้อีกด้วย อีกทั้งยังสามารถแปลงกลับเป็นสกุลเงินท้องถิ่นของผู้ใช้ได้เช่นเดียวกัน
Blockchain Wallet เป็นรูปแบบหนึ่งของ E-Wallet ที่จะอนุญาตให้บุคคลทั่วไปจัดเก็บคริปโตเคอเรนซีได้ และในกรณีของ Blockchain Wallet นั้นผู้ใช้สามารถจัดการรายการธุรกรรมใด ๆ ผ่านคริปโตเคอเรนซีเพียงสองสกุลเท่านั้น ได้แก่ Bitcoin และ Ethereum นอกจากนี้การสร้าง Blockchain Wallet นั้นทำได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังสามารถเปิดบัญชีได้ทางออนไลน์อีกด้วย โดยคุณจะต้องระบุที่อยู่อีเมลและรหัสผ่าน ที่จะใช้ในการจัดการบัญชีของคุณเอง และจากนั้นระบบจะส่งอีเมลอัตโนมัติเพื่อขอให้คุณยืนยันการเปิดบัญชีใช้งาน
โดยเมื่อ Wallet ถูกสร้างขึ้นแล้วนั้น ตัวของผู้ใช้จะมี ID Wallet ที่เป็นตัวบ่งชี้ตัวตนที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งคล้ายกับหมายเลขบัญชีธนาคาร โดยผู้ใช้จะสามารถเข้าถึง E-Wallet ได้โดยการลงชื่อเข้าใช้บนเว็บไซต์ของ Blockchain หรือจะลงชื่อเข้าใช้บนแอพพลิเคชันที่ดาวน์โหลดบนมือถือก็ได้เช่นเดียวกัน
โดยอินเทอร์เฟซหรือคุณสมบัติหลักของ Wallet นั้นคือการแสดงยอดคงเหลือปัจจุบันในกระเป๋าเงินของคุณเอง ทั้งในสกุล Bitcoin และ Ethereum และจะมีการแสดงรายการธุรกรรมล่าสุดของผู้ใช้ โดยผู้ใช้สามารถคลิกไปที่ฟังก์ชันแสดงยอดคงเหลือของคริปโตเคอเรนซี จากนั้นตัวแพลตฟอร์มจะทำการแสดงมูลค่ารวมเป็นสกุลเงินท้องถิ่นของผู้ใช้เอง
ผู้ใช้สามารถส่งคำขอไปยังบุคคลอื่นเพื่อรับ Bitcoin หรือ Ethereum ก็ได้ ในปริมาณที่กำหนดบนแพลตฟอร์ม จากนั้นระบบจะทำการสร้างแอดเดรสเฉพาะ ที่สามารถส่งไปยังบุคคลที่สามได้ หรือทำการแปลงเป็นรหัสตอบกลับด่วน (Quick Response Code) หรือจะเป็น QR Code ที่มีลักษณะคล้ายบาร์โค้ดซึ่งเก็บข้อมูลทางการเงินและสามารถอ่านได้โดยอุปกรณ์ดิจิทัล แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้สามารถเลือกรับได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นสำหรับหนึ่งรายการธุรกรรม
ซึ่งแอดเดรสที่ไม่ซ้ำกันนั้นจะถูกสร้างขึ้นทุกครั้งที่ผู้ใช้ส่งคำขอผ่านแพลตฟอร์ม โดยผู้ใช้จะสามารถส่ง Bitcoin หรือ Ethereum ให้กับแอดเดรสที่ได้รับมาจากผู้อื่นได้ นอกจากนี้กระบวนการส่งและรับนั้นคล้ายกับการรับส่งเงินผ่าน PayPal เพียงแต่จะใช้คริปโตเคอเรนซีแทน —PayPal เป็นผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างลูกค้ากับธนาคารผ่านบัตรเครดิต ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการโอนเงินออนไลน์ผ่านสถาบันการเงิน
อย่างไรก็ตามใน Blockchain Wallet นั้นผู้ใช้จะสามารถแลกเปลี่ยน Bitcoin และ Ethereum ไปมาระหว่างกันได้อีกด้วย โดยผู้ใช้จะได้รับจำนวนเงินตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนนั้นจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ผู้ใช้ใช้ในการทำธุรกรรม แต่อย่างไรก็ตามการแลกเปลี่ยนใน Wallet จะไม่ปรากฎยอดเงินขึ้นในทันที เพราะทุก ๆ รายการธุรกรรมจะต้องใช้เวลาในการอนุมัติก่อน
ในขณะเดียวกันผู้ใช้ยังสามารถซื้อหรือขาย Bitcoin ผ่านฟังก์ชันตลาดแลกเปลี่ยนบนแพลตฟอร์มได้ โดยบริการนี้จะขับเคลื่อนโดยตลาดแลกเปลี่ยนจากบุคคลที่สาม เช่น Coinify หรือ SFOX เป็นต้น ที่จะเข้ามาช่วยรับประกันอัตราแลกเปลี่ยนในระยะเวลาที่จำกัดได้ นอกจากนี้ยังอนุญาตให้ผู้ใช้ชำระเงินได้ผ่านการโอนเงินจากธนาคาร หรือจะชำระผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตก็ได้เช่นเดียวกัน
“ให้การจัดเก็บคริปโตของคุณง่ายขึ้น ด้วยบริการจาก Blockchain Wallet”
ถึงแม้การโอนเงินผ่านธนาคารเพื่อซื้อ Bitcoin จะมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยประมาณ 0.25% เท่านั้น แต่อาจใช้เวลาหลายวันกว่าที่ผู้ใช้จะได้รับ Bitcoin เข้ามาใน Wallet ซึ่งคุณหากใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตในการชำระก็จะสามารถรับ Bitcoin ได้ในทันที แต่ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมในอัตราสูงกว่าอยู่ที่ประมาณ 3% ด้วยกัน
อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรทราบคือ กระบวนการเก็บค่าธรรมเนียมที่ใช้นั้นเรียกว่า “ค่าธรรมเนียมแบบไดนามิก” หมายความว่าค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บต่อรายการอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขนาดธุรกรรม และเงื่อนไขของเครือข่าย ณ เวลาที่ทำรายการ ที่อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่ออัตราค่าธรรมเนียม โดยการยืนยันรายการธุรกรรมจะดำเนินการผ่านนักขุดเท่านั้น ซึ่งพวกเขาจะใช้คอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงในการประมวลผลเพื่ออนุมัติรายการธุรกรรม ยิ่งไปกว่านั้นนักขุดส่วนใหญ่จะประมวลผลรายการธุรกรรมที่มีค่าธรรมเนียมสูงสุดก่อน เนื่องจากมันเป็นประโยชน์ในทางการเงินสำหรับพวกเขา หมายความว่า Wallet จะลำดับความสำคัญของรายการธุรกรรมด้วยอัตราค่าธรรมเนียม ซึ่งลูกค้าสามารถกำหนดค่าธรรมเนียมให้มีอัตราสูงได้หากต้องการให้รายการธุรกรรมดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และใช้เวลาน้อยที่สุด แต่อย่างไรก็ตามหากลูกค้ากำหนดค่าธรรมเนียมต่ำเกินไป อาจทำให้การโอนหรือรายการธุรกรรมนั้นล่าช้าหรือถูกปฏิเสธได้เช่นเดียวกัน
ปกป้องคริปโตที่คุณถือครอง ด้วยบริการที่มาพร้อมความปลอดภัยในการจัดเก็บ
การรักษาความปลอดภัยของ Wallet นั้นเป็นข้อพิจารณาสำคัญสำหรับผู้ใช้ เนื่องจากหากมีการเข้าถึงบัญชีใช้งานอย่างผิดกฎหมาย อาจทำให้ผู้ใช้สูญเสียคริปโตเคอเรนซีในครอบครองได้ ซึ่งให้บริการด้วยความปลอดภัยสามระดับ ดังนี้