Connect with us

ความปลอดภัยกับเบี้ยประกันรถยนต์

คุณคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “ปลอดภัยไว้ก่อน” ความปลอดภัยของรถยนต์มีอะไรบ้าง และมีผลอะไรต่อเบี้ยประกันบ้างไหม ทาง Tadoo มีคำตอบ

มาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์

ด้วยปัจจุบันรถยนต์ถูกพัฒนาให้มีความล้ำสมัยมากขึ้นทั้งในเรื่องรูปลักษณ์ และความปลอดภัย ด้วยอุปกรณ์มากมายที่ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อส่งเสริมในด้านความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ทั้งในแง่การป้องกันก่อนเกิดเหตุ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในด้านสติสัมปชัญญะ ป้องกันความประมาท และเติมเต็มทักษะให้ผู้ขับขี่เมื่ออยู่หลังพวงมาลัย อีกข้อคือการป้องกันเพื่อช่วยลดความสูญเสียเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

จุดเด่น

  • รถยนต์มีมาตรฐานความปลอดภัย ช่วยคุณมั่นใจการขับขี่
  • ติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยบางอย่าง ได้ส่วนลดเบี้ยประกัน เช่น กล้องติดรถยนต์
  • ต่อให้มาตรฐานความปลอดภัยดีอย่างไร ที่สำคัญคุณควรใส่ใจในความไม่ประมาท

อุปกรณ์ความปลอดภัยของรถยนต์

มาตรฐานอุปกรณ์ความปลอดภัยที่รถยนต์ในปัจจุบันควรมี ได้แก่

1. เข็มขัดนิรภัย
2. ถุงลมนิรภัย
3. ระบบเบรก ABS
4. ระบบควบคุมการทรงตัว
5. ระบบเตือนและช่วยเบรกก่อนการชน
6. กล้องติดรถยนต์

อุปกรณ์ความปลอดภัยของรถยนต์

กว่าจะเป็นรถยนต์หนึ่งคัน นอกจากชิ้นส่วนประกอบต่างๆ แล้วอุปกรณ์ความปลอดภัยของรถยนต์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รถยนต์หนึ่งคันสมบูรณ์แบบพร้อมใช้งาน ซึ่งอุปกรณ์เหล่านั้นจะทำงานภายใต้เซนเซอร์ เรดาร์ ที่ถูกซ่อนอยู่ในตัวรถ ซึ่งอุปกรณ์ความปลอดภัยของรถยนต์โดยมาตรฐานทั่วไป ได้แก่

อุปกรณ์ความปลอดภัยเชิงปกป้อง

1. เข็มขัดนิรภัย – ถือเป็นอุปกรณ์อันดับต้นๆ ที่ช่วยป้องกันความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ เมื่อเราเตรียมตัวที่จะขับรถ สิ่งที่ต้องทำคือ สวมเข็มขัดนิรภัย แม้แต่บนเครื่องบินยังมีเจ้าหน้าที่สาธิตวิธีใช้เข็มขัดนิรภัย จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเข็มขัดนิรภัยมีความสำคัญมาก และเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานที่ขาดไม่ได้ อีกทั้งยังมีโทษหากไม่คาดเข็มขัดนิรภัย โดยมีอัตราโทษปรับดังนี้

– รถยนต์(เช่น รถส่วนบุคคล,รถกระบะ,รถแท็กซี่)
อัตราโทษปรับคนขับ 500 บาท
อัตราโทษปรับผู้โดยสาร 500 บาท

– รถโดยสารขนาดใหญ่(เช่น รถตู้สาธารณะ, รถทัวร์)
อัตราโทษปรับคนขับ 500 บาท
อัตราโทษปรับผู้โดยสาร 5,000 บาท

2. ถุงลมนิรภัย – ถุงลมนิรภัยเริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 1998 ถือเป็นอีกหนึ่งในความสำเร็จด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยในรถยนต์ จนตอนนี้เทคโนโลยีพัฒนาระบบถุงลมนิรภัยในรถเพิ่มขึ้นตามจุดต่างๆ ในห้องโดยสารมากถึง 10 ใบไปแล้วสำหรับบางรุ่น และเชื่อว่าอีกไม่นานจะกลายมาเป็นมาตรฐานในรถทุกคันที่วิ่งอยู่บนถนนกับจำนวนถุงลมที่มากขึ้นนี้

“เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมสร้างความปลอดภัย แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าคุณขับรถด้วยความประมาท”

อุปกรณ์ความปลอดภัยของรถยนต์ด้านการป้องกัน

อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยเรื่องการป้องกันก่อนการเกิดเหตุ ได้แก่

ระบบเบรก ABS – ระบบเบรก ABS (Antilock Braking System) เป็นระบบความปลอดภัยด้านการป้องกันก่อนเกิดเหตุ แทบจะเป็นพื้นฐานในรถทุกรุ่นของยุคนี้ไปแล้ว แม้แต่รถอีโคคาร์(Eco-Car) การทำงานของระบบเบรก ABS จะเต็มประสิทธิภาพการทำงานมากที่สุดขึ้นอยู่กับสภาพยางรถยนต์ที่ใช้อยู่ด้วย ถ้ายางไม่เสื่อมสภาพ อยู่ในลักษณะพร้อมใช้งานจะยิ่งช่วยให้การเบรกมีผลออกมาดีที่สุด

ระบบควบคุมการทรงตัว – ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เมื่อผู้ขับขี่ต้องหักเลี้ยวหรือเบรกกะทันหันเพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรค ระบบนี้จะตรวจสอบการทำงานของพวงมาลัยเมื่อเทียบกับสภาพถนน ตรวจสอบ​แรง​ขับเคลื่อน​ และ​แรง​เบรก​ของ​ล้อ​แต่​ละ​ล้อ​แยกกัน จากนั้นลด​กำลัง​ของเครื่​อง​ยนต์​ลง​ถ้าล้อ​ขับเคลื่อน​เกิด​การ​หมุน​ฟรี​บน​พื้นผิว​ที่​รองรับ​ล้อ​ เพื่อ​ช่วยรักษาการทรงตัว และเพิ่มเสถียรภาพให้กับตัวรถไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ

ระบบเตือนและช่วยเบรกก่อนการชน – ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ด้านความปลอดภัยของรถยนต์ ที่ใช้กันแพร่หลายมากขึ้นในรถของบ้านเราไม่ว่าจะเป็นค่าย Mazda, Mitsubishi และ Ford ระบบความปลอดภัยที่ใช้ไฟกะพริบ การสั่นของพวงมาลัยหรือสัญญาณเตือนเพื่อบอกกับผู้ขับขี่ว่ารถกำลังมุ่งไปชนสิ่งกีดขวางหรือคนเดินถนน ผ่านการทำงานของเรดาร์หรือเซนเซอร์ในตัวรถ และเมื่อมีการตรวจพบสิ่งกีดขวางภายในวิถีการเคลื่อนที่ แต่ผู้ขับขี่ไม่มีการตอบสนองด้วยการลดความเร็ว หรือเหยียบเบรก ระบบจะทำการเบรกรถให้เองอัตโนมัติภายใต้ข้อกำหนดของระบบว่าระดับความเร็วเท่าไร ระบบนี้จึงจะทำงานได้

ติดกล้องรถยนต์ เหมือนมีสายตาเพิ่มช่วยในการมองเห็นแทนคุณ

กล้องติดรถยนต์

การมีกล้องติดรถยนต์มีประโยชน์อย่างมาก สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ที่สามารถใช้เป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยพิสูจน์ความจริงในกรณีเกิดอุบัติเหตุได้ ไม่ใช่แค่มีประโยชน์กับรถของเราเท่านั้น แต่บางครั้งยังช่วยเป็นหลักฐานให้กับรถยนต์คันอื่นๆ ได้อีกด้วย ในปัจจุบันกล้องติดรถยนต์ถือเป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยของรถยนต์ มีการพัฒนาให้มีความคมชัด สามารถจับภาพเคลื่อนไหวได้อย่างชัดเจน มีราคาตั้งแต่หลักพันต้นๆ จนถึงเกือบหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งคุณสามารถเลือกติดได้ตามความต้องการและงบประมาณของคุณได้เลย

ติดกล้องรถยนต์ช่วยลดเบี้ยประกันรถยนต์ได้

ไม่ว่าคุณจะทำประกันรถยนต์ประเภทไหน จะประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2/2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3/3+ หนึ่งในข้อที่สามารถลดเบี้ยประกันได้คือ การติดกล้องรถยนต์ ซึ่งเป็นประกาศจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่องให้ใช้อัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ สำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งกล้องติดรถยนต์ และให้บริษัทประกันภาคสมัครใจให้ส่วนลดเบี้ยประกันภัยในการรับประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ทุกประเภทเป็นส่วนลดในอัตราร้อยละ 5-10 ของเบี้ยประกันภัยสุทธิ โดยรถยนต์ที่ติดตั้งกล้องหน้ารถ ต้องแสดงหลักฐานภาพถ่ายการติดตั้งระบบกล้องคันเอาประกันภัยในเวลาทำสัญญาประกันภัย และต้องติดตั้งกล้องติดรถยนต์ไว้ตลอดระยะเวลาเอาประกันภัยด้วย ในส่วนของการซื้อประกันรถยนต์ผ่าน tadoo.co คุณจะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ทุกชั้นในการติดกล้องรถยนต์เพิ่มอีก 5% จากราคาเบี้ยสุทธิตามประกาศของ คปภ.

จากเรื่องมาตรฐานและอุปกรณ์ความปลอดภัยของรถยนต์ที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดของตัวผู้ขับขี่ คือ “ความไม่ประมาท” ต่อให้รถคุณจะแพงแค่ไหน มีระบบความปลอดภัยที่ดีอย่างไร แต่ถ้าคุณประมาท ขาดสติ และขับรถด้วยความไม่ระมัดระวัง ก็ย่อมส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ดังนั้นขับรถด้วยความไม่ประมาท ศึกษาระบบความปลอดภัยของรถคุณ รวมถึงทำประกันรถยนต์ไว้ เพื่อเพิ่มความคุ้มครองให้รถและตัวคุณ เลือกประกันรถยนต์ เลือกผ่าน tadoo.co

ผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์

ประเภทของประกันรถยนต์

คู่มือยอดนิยมสำหรับประกันรถยนต์