Connect with us

เน็ตเติมเงินกับรายเดือนแบบไหนคุ้มกว่า

เลือกใช้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตให้คุ้มค่าที่สุด จะเลือกอะไรดี ระหว่างแบบเติมเงินหรือแบบรายเดือน

จะเลือกใช้อินเทอร์เน็ตแบบเติมเงินหรือรายเดือนดี

เมื่อคุณตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกใช้แพ็กเกจไหนดี ระหว่างแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบเติมเงิน และแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบรายเดือน ตัวช่วยสำคัญ 5 ข้อนี้ จะสามารถทำให้คุณตัดสินใจได้ว่า จะเลือกใช้บริการแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบไหนที่คุ้มค่ากับคุณมากที่สุด

จุดเด่น

  • ให้พิจารณาความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับเรา
  • ผู้ให้บริการเครือข่ายแพ็กเกจแบบเติมเงิน 3 เครือข่ายคือ Truemove H, Dtac และ AIS
  • ควรพิจารณาคุ้มค่าของแพ็กเกจแบบเติมเงินและรายเดือนก่อนการตัดสินใจสมัครทุกครั้ง

ประเภทของแพ็กเกจมือถือแบบเติมเงิน

แพ็กเกจมือถือแบบเติมเงินจะมีอยู่ด้วยกัน 5 ประเภท ดังต่อไปนี้

1. รายครั้ง แพ็กเกจมือถือแบบเติมเงินรายครั้ง เมื่อเติมเงินแล้ว จะใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ตได้ตามวงเงินที่เราเติมเข้าไป ซึ่งไม่กำหนดระยะเวลาการใช้งาน นั่นหมายความว่า ถ้าเราใช้วงเงินจนหมด เราก็จะต้องเติมเงินเข้าไปอีก เพื่อให้เราสามารถใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือหรืออินเทอร์เน็ตได้อย่างต่อเนื่อง

2. รายวัน เป็นแพ็กเกจมือถือแบบเติมเงินซึ่งเมื่อเราเติมเงินเข้าไปแล้ว จะใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือหรืออินเทอร์เน็ตได้ตามจำนวนวันที่แพ็กเกจนั้นกำหนด ซึ่งถ้าเราใช้งานจนครบกำหนดวันที่แพ็กเกจกำหนดให้แล้ว จะไม่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงต้องเติมเงินเพื่อให้สามารถใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือหรืออินเทอร์เน็ตได้อย่างต่อเนื่อง

3. รายสัปดาห์ เป็นแพ็กเกจมือถือแบบเติมเงินในลักษณะของการใช้งานแบบรายสัปดาห์ หมายความว่า เมื่อเราเติมเงินเข้าไปแล้ว จะสามารถใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตได้ 1 สัปดาห์ และถ้าครบกำหนดในสัปดาห์นั้นๆแล้ว ก็ไม่สามารถใช้งานเครือข่ายมือถือหรืออินเทอร์เน็ตได้

4. รายเดือน เป็นแพ็กเกจมือถือที่เมื่อเติมเงินเข้าไปแล้ว จะใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตได้ 1 เดือน ซึ่งอาจมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไปตามแต่ละแพ็กเกจ ซึ่งแพ็กเกจประเภทนี้จะมีทางเลือกที่หลากหลาย และเมื่อใช้งานครบกำหนดแล้ว จะไม่สามารถใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือหรืออินเทอร์เน็ตได้ จะต้องเติมเงินอีกรอบในเดือนถัดไป เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

5. ราย 3 – 12 เดือน เป็นแพ็กเกจที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 1 เดือน ซึ่งระยะเวลาของแพ็กเกจต่างๆขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการเครือข่ายเป็นผู้กำหนด ซึ่งจะมีตั้งแต่ 3 เดือนจนถึง 12 เดือน

ผู้ให้บริการเครือข่ายแพ็กเกจแบบเติมเงิน

ปัจจุบันมีแพ็กเกจมือถือแบบเติมเงินให้เลือกอยู่ด้วยกัน 3 เครือข่ายยอดนิยม ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

1. Truemove H – แพ็กเกจมือถือแบบเติมเงินของทรูมูฟมีแพ็กเกจให้เลือกใช้อย่างมากมาย พร้อมราคาเริ่มต้นที่ถูกแสนถูก
– เริ่มต้นที่ 10 บาทต่อซิม
– โทรฟรีในเครือข่าย โทรนอกเครือข่ายเริ่มต้นที่ 0.69 บาท/นาที
– เน็ตเร็วเต็มสปีด เริ่มต้นที่ 1 บาทต่อ 1 MB ใช้งานได้สูงสุดที่ 300 Mbps

2. DTAC – ดีแทคเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายที่เน้นครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้งานแบบเติมเงิน จึงทำให้มีแพ็กเกจมือถือแบบเติมเงินที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานจำนวนมาก
– ค่าบริการแพ็กเกจมือถือเริ่มต้นที่ 9 บาท
– โทรฟรีดีแทค 24 ชั่วโมง และโทรฟรีทุกเครือข่ายสูงสุด 240 นาที
– เน็ตไม่อั้นไม่ลดความเร็วเริ่มต้นที่ 1 Mbps สูงสุดที 10 Mbps

3. AIS – เป็นผู้นำในด้านการให้บริการ 5G รายแรกและพร้อมจะพัฒนาสัญญาณให้ดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะพัฒนาแพ็กเกจแบบเติมเงินให้ดีขึ้นอีกด้วย
– เครือข่ายชัด เตรียมพร้อมพร้อมบริการ 5G แห่งแรก
– โทรทุกเครือข่าย เริ่มต้นวินาทีละ 1.6 สตางค์ ตลอด 24 ชั่วโมง
– ใช้เน็ตความเร็วสูงสุด 10 Mbps ไม่จำกัดปริมาณ ไม่ลดสปีด

“คุณสามารถเติมเงินเพื่อสมัครแพ็กเจอินเทอร์เน็ตเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ”

ประเภทของแพ็กเกจมือถือแบบรายเดือน

ประเภทของแพ็กเกจมือถือแบบรายเดือน จะแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลักๆดังนี้

1. เน้นการใช้งานอินเทอร์เน็ต เป็นแพ็กเกจที่เน้นการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เป็นหลัก เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินไปกับการใช้อินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งอินเทอร์เน็ตแบบรายเดือนจะให้ความเร็วอยู่ด้วยกัน 4 ประเภท ได้แก่
– ต่ำกว่า 1Mbps – สำหรับความเร็วอินเทอร์เน็ตในช่วงนี้จะเหมาะสำหรับการใช้งานการเปิดเว็บไซต์ทั่วไป ซึ่งความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ต่ำกว่า 1Mbps จะมีในแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบเติมเงินที่มีระยะเวลาใช้งานสั้นๆ เช่น 1 วัน เป็นต้น
– Mbps – 4Mbps – ความเร็วอินเทอร์เน็ตในช่วงนี้เหมาะสำหรับการใช้งานเว็บไซต์ทั่วไป ได้แก่ โซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook Line Instagram Twitter เป็นต้นหรือเว็บไซต์อื่นๆทั่วไป
– 4Mbps – 6Mbps – เป็นอินเทอร์เน็ตที่มีช่วงความเร็วที่เข้าใช้งานเว็บไซต์ได้ดีมาก โดยที่ไม่มีอาการกระตุกหรือสะดุดเลย และเหมาะสำหรับการดูวิดีโอในความละเอียดสูง 720p ขึ้นไป
– 6Mbps ขึ้นไป – เป็นช่วงความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ทำให้คุณสนุกและเพลิดเพลินไปกับการท่องเว็บไซต์ได้อย่างดีที่สุด เพราะเป็นช่วงความเร็วที่ไวต่อการเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ ตลอดทั้งสามารถอัปโหลดภาพหรือวิดีโอลงในโซเชียลมีเดียได้ในเวลาอันรวดเร็ว

2. เน้นการโทรเป็นหลัก การใช้งานประเภทนี้จะเน้นการใช้งานการสนทนาผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่แล้วจะให้บริการโทรฟรีในเครือข่าย และกำหนดเวลาโทรฟรีทุกเครือข่ายเอาไว้สูงๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ชอบการคุยโทรศัพท์

3. เน้นการใช้งานอินเทอร์เน็ตและการโทรไปพร้อมกัน ซึ่งให้บริการโทรฟรีทั้งในเครือข่ายและนอกเครือข่าย ซึ่งระยะเวลาในการโทรจะแตกต่างกันไปตามแพ็กเกจ และสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตไปพร้อมกันได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทการใช้งานอินเทอร์เน็ต 3 ประเภท ดังนี้
แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบจำกัดปริมาณ จะมีลักษณะเมื่อใช้งานครบตามปริมาณที่กำหนดแล้ว เรายังสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้เรื่อยๆ แต่ว่าความเร็วของอินเทอร์เน็ตจะลดลงไป เช่น จากความเร็ว 1 Mbps ละลดลงความเร็วลงเหลือเป็น 128kbps, 384kbps เป็นต้น

4. แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบจำกัดความเร็ว จะจำกัดความเร็วตามแพ็กเกจที่เลือกไว้ แต่จะไม่จำกัดปริมาณการใช้งาน นั่นหมายความว่า เราสามารถใช้อินเทอร์เน็ตที่ปริมาณคงที่เท่ากับทุกรอบบิลตามความเร็วที่เลือกไว้

5. แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบใช้ร่วมกันหลายๆ เบอร์(Shared plan/Family plan) เป็นแพ็กเกจที่สามารถใช้ร่วมกันได้หลายเบอร์ เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือหลายเครื่อง หรือผู้ที่ต้องการให้คนในครอบครัวใช้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตเหมือนกัน หรือเหมาะสำหรับการใช้เพื่อการทำงานของบริษัท เป็นต้น

เมื่อคุณใช้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบรายเดือน จะช่วยให้คุณสะดวกสบายในการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือมากขึ้น

ผู้ให้บริการเครือข่ายแพ็กเกจรายเดือน

ปัจจุบันนี้มีผู้ให้บริการ 3 บริษัทที่ให้บริการแพ็กเกจมือถือแบบรายเดือน ซึ่งจะมีโปรโมชั่น และรายละเอียดที่น่าสนใจมากมาย ดังนี้

1. Truemove H
Text- จุดเด่นของแพ็กเกจมือถือแบบรายเดือนของทรูมูฟ เอชก็คือ สามารถใช้งาน 4G ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและค่าบริการรายเดือนเริ่มต้นที่ไม่แพง และให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่สูง
เริ่มต้นที่ 299 บาทต่อเดือน
อินเทอร์เน็ตความเร็วเริ่มต้น 1.50GB และใช้ความเร็วสูงสุด 1000 Mbps
โทรไม่อั้นในเครือข่าย 24 ชม. โทรทุกเครือข่ายสูงสุด 2000 นาที

2. DTAC
จุดเด่นของดีแทคคือ พร้อมพัฒนาสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตแบบไม่หยุดยั้ง เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำทางด้านเครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตในเมืองไทย
– เริ่มต้นที่ 299 บาทต่อเดือน
– โทรฟรีเริ่มต้น 100 นาที สูงสุดไม่จำกัดนาที
– ใช้อินเทอร์เน็ตที่ความเร็วสูงสุด 100 Mbps ไม่อั้น ไม่ลดสปีด

3. AIS
เอไอเอสพัฒนาแพ็กเกจแบบรายเดือนเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานที่หลากหลายและมาพร้อมกับเครือข่าย 5G เจ้าแรกในเมืองไทย ที่ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตมีความรวดเร็วมากขึ้น
– เน็ตแรงสุดขีด เล่นได้เยอะจุใจ
– ใช้เน็ต 3G สูงสุด 24GB และ 4G ใช้ได้ไม่จำกัด ไม่ลดสปีด และพร้อมพัฒนาเครือข่ายไปสู่การใช้งาน 5G
– โทรทุกเครือข่ายสูงสุด 2000 นาที

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนการตัดสินใจเลือกใช้แพ็กเกจแบบเติมเงินและรายเดือน

ข้อดีละข้อจำกัดของแพ็กเกจมือถือแบบเติมเงิน – สำหรับแพ็กเกจมือถือแบบเติมเงินนั้น มีข้อดีที่ทำให้คุณเลือกใช้มากมาย เพราะคุณสามารถเติมเงินได้ตามจำนวนที่ต้องการ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดการใช้งานเครือข่ายมือถือเพราะแพ็กเกจมือถือแบบเติมเงินจะทำให้เราใช้วงเงินได้เท่าที่คุณเติมเข้าไปเท่านั้น จึงทำให้คุณไม่ต้องใช้เครือข่ายมือถือหรืออินเทอร์เน็ตเกินที่กำหนด นอกจากนี้แล้วเบอร์มือถือแบบเติมเงินจะไม่ถูกระงับการใช้งาน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เติมเงินเข้าไป หมายเลขก็ยังสามารถใช้งานได้ เช่น สามารถรับสายได้ เพียงแต่ไม่สามารถโทรออกได้

ข้อจำกัดของแพ็กเกจมือถือแบบเติมเงินคือ คุณสามารถใช้งานเครือข่ายมือถือหรืออินเทอร์เน็ตตามแพ็กเกจที่เติมเงินเท่านั้น ซึ่งถ้าใช้งานแพ็กเกจแบบเติมเงินจนครบกำหนดแล้ว จะไม่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าเกิดเหตุที่จำเป็นก็ไม่สามารถใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ตในช่วงเวลาที่จำเป็นได้ จึงทำให้เกิดความลำบากในการติดต่อสื่อสาร นอกจากนี้เมื่อคุณใช้งานแพ็กเกจเกินที่กำหนด ระบบก็จะคิดเงินต่อด้วยราคาที่แพงมาก เช่น คิดนาทีละ 1 บาท หรือมากกว่านั้นเป็นต้น

ข้อดีและข้อจำกัด ของแพ็กเกจมือถือแบบรายเดือน – ข้อดีของแพ็กเกจมือถือแบบรายเดือนก็คือ คุณไม่ต้องเติมเงินเพื่อใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตหลายครั้ง สะดวกยิ่งกว่า และยังสามารถเลือกแพ็กเกจตามความต้องการใช้งานของคุณได้หลากหลายมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้น แพ็กเกจมือถือแบบรายเดือนของผู้ให้บริการแต่ละรายมีราคาที่ไม่แพง เพราะเทคโนโลยีเครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตที่มีราคาถูกลง ทำให้แพ็กเกจมือถือแบบรายเดือนถูกลงไปด้วย และคุณยังสามารถซื้อสมาร์ทโฟนในราคาที่ถูกลงพร้อมทั้งแพ็กเกจแบบรายเดือนได้อีกด้วย นอกจากจะได้ใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตแล้ว คุณก็ยังซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ได้ในเวลาเดียวกัน คุ้มยิ่งกว่าคุ้มจริงๆ

ข้อจำกัดของแพ็กเกจมือถือแบบรายเดือนนั้นก็มีอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าผู้ที่ใช้งานแพ็กเกจมือถือแบบรายเดือนจะมีความสะดวกและไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อเติมเงินก่อน แต่ข้อจำกัดของแพ็กเกจมือถือแบบรายเดือนก็คือ เมื่อยอดใช้บริการเกินกำหนด ผู้ให้บริการจะเรียกเก็บเพิ่มตามสัดส่วนการใช้งาน ซึ่งบางครั้งผู้ใช้งานอาจไม่ทราบว่าตนใช้แพ็กเกจรายเดือนเกินที่กำหนด จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างผู้ให้บริการและลูกค้าได้ จากกรณีดังกล่าวลูกค้าอาจเข้าใจว่าผู้ให้บริการโกงค่าบริการ แต่ในความเป็นจริงนั้น ลูกค้าได้ใช้งานแพ็กเกจเกินกำหนด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นค่าโทร เพราะแพ็กเกจมือถือแบบรายเดือนจะให้โควตาค่าโทรตามเงื่อนไข แต่ถ้าหากลูกค้าโทรเกินโควตานั้นๆ จะทำให้ถูกคิดค่าบริการเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้แพ็กเกจมือถือแบบรายเดือนที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นลดราคาสมาร์ทโฟนจะมีเงื่อนไขว่า จะต้องใช้งานแพ็กเกจเป็นระยะเวลาประมาณ 1ปี ซึ่งถ้าลูกค้าใช้งานแพ็กเกจไม่ถึงระยะเวลาที่กำหนดก็จะต้องจ่ายค่าโทรศัพท์มือถือในราคาเดิม

ผลิตภัณฑ์มือถือ

คู่มือยอดนิยมสำหรับมือถือ