Connect with us

คาร์ซีทกับประกันรถยนต์

ความปลอดภัยของลูกน้อยเป็นสิ่งสำคัญ เลือกซื้อและติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกต้อง เพราะลูกคือแก้วตาดวงใจของคุณ

ประเภทของคาร์ซีท

คาร์ซีทหรือเบาะนิรภัยในรถยนต์สำหรับเด็ก เพื่อความปลอดภัย ช่วยปกป้องลูกน้อยในการเดินทาง ในปัจจุบันครอบครัวส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างดี แล้วคาร์ซีทมีกี่ประเภทบ้าง

1. คาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (Rearward-facing baby seat)
คาร์ซีทแบบนี้เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึง 2 ปี การติดตั้งคาร์ซีทหันหน้าเข้าหาเบาะหลังของรถยนต์จะช่วยลดแรงกระแทกเวลาเบรกกะทันหันหรือเกิดการชนขึ้นมาได้ ซึ่งเหมาะกับเด็กในวัยนี้ เนื่องจากกระดูกคอและกระดูกสันหลังของเด็กยังไม่แข็งแรง

2. คาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางหน้ารถ (Forward-facing child seat)
คาร์ซีทแบบนี้เหมาะสำหรับเด็กอายุ 2-11 ปี หรือสำหรับเด็กที่มีน้ำหนักและส่วนสูงตามที่กำหนดไว้ จะมีการติดตั้งที่เบาะหลัง และหันหน้าไปทางหน้ารถเหมือนเบาะรถยนต์ปกติ

3. คาร์ซีทแบบผสม (Combination seat)
คาร์ซีทแบบนี้เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี โดยสามารถสลับการใช้งานได้ทั้งหันหน้าเข้าหาเบาะ และหันหน้าไปทางหน้ารถ โดยเด็กแรกเกิดจนถึง 2 ปี ให้หันเข้าหาเบาะ เนื่องจากกระดูกคอและกระดูกสันหลังของเด็กยังไม่แข็งแรง และเมื่อเด็กมีกระดูกคอที่แข็งแรงขึ้น และทรงตัวได้แล้ว ให้ปรับหันหน้าไปทางหน้ารถ คาร์ซีทชนิดนี้ประหยัดงบประมาณได้ดีทีเดียว เพราะใช้งานได้นาน สามารถใช้งานได้ถึง 2 รูปแบบ เรียกได้ว่าซื้อหนึ่งได้ถึงสอง

4. คาร์ซีทแบบมีพนักพิงด้านหลัง (High-backed Booster Seat)
คาร์ซีทแบบนี้เหมาะสำหรับเด็กอายุ 4-12 ปี โดยคาร์ซีทแบบนี้จะมีพนักพิงด้านหลังและเบาะเสริม ช่วยให้นั่งสบายมากขึ้น ช่วยให้เด็กปรับตัวได้ง่ายก่อนที่จะเปลี่ยนไปนั่งเบาะรถยนต์และใช้เข็มขัดนิรภัยในรถได้แบบผู้ใหญ่

จุดเด่น

  • เลือกประเภทคาร์ซีทให้เหมาะสมกับลูกน้อยของคุณ
  • คาร์ซีทใหม่ปลอดภัยกว่าคาร์ซีทมือสองcaused by driving with the wrong fuel
  • ความคุ้มครองความเสียหายของคาร์ซีทขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์

เลือกซื้อคาร์ซีทอย่างไร

นอกจากความเหมาะสมของอายุ ขนาดตัว ส่วนสูง และน้ำหนักของลูกน้อยที่เป็นปัจจัยในการเลือกคาร์ซีทแล้ว ยังมีปัจจัยใดๆ อีกบ้างที่จะช่วยในการตัดสินใจเลือกคาร์ซีทเพื่อลูกสุดที่รักของคุณ
องค์ประกอบอื่นๆ ในการเลือกคาร์ซีท

เลือกซื้อคาร์ซีทจากราคา – ข้อนี้ควรพิจารณาเปรียบเทียบให้ดีๆ โดยเลือกคาร์ซีทที่เหมาะกับงบประมาณในกระเป๋า เพราะไม่ว่าราคาจะถูกหรือแพงก็ไม่สามารถบ่งชี้ความมีคุณภาพของคาร์ซีทได้ อย่างไรก็ควรตรวจสอบให้ดีๆ ทั้งรูปแบบการใช้งาน วัสดุที่ใช้ ไปจนถึงระบบนิรภัย ว่าปลอดภัยกับลูกน้อยของเราหรือไม่

เลือกซื้อคาร์ซีทจากมาตรฐานความปลอดภัย

เลือกคาร์ซีทที่มีมาตรฐานความปลอดภัย – เนื่องจากมีผู้ผลิตหลากหลายเจ้า เราจึงควรเลือกคาร์ซีทที่มีตรามาตรฐานความปลอดภัย ECE R44/04 โดยสังเกตจากลักษณะเป็นป้ายแถบสีส้ม ซึ่งเป็นเครื่องหมายยืนยันมาตรฐานสำหรับคาร์ซีทโดยเฉพาะ จึงจะมั่นใจได้ว่าแม้เกิดอุบัติเหตุคาร์ซีทตัวนี้ก็สามารถช่วยป้องกันความปลอดภัยให้กับลูกน้อยของคุณได้ และดูว่าคาร์ซีทที่เราต้องการซื้อผลิตมาจากที่ใด ได้รับมาตรฐานจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่นที่ Federal Motor Vehicle Safety Standard 213 ของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

เข็มขัดนิรภัย – ควรเลือกเข็มขัดของคาร์ซีทที่มีมาตรฐาน และควรเลือกคาร์ซีทที่มีเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด จะปลอดภัยมากกว่าแบบที่มี 3 จุด

“คาร์ซีท อุปกรณ์ที่ไม่ควรมองข้าม อันตรายเกิดขึ้นกับลูกน้อยของคุณได้ หากไม่ติดตั้งคาร์ซีท”

ทำไมไม่ควรซื้อคาร์ซีทมือสอง

ซื้อคาร์ซีทใหม่ปลอดภัยกว่า

พ่อแม่ ผู้ปกครองบางท่าน อาจจะอยากประหยัดค่าใช้จ่าย จึงมีความจำเป็นต้องซื้อคาร์ซีทมือสอง แต่ก่อนที่ควรจะซื้อนั้นควรเลือกดูให้ดี สังเกตชิ้นส่วนต่างๆ ให้ครบถ้วน ไม่มีสิ่งไหนชำรุดเสียหาย หรือเคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน เพราะการใช้งานคาร์ซีทที่เคยประสบอุบัติเหตุมาก่อน มีข้อเสียดังนี้

– โครงสร้างภายในคาร์ซีทอาจเกิดการแตกหักได้ เช่น โฟมด้านในที่ช่วยรองรับแรงกระแทกอาจแตกหักระหว่างเกิดอุบัติเหตุ
– โครงสร้างภายนอก เช่น สายเข็มขัดนิรภัยของคาร์ซีท อาจขาดได้ จากแรงกระชาก หรือ ตัวล็อก 5 จุด ที่ล็อกไม่แน่นเหมือนเดิม

ติดตั้งคาร์ซีทตรงเบาะหลังปลอดภัยสำหรับลูกน้อยที่สุด

ติดตั้งคาร์ซีทตรงไหนปลอดภัยที่สุด

ก่อนการติดตั้งคาร์ซีทควรอ่านทำความเข้าใจกับคู่มือการใช้ให้เรียบร้อย เพื่อการติดตั้งที่ไวขึ้น และเพื่อความถูกต้องและปลอดภัยที่สุด เนื่องจากคาร์ซีทค่อนข้างจะมีความซับซ้อน หรือการไขว้ไปมาของสายเพื่อความปลอดภัย อาจจะทำให้ผู้ติดตั้งสับสนได้

เบาะหลัง คือ ตำแหน่งติดตั้งคาร์ซีทที่ดีที่สุด หลายๆ คนอาจจะติดคาร์ซีทเอาไว้ด้านหน้าเพื่อให้ง่ายต่อการเลี้ยงดูลูก แต่ด้านหน้านั้นจะมี Airbag ติดตั้งอยู่ ซึ่งถ้าหากเกิดอุบัติเหตุ Airbag อาจจะทำอันตรายให้กับเด็กๆ ที่อยู่ในคาร์ซีทได้ เพราะฉะนั้นการติดตั้งคาร์ซีทเอาไว้ด้านหลังเบาะจึงจะดีที่สุด

นอกจากจะต้องคาดเข็มขัดให้ถูกวิธี และต้องคาดให้พอดีหากคาดหลวมเกินไปคาร์ซีทที่คุณมีก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน

ประกันรถยนต์คุ้มครองคาร์ซีทไหม

ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความคุ้มครองในกรมธรรม์ว่าระบุไว้ว่าอย่างไร คุ้มครองแค่ตัวรถ หรือคุ้มครองไปถึงทรัพย์สินส่วนอื่นด้วย ถ้าประกันไม่คุ้มครองทรัพย์สินส่วนอื่น เราก็เคลมกับทางประกันไม่ได้ แต่เราสามารถเรียกร้องจากทางฝ่ายคู่กรณีได้ เพราะถือว่าเป็นทรัพย์สินบุคคลภายนอกหากมีอะไรเสียหายจากอุบัติเหตุที่ทางฝ่ายคู่กรณีเป็นผู้ประมาท ทางคู่กรณีต้องรับผิดชอบทั้งหมด ในทางกลับกันหากเราเป็นฝ่ายผิดเราก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2/2+ และ ประกันรถยนต์ชั้น 3/3+ ที่ซื้อผ่าน tadoo.co ในแผนกรมธรรม์จะมีข้อ “ความเสียหายต่อทรัพย์สิน” ระบุไว้ดังต่อไปนี้

ความเสียหายต่อทรัพย์สินจากอุบัติเหตุ “คุ้มครองค่าซ่อมรถของคู่กรณี และทรัพย์สินอื่นๆที่ได้รับความเสียหาย วงเงินคุ้มครองตามทุนประกันที่เลือกไว้ ช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น” และอีกวิธีหนึ่งคือ ให้ลองตรวจเช็คประกันสินค้าคาร์ซีท จากร้านค้าหรือบริษัทคาร์ซีทที่เราได้ทำการซื้อมา

คาร์ซีทช่วยปกป้องและลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุให้กับเด็กได้ โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่า การใช้คาร์ซีทจะมีส่วนช่วยลดการเสียชีวิตของเด็กได้ถึงร้อยละ 70 และในปัจจุบัน 96 ประเทศทั่วโลก มีกฎหมายบังคับให้ใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กแล้ว

ผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์

ประเภทของประกันรถยนต์

คู่มือยอดนิยมสำหรับประกันรถยนต์