ความแตกต่างของเสาอากาศ
ทำความรู้จักเรื่องเสาอากาศบนเราเตอร์ไวไฟให้มากขึ้น
ทำความรู้จักเรื่องเสาอากาศบนเราเตอร์ไวไฟให้มากขึ้น
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเสาอากาศกันก่อนว่าคืออะไร ในเรื่องของระบบคลื่นวิทยุนั้น เสาอากาศ หรือ Antenna ทำหน้าที่ปรับรูปร่างและรวมคลื่นวิทยุให้ส่งไปยังทิศทางที่ต้องการ เหมือนเลนส์สำหรับคลื่นความถี่วิทยุหรือ RF โดยเฉพาะ คลื่นวิทยุทุกระบบนั้น ไม่ว่าจะเป็น Wi-fi, สัญญาณมือถือ, อุปกรณ์ไร้สาย, ไปจนถึงวอล์กกี้ทอล์กกี้ ต่างต้องใช้เสาอากาศบนอุปกรณ์ทั้งฝั่งส่งและฝั่งรับคลื่นทั้งสิ้น เสาอากาศบนแต่ละอุปกรณ์นั้นมีการปรับจูนให้ทำงานสำหรับความถี่ที่จำเพาะ ความแรงของพลังงานรับส่งสัญญาณของเสาอากาศ (ที่เรียกติดปากว่า Gain) นั้นวัดกันในหน่วย “dBi” หรือกำลังเดซิเบลที่สัมพันธ์กับตัวส่งสัญญาณแบบเท่ากันทุกทิศทางรอบตัวหรือ Isotropic Radiator เสาอากาศอย่างง่ายที่สุดที่พบกันทั่วไปคือ เสาที่ส่งสัญญาณออกสองทิศทางตรงข้ามกัน (แนวระนาบ กับแนวตั้ง) แต่ส่งออกมารวมกันรอบทิศทาง (Omni-Directional)
เสาอากาศเป็นตัวช่วยเพิ่มระดับความเข้มข้นในการกระจายสัญญาณ ปริมาณเสาที่เพิ่มขึ้นยังส่งผลต่อทราฟฟิคในการโอนถ่ายข้อมูลที่ทำได้อย่างราบรื่นมากขึ้นเพราะการรับส่งสัญญาณผ่าน Wifi เป็นการสื่อสารแบบ 1 ต่อ 1 โดยสลับการใช้งานระหว่างภาครับ และภาคส่งข้อมูลอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการมีเสาอากาศมากกว่า 1 ต้นก็ทำให้การรับส่งข้อมูลนั้นเกิดขึ้นได้ในเวลาเดียวกันโดยไม่ต้องเสียเวลาสลับเสาอากาศไปมา เปรียบดั่งถนน 6 เลนจะมีพื้นที่ให้ทราฟฟิคนั้นทำได้อย่างลื่นไหลมากกว่าถนน 2 เลนที่ขับสวนกัน
อย่างที่เกริ่นไปด้านบนว่า การมีเสาอากาศมากกว่า 1 ต้น ทำให้การรับส่งข้อมูลทำได้ลื่นไหลมากขึ้น ดังนั้นความแตกต่างระหว่างโมเด็ม 4 เสาอากาศ และโมเด็ม 6 เสาอากาศ ก็คือในเรื่องของความเร็วและประสิทธิภาพในการปล่อยสัญญาณ Wifi ที่แบบ 6 เสาอากาศ จะทำได้ดีกว่าแบบ 4 เสาอากาศ แต่ทว่าในอุปกรณ์บางรุ่นความแตกต่างของเสาที่เพิ่มมาก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่าไหร่นัก เพราะอุปกรณ์บางรุ่นปล่อยคลื่น Wifi 2.4GHz โดยใช้สายอากาศที่ติดตั้งภายในทำให้สายอากาศที่เห็นภายนอกเหลือเพียง 4 เสา เพื่อใช้ปล่อย Wifi คลื่น 5GHz
“เสาอากาศเป็นตัวช่วยเพิ่มระดับความเข้มข้นในการกระจายสัญญาณ Wifi”
ส่วนใหญ่แล้วจำนวนเสาอากาศจะแปรผันตรงกับเลขความเร็ว โดยยิ่งจำนวนเสามาก นั่นแสดงว่าโมเด็มนั้นมีโอกาสที่จะสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วมากกว่า สำหรับการเลือกซื้อโมเด็มนั้น หากคุณให้ความสำคัญกับการโอนถ่ายข้อมูลปริมาณมากและมีผู้ใช้งานพร้อมกันหลากหลายคน จำนวนเสาอากาศที่มากกว่าก็ย่อมตอบโจทย์การใช้งานได้รวดเร็วและลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
เสาอากาศที่มากกว่าก็ย่อมตอบโจทย์การใช้งานได้รวดเร็วและลื่นไหลมากกว่า
ถ้าอยากให้บ้านของเรามีการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่แรง เรื่องของการหันทิศทางเสาอากาศก็เป็นเรื่องสำคัญ บางคนเข้าใจผิดคิดว่าต้องหันเสาชี้ไปที่ห้องของตัวเองที่ต้องการใช้งานเน็ต แต่ในความจริงแล้วเสาอากาศเป็น Omni-Directional คือการส่งสัญญาณออกมาแบบรวมกันรอบทิศทาง ซึ่งทิศทางในการยิงสัญญาณจะอยู่รอบเสาไม่ได้อยู่ที่ปลายเสาอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจผิดกัน เพราะฉะนั้นแค่การตั้งอุปกรณ์ตรงๆ ก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องหันหรือชี้เสาอากาศไปทางไหนทั้งสิ้น
เมื่อทำความเข้าใจความแตกต่างกันในเรื่องเสาอากาศ ระหว่างแบบ 4 เสา และแบบ 6 เสาแล้ว หากสนใจแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตบ้าน ง่ายกว่าเพียงเปรียบเทียบแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตบ้าน ผ่าน tadoo.co เข้าเว็บเดียวครบ จบ สามารถดูแพ็กเกจต่างๆ จากหลากหลายบริษัท ซึ่งเราได้รวบรวมไว้ให้คุณแล้ว