Connect with us

มูลค่ารถมีผลต่อประกันรถยนต์อย่างไร

มูลค่ารถยนต์ของคุณส่งผลต่อทุนประกันรถยนต์ ทุนประกันมาก เบี้ยประกันแพง ทุนประกันน้อย เบี้ยราคาถูก

ทุนประกันรถยนต์

ก่อนอื่นในการซื้อประกันรถยนต์ เราจะต้องทำความรู้จักคำว่า “ทุนประกันรถยนต์”เสียก่อน ทุนประกันรถยนต์ คือ มูลค่าความคุ้มครองที่บริษัทประกันจะจ่ายสูงสุดสำหรับค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถของคุณต่อปี โดยมูลค่าความคุ้มครองนี้จะถูกกำหนดขึ้นจากมูลค่ารถยนต์ของคุณ ซึ่งรถยนต์ที่ออกใหม่ป้ายแดงจะมีทุนประกันรถยนต์สูงสุด 80% ของราคารถยนต์ และจะลดลงเรื่อยๆ ปีละ 10% หรือตามราคากลางของรถยนต์ปีนั้นๆ

จุดเด่น

  • มูลค่ารถมีผลต่อทุนประกันรถยนต์
  • ทุนประกันรถยนต์มีผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์
  • เลือกประกันทุนสูง หรือทุนน้อย หรือเติมเต็มทุนประกันได้ขึ้นอยู่กับรถและตัวคุณ

ตัวอย่างการคิดทุนประกันรถยนต์อย่างคร่าวๆ

ปีแรก คุณซื้อรถยนต์ใหม่ป้ายแดงมาในราคา 1,200,000 บาท การคิดทุนประกันเท่ากับ 1,200,000 x 80% = 960,000 บาท

ในปีที่2 รถคันเดิมซึ่งถือว่าไม่ใหม่แล้ว แต่ยังต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 กับบริษัทเจ้าเดิม การประเมินทุนประกันจะเท่ากับ “ทุนประกันปีที่ 1 x 80%” โดยเอาทุนประกันปีที่1 เป็นที่ตั้ง 960,000 x 80% = 768,000 บาท

ทุนประกันรถยนต์ส่งผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์

โดยปกติแล้วประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองกับรถใหม่ป้ายแดงที่ทุนประกัน 80% ของมูลค่ารถยนต์ ในส่วนของทุนประกันรถยนต์นั้น สามารถทำการขอเพิ่มหรือขอลดได้ หากคุณคิดว่ายังไม่ใช่ในแบบที่คุณต้องการ หรือยังไม่ตอบโจทย์หากเกิดความเสียหายขึ้นกับรถของคุณ ทั้งนี้คุณสามารถเลือกได้ด้วยตัวคุณเองโดยประเมินจากความเสี่ยงและลักษณะการใช้รถใช้ถนนของคุณ ว่าใช้รถยนต์บ่อยหรือไม่ เส้นทางที่ขับขี่เป็นประจำมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากน้อยเพียงใด หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูง คุณก็สามารถขอเพิ่มทุนได้ ซึ่งจะขอเพิ่มทุนได้สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท และทำให้เบี้ยประกันก็จะแพงขึ้นเช่นกัน ซึ่งในทางกลับกันหากคุณใช้รถยนต์ไม่มาก เดินทางไม่ไกล และมีความเสี่ยงน้อย ก็สามารถขอลดทุนประกันได้ โดยขอลดทุนประกันรถยนต์ได้ไม่เกิน 50,000 บาท ทั้งนี้คุณก็จะได้เบี้ยประกันที่ถูกลง

“รถใหม่ป้ายแดงทุนประกันสูง เบี้ยประกันย่อมแพงตาม”

ความคุ้มครองส่วนต่างของมูลค่ารถ (Motor Gap Insurance)

ขึ้นชื่อว่า “รถ” มูลค่ารถย่อม “ลด” ตามชื่อ ไม่เหมือนกับบ้านที่มีแต่จะมีมูลค่าบ้านเพิ่มมากขึ้น แต่ในสมัยนี้สำหรับใครหลายๆ คน รถถือเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิต ทั้งช่วยอำนวยความสะดวกสบาย ความคล่องตัวในการเดินทางไปไหนมาไหน บางคนไม่ชอบนั่งรถโดยสาร เพราะมองว่าไม่สะดวก อึดอัดที่ต้องใช้พื้นที่ร่วมกับคนหมู่มาก จะจอดแวะไหนก็ไม่ได้ ในปัจจุบันการซื้อขายรถยนต์จึงมีเพิ่มมากขึ้น

เมื่อรู้แล้วว่ามูลค่ารถยนต์มีการลดลงทุกปี หากต้องการให้ความคุ้มครองในส่วนนี้ถูกเติมเต็ม ถึงควรซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมในข้อความคุ้มครองส่วนต่างของมูลค่ารถยนต์ หรือที่เรียกว่า GAP ซึ่งจะคุ้มครองในกรณีรถยนต์เกิดความเสียหายเสียหายโดยสิ้นเชิง รวมทั้งจ่ายส่วนต่างเพิ่มเติมจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่คุณมีเพื่อเติมเต็มความคุ้มครอง เพราะส่วนมากทุนประกันที่ทำไว้คุ้มครองค่ารถได้ไม่เต็ม 100% แต่คุณสามารถมั่นใจเต็มร้อยได้ หากมีประกันคุ้มครองส่วนต่างของมูลค่ารถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุบนท้องถนน ความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้ น้ำท่วม และในกรณีรถถูกขโมยอีกด้วย

มูลค่ารถลดได้ เติมเต็มความคุ้มครองด้วยความคุ้มครองส่วนต่างของมูลค่ารถยนต์

ความคุ้มครอง

ความคุ้มครองส่วนต่างของมูลค่ารถ(Motor Gap Insurance) มีดังนี้

– คุ้มครองรถยนต์เสียหายโดยสิ้นเชิง คือรถยนต์ได้รับความเสียหายหรือไฟไหม้ จนไม่อาจซ่อมให้อยู่ในสภาพเดิมได้หรือเสียหายไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของมูลค่ารถยนต์ในขณะเกิดความเสียหาย
– คุ้มครองรถยนต์สูญหาย คือ การสูญหายทั้งคันของรถยนต์ ที่เป็นผลมาจากการลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ หรือยักยอกทรัพย์

เลือกทุนประกันสูง/ทุนประกันน้อยอย่างไร

รถยนต์หนึ่งคันไม่ได้มีมูลค่าราคารถที่ถูกเลย ต่อให้เป็นรุ่นที่ถูกที่สุดก็มีราคาหลักแสนอยู่ดี ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ออกรถใหม่ แล้วยังขับรถไม่ชำนาญ ควรเลือกทุนประกันให้คุ้มค่ากับมูลค่ารถยนต์สูงสุด โดยเลือกทุนประกันรถยนต์ที่มากที่สุด อาจจะเสียเบี้ยประกันแพง แต่เพื่อความคุ้มครองอย่างครอบคลุมและคุ้มค่าที่สุด และเมื่อขับขี่จนชำนาญมากขึ้น และอายุการใช้งานของรถยนต์ก็เริ่มมากขึ้นแล้ว คุณอาจจะเลือกประกันรถยนต์ที่ให้ทุนประกันน้อยลง เพื่อให้เบี้ยประกันถูกลงได้ สนใจประกันรถยนต์ เลือกผ่าน tadoo.co

ผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์

ประเภทของประกันรถยนต์

คู่มือยอดนิยมสำหรับประกันรถยนต์