เป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้กู้อาจสับสนได้ง่าย ๆ กรณีการเข้าไปเจรจาขอพักชำระหนี้ ซึ่ง 2 ศัพท์นี้มีรายละเอียดของการเดินหนี้ที่ต่างกัน กล่าวคือ “พักหนี้” คือการหยุดชำระหนี้ ดอกเบี้ยในงวดที่พักหนี้ก็จะหยุดการคำนวณ ไม่เดินต่อ ขณะที่การ “พักชำระหนี้” แม้ว่าพักการจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย แต่ดอกเบี้ยก็ยังคิดอยู่ เดินไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการยืดระยะเวลาจ่ายไปเฉย ๆ ขณะที่ดอกเบี้ยยังเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม การยื่นขอสินเชื่อพักชำระหนี้ก็เป็นช่องทางที่ดีสำหรับผู้มีปัญหาจ่ายหนี้จริง ๆ
โควิด-19 ทำให้เกิดผลกระทบต่อหลากหลายอาชีพเลยทีเดียว ขาดรายได้ กระทบถึงหนี้ที่มีอยู่ บางคนจำเป็นต้องขอพักหนี้เพื่อลดค่าใช้จ่าย และสำหรับผู้กำลังคิดจะขอยื่นสินเชื่อพักชำระหนี้ ควรตรวจสอบคุณสมบัติต่อไปนี้
ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากสถานการณ์ COVID-19 เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน หรือธุรกิจที่ปิดบริการชั่วคราวตามประกาศทางราชการ
ลูกค้าต้องการขอพักหนี้ จะต้องไม่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่าที่ธนาคารกำหนด ส่วนใหญ่อยู่ที่ 90 วัน หรือ 3 เดือน
ลูกค้าที่ต้องการขอพักชำระหนี้ จะต้องเป็นลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติจากธนาคารหรือสถาบันการเงินก่อน ในสถานการณ์โควิด-19 ปัจจุบัน หลายธนาคารเริ่มอนุมัติวันที่ 1 ก.ค. 2563
30,162 รีวิว
สินเชื่อพักชำระหนี้เป็นสินเชื่อที่หยุดหรือพักการจ่ายหนี้ไว้ก่อน เพื่อชะลอการฝืดตัวทางการเงินของผู้กู้ ยิ่งในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ควรพักหนี้ไว้ก่อน เพื่อลดค่าใช้จ่าย ใช้ในสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ มาดูกันว่าสินเชื่อแบบไหนสามารถพักชำระหนี้ได้
สินเชื่อบัตรเครดิต คือสินเชื่อสำหรับรูดซื้อของแทนเงินสดในอนาคต แต่ในช่วงเศรฐกิจแบบนี้ ควรที่จะหยุดพักหนี้ไว้ก่อน เพื่อที่จะช่วยลดค่าใช้จ่าย
สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นสินเชื่อเงินผ่อนระยะยาว งวดชำระเป็นรายเดือน การพักชำระหนี้ไว้ก่อน ช่วยให้สามารถนำเงินส่วนนี้มาดำรงชีวิตก่อนได้
สินเชื่อบ้าน เป็นสินเชื่อที่เหมาะกับที่กำลังสร้างหรือซื้อบ้านใหม่ แต่ในช่วงเศรฐกิจแบบนี้ ควรที่จะหยุดพักหนี้ไว้ก่อน เพราะสินเชื่อบ้านนั้นในการผ่อนชำระนั้น จะผ่อนเป็นก้อนๆซึ่งหนักสำหรับผู้ผ่อนชำระ ที่ตกงานหรือขาดรายได้ในช่วงนี้
ปัจจุบัน ประเทศไทยนั้นเศรฐกิจแย่ลงมาก แม่ค้า พ่อค้าหรือจะเป็นพนักงานประจำล้วนตกงาน และขาดรายได้ การพักชำระหนี้สินไว้ก่อนจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ สินเชื่อพักหนี้สามารถช่วยคุณลดค่าใช้จ่ายได้
Top tip: จะกู้ซื้ออะไรก็แล้วแต่ในช่วงนี้ ต้องคำนึงถึงประโยชน์ให้มากที่สุด และที่สำคัญต้องมองถึงความสามารถในการผ่อนชำระของตัวเองด้วย
ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ การพักหนี้คงจะเป็นเหมือนช่องอากาศให้หลาย ๆ คนได้พอหายใจคล่องขึ้นมาหน่อย เพราะสินเชื่อพักหนี้สามารถช่วยเราได้หลายเรื่อง ทั้งช่วยยืดเวลาระยะการผ่อนออกไป ทำให้ไม่ต้องคิดหนักเรื่องค่าใช้จ่ายที่มากกว่ารายได้ เป็นการเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากขึ้น
ปัจจุบัน ในท้องตลาดมีสินเชื่อเงินกู้หลายประเภท แบ่งตามความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่แตกต่างกันออกไป สินเชื่อที่ได้รับความนิยม ได้แก่
สร้างโอกาสทางการศึกษา มีเงินทุนเล่าเรียน เพื่ออนาคตที่ดีกว่า
กำหนดระยะเวลาการผ่อนชำระอยู่ระหว่าง 4-6 ปี หรือประมาณ 48-72 งวด และวงเงินกู้ที่ได้จะอยู่ที่ 75-80% และผู้ซื้อจะต้องจ่ายส่วนที่เหลือ เรียกว่า “เงินดาวน์”
รวมหนี้หลาย ๆ ก้อนเป็นก้อนเดียว ข้อดีคืออัตราดอกเบี้ยถูกลง
จุดเด่นคือการกดเงินสดในอนาคตมาใช้ เมื่อชำระตามยอดขั้นต่ำที่กำหนด ยอดจะถูกหมุนเวียนคืนกลับมาอยู่ในวงเงินในบัตรและสามารถกดใช้งานได้อีกครั้ง
การพักชำระหนี้นั้นสามารถช่วยเราได้มากที่เดียว โดยเฉพาะสภาพคล่องทางการเงิน สำหรับผู้สนใจควรศึกษาการพักชำระหนี้มีอยู่ 2 รูปแบบดังต่อไปนี้
ผู้กู้ยังจ่ายเงินค่างวดเหมือนเดิม แต่แทนที่จะจ่ายทั้งต้นทั้งดอก ก็หยุดการจ่ายต้น จ่ายแค่ดอกเบี้ยตามปกติ ข้อดีคือพักชำระหนี้แบบนี้ ดอกเบี้ยระหว่างพักจะไม่บาน เช่น มีค่างวดต้องจ่าย 20,000 บาท จากหนี้ทั้งหมด 2 ล้าน งวดที่พักชำระหนี้ คุณจ่ายแค่ดอกเบี้ย 4,000 บาท ไม่ต้องจ่ายเงินต้น 12,000 บาท เมื่อครบกำหนดพักชำระหนี้ เงินต้นจะเหลือ 2 ล้านเท่าเดิม
ผู้กู้ไม่ต้องจ่ายค่างวดเลย ไม่ว่าต้นหรือดอก แต่ดอกเบี้ยยังเดินอยู่ เช่น มีค่างวดต้องจ่าย 20,000 บาท จากหนี้ทั้งหมด 2 ล้าน พักชำระหนี้ 6 เดือน จ่าย 0 บาท เมื่อกลับมาชำระอีกครั้ง เงินต้นจะเป็น 2 ล้าน + ดอกเบี้ยค้างชำระ 6 เดือน
แนะนำให้พักชำระหนี้แบบจ่ายดอกเบี้ย เพราะดอกเบี้ยเป็นตัวแปรสำคัญเลยที่ทำให้เราต้องจ่ายหนี้มากหรือน้อย และดอกเบี้ยเดินตลอด ถ้าไม่จ่ายดอกเบี้ยเลย ยอดเงินก็จะทบต้นสูงไปเรื่อย ๆ
พักชำระเงินต้น ไม่ต้องจ่ายเงินต้น จ่ายแต่ดอกเบี้ย ขณะที่การลดดอกเบี้ย ยังจ่ายทั้งต้นทั้งดอก แต่ในช่วงระยะเวลาที่ธนาคารกำหนดจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยให้
ขอสินเชื่อแต่ละครั้ง ผู้ยื่นต้องเตรียมเอกสารที่จะใช้ยืนยันคุณสมบัติให้พร้อม เพื่อใช้เป็นหลักประกันความสามารถในการชำระหนี้ และสร้างความน่าเชื่อถือต่อธนาคาร เอกสารที่ต้องเตรียมได้แก่
เอกสารยืนยันตัวตน
เอกสารแสดงที่มาของรายได้ สำหรับพนักงานประจำ
เอกสารอื่น ๆ ที่ธนาคารร้องขอ เช่น