Connect with us

Android VS iOS

เมื่อจะเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือสักเครื่องจะเลือกระบบปฏิบัติการอะไรดี

จะใช้ iOS หรือ Android ดี

เมื่อเราเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่อง คงตัดสินใจลำบากว่าจะซื้อสมาร์ทโฟนที่มีระบบปฏิบัติการ iOS หรือ Android ดี เพราะระบบปฏิบัติการทั้ง 2 แบบต่างก็มีข้อดีที่แตกต่างกันไป Tadoo จึงได้สรุปข้อมูลเปรียบเทียบของระบบปฏิบัติการ iOS และ Android มาไว้ในหลายมิติ ซึ่งมีดังต่อไปนี้

จุดเด่น

  • ประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการ iOS จะดีกว่า Android
  • การแสดงผลของระบบปฏิบัติการ iOS และ Android มีความเสถียรใกล้เคียงกัน
  • ระบบปฏิบัติการ iOS สนับสนุนลูกค้ามากกว่า Android

ประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการ

ในส่วนของประสิทธิภาพระหว่าง iOS และAndroid นั้น ได้พัฒนาให้การใช้งานแอปพลิเคชันในมือถือมีความรวดเร็วมากขึ้น แต่จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันดังนี้

– iOS ประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการ iOS นั้นถือว่าได้เปรียบกว่า Android ในระดับหนึ่ง เช่นในส่วนของความเร็วในการสัมผัส และภาพตอบสนองต่อคำสั่ง ซึ่งความเร็วของที่ได้มาจากชิปประมวลผลของระบบปฏิบัติการ iOS นั้นสามารถประมวลผลด้วยความเร็วสูง และปรับแต่งให้ทำงานด้วยประสิทธิภาพสูงสุด เพราะ Apple เป็นผู้ออกแบบชิป และพัฒนาระบบปฏิบัติการด้วยตนเอง

– Android จะมีข้อได้เปรียบกว่าตรงที่สามารถทำการสลับแอปพลิเคชัน ที่ใช้งานแรมขนาดใหญ่ได้อย่างไม่มีสะดุด รวมถึงตัวระบบปฏิบัติการ Android ที่ทำงานแบบ Multitasking โดยถ้าเรากำลังใช้งานแอปพลิเคชันหลายอัน ระบบปฏิบัติการจะไม่หยุดการทำงานของแอปพลิเคชันตัวเอง แต่ในขณะที่ iOS จะหยุดการทำงานของแอปพลิเคชัน เมื่อเราพักหน้าจอเพื่อประหยัดแรมนั่นเอง

พื้นที่เก็บข้อมูล

– ระบบปฏิบัติการ iOS นั้น ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของ iPhone หรือ iPad ต่างก็พร้อมกับหน่วยความจำแบบคงที ซึ่งไม่สามารถขยายหน่วยความจำเพิ่มได้ด้วยเหตุผลด้านประสิทธิภาพ เนื่องจาก Apple ไม่ต้องการให้ผู้ใช้งานติดตั้งแอปพลิเคชันลงไปในการ์ดความจำภายนอกซึ่งมีทำให้อ่านข้อมูลค่อนข้างช้า

– สำหรับระบบปฏิบัติการ Android นั้น ส่วนใหญ่จะสามารถขยายหน่วยความจำเพิ่มได้ด้วยการ์ดหน่วยความจำภายนอก ที่ทำให้ผู้ใช้เลือกได้มากกว่า และการ์ดความจำยังมีขนาดเล็กและราคาประหยัดอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ควรติดตั้งแอปพลิเคชันบนหน่วยความจำภายในเครื่อง และใช้การ์ดความจำเอาไว้เก็บไฟล์จำพวกรูปถ่าย เพลง หรือวิดีโอ ดีกว่า

“ทั้ง iOS และ Android มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป”

แอปพลิเคชัน

ในส่วนของแอปพลิเคชันที่มากับตัวระบบปฏิบัติการนั้นถือว่าอยู่ในระดับที่ดีทั้งคู่ แต่ก็จะมีข้อแตกต่างบางส่วนที่แอปพลิเคชันของ iOS เช่น iMovie สำหรับตัดต่อวิดีโอที่ทำงานได้อย่างราบรื่นและเสถียร

สำหรับร้านค้าแอปพลิเคชันอย่าง App Store ของ iOS กับ Play Store ของ Android ถ้าเป็นแอปพลิเคชันทั่วไปก็จะใช้งานได้ดีเหมือนกันบนทั้งสองระบบปฏิบัติการหากเป็นแอปฯ แต่ถ้าเป็นแอปพลิเคชันระดับพรีเมียมนั้น คุณภาพของแอปพลิเคชัน บน iOS จะมีการคัดกรองที่เข้มงวดกว่าฝั่ง Android จึงทำให้เราจะค้นหาแอปฯ คุณภาพบน iOS ง่ายกว่า อย่างหนึ่งที่สำคัญคือ หากเป็นแอปพลิเคชันเฉพาะทางอย่างเช่น แอปพลิเคชันเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นต้น ส่วนใหญ่ก็จะอยู่บนระบบปฏิบัติการ iOS เกือบทั้งหมด เนื่องจากต้องการความปลอดภัยระดับสูง และแอปพลิเคชันส่วนใหญ่ เมื่อปล่อยออกมาแล้ว มักจะปล่อยบนระบบปฏิบัติการ iOS ก่อน Android

เลือกใช้ระบบปฏิบัติการที่เราชอบ จะทำให้มีความสนุกในการใช้งานสมาร์ทโฟนมากขึ้น

การแสดงผลของระบบปฏิบัติการ

ในส่วนนี้ระบบปฏิบัติการ Android ถือว่าได้เปรียบกว่า iOS เพราะเราต้องดูหน้าจอมือหลายๆครั้งต่อวัน ซึ่งการแสดงผลของระบบปฏิบัติการก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งส่วนนี้ต้องให้คะแนนกับ Android เพราะผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android นั้นสามารถปรับแต่งการแสดงผลในแบบที่ชอบได้อย่างอิสระ เช่น สามารถเปลี่ยนธีม เปลี่ยนฟอนต์ เปลี่ยนหน้าตาของไอคอนแอปฯ หรือใส่ Widgets ไว้ในตำแหน่งที่ต้องการได้ จุดเด่นที่สำคัญของ Android ก็คือสามารถเรียงไอคอนไว้ในตำแหน่งที่ต้องการ ฯลฯ ไม่ได้จำกัดแค่การเปลี่ยนภาพพื้นหลังเหมือน iOS

การสนับสนุนลูกค้า

– สำหรับการสนับสนุนลูกค้าเรื่องนั้น Apple มีการสนับสนุนลูกค้าตลอดไม่ว่าจะเป็นบริการหลังการขายโดยลูกค้าสามารถไปใช้บริการที่ Apple Store ทุกสาขา ไม่ว่าจะมีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ หรือซอฟต์แวร์ ที่ Apple Store จะมีคนคอยให้ความช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่ และนอกจาก Apple store นอกจากจะมีขายสินค้าแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาปัญหาด้านการใช้งาน Apple Store อย่างเต็มที่ และยังมีจัด Workshop อยู่เป็นประจำให้แก่ลูกค้าอีกด้วย

– ในขณะที่ Android ตามศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือต่างๆ จะไม่มีเซอร์วิสให้เราเลือกมากนัก และเจ้าหน้าที่ตามศูนย์ก็ไม่ค่อยจะสามารถให้ความช่วยเหลือเราได้เท่าไหร่ เรียกได้ว่าถ้าเราเจอปัญหาก็ค้นหาด้วย Google จะแก้ปัญหาได้รวดเร็วมากกว่า

ผลิตภัณฑ์มือถือ

คู่มือยอดนิยมสำหรับมือถือ