Connect with us

วิธีการเคลมประกันรถยนต์

จ่ายเงินต่อประกันรถยนต์ทุกปี เมื่อถึงเวลาต้องการเคลมประกัน สามารถทำอย่างไรได้บ้าง

การเคลมสำหรับรถยนต์

ไม่ว่าจะรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ มีลักษณะการเคลมเช่นเดียวกันคือ เคลมจากพ.ร.บ.ก่อนจากนั้นจึงเป็นการเคลมประกัน สำหรับใครที่สงสัยว่า พ.ร.บ.รถยนต์ คืออะไร แล้วทำไมต้องทำ
คำว่า พ.ร.บ. ย่อมาจากพระราชบัญญัติ ซึ่งได้บัญญัติให้รถทุกคันที่แล่นบนถนนต้องทำ ไม่ว่าจะรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ หรือเรียกอีกอย่างว่า “ประกันภัยภาคบังคับ” ซึ่งพ.ร.บ.นี้คุ้มครองปีต่อปี เมื่อหมดแล้วต้องต่อ สามารถต่อล่วงหน้าได้ 3 เดือน เพื่อทำการเสียภาษีรถยนต์ต่อไป และถ้าหากใครนำรถที่ไม่มี พ.ร.บ.มาใช้ หากโดนตำรวจเรียก จะโดนโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท เมื่อรู้เช่นนี้ลองเช็คดูว่ารถของคุณมี พ.ร.บ. หรือได้ทำการต่อ พ.ร.บ. แล้วหรือยัง

จุดเด่น

  • เคลมจาก พ.ร.บ.รถยนต์ก่อนเคลมจากประกันรถยนต์
  • มีทั้ง พ.ร.บ. และประกันรถยนต์เปรียบเสมือนมีเกราะ 2 ชั้น เคลมได้ทั้งสองส่วน
  • ศึกษาวิธีการเคลม หากเกิดเหตุขึ้นจะได้ทำตามขั้นตอนและเตรียมเอกสารได้ถูกต้อง

เคลมความคุ้มครองจากพ.ร.บ.รถยนต์

สำหรับ พ.ร.บ.รถยนต์แบ่งความคุ้มครองได้ดังนี้

1. ค่าเสียหายเบื้องต้นที่ได้รับทันทีโดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด
– ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บตามจริง 30,000 บาท/คน
– กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพอย่างถาวร 35,000 บาท/คน
– กรณีผู้ประสบภัยต้องใช้กะโหลกศีรษะเทียม ไม่เกิน 35,000 บาท/คน
– รวมค่าเสียหายเบื้องต้นแล้วไม่เกิน 65,000 บาท/คน

2. ค่าสินไหมทดแทนที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นฝ่ายถูก รับวงเงินคุ้มครองเพิ่ม ดังนี้
– ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ ซึ่งจ่ายตามจริง 80,000 บาท/คน
– ทุพพลภาพอย่างถาวร จ่าย 300,000 บาท/คน
– เสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวรสิ้นเชิง จ่าย 500,000 บาท/คน
– หากสูญเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ ได้แก่ นิ้วขาด 1 ข้อขึ้นไป 200,000 บาท, สูญเสียอวัยวะ 1 ส่วน รวมถึงกะโหลกศีรษะเทียม 250,000 บาท และสูญเสียอวัยวะ 2 ส่วน 500,000 บาท
– กรณีรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในที่โรงพยาบาล รับเงินชดเชยรายวัน 200 บาท รวมไม่เกิน 20 วัน สูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท
– รวมค่าสินไหมทดแทนแล้วไม่เกิน 504,000 บาท/คน

ขั้นตอนและเอกสารการเคลม พ.ร.บ.รถยนต์

ผู้ประสบภัย หรือผู้รับมอบอำนาจ หรือทายาทโดยชอบธรรม สามารถทำเรื่องเบิกเคลม พ.ร.บ.รถยนต์ ภายใน 180 วัน โดยยื่นเรื่องผ่านโรงพยาบาลที่เข้ารับรักษาตัว หรือ ยื่นเรื่องผ่านบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (โทร. 1791) ซึ่งการเบิกค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยต่างๆ ต้องใช้เอกสารดังนี้

1. เบิกค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยนอก
– สำเนาบัตรประชาชน
– ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล

2. เบิกค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยใน
– สำเนาบัตรประชาชน
– ใบรับรองแพทย์
– ใบแจ้งหนี้ค่ารักษาพยาบาล

3. กรณีทุพพลภาพถาวร หรือสูญเสียอวัยวะ
– สำเนาบัตรประชาชน
– ใบรับรองแพทย์
– หนังสือรับรองคนพิการ
– สำเนาบันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวน หรือหลักฐานที่แสดงว่าได้รับความเสียหายจากการประสบภัย

4. กรณีเสียชีวิต
– สำเนาบัตรประชาชน
– ใบมรณบัตร
– สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของทายาทโดยธรรม
– สำเนาบันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวน หรือหลักฐานอื่นที่แสดงว่าผู้นั้นเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์

“เกิดอุบัติเหตุเคลมได้ ชดเชยความเสียหายสูงสุด เพียงคุณมีพ.ร.บ.และประกันรถยนต์ ควบคู่กัน”

การเคลมประกันรถยนต์(เคลมสด)

ประกันรถยนต์ คือ “ประกันภัยภาคสมัครใจ” ซึ่งประกันรถยนต์จะคุ้มครองส่วนเกินจาก พ.ร.บ.รถยนต์ ให้ความคุ้มครองทั้งรถและตัวคุณ แตกต่างกับ พ.ร.บ ที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะตัวบุคคล ไม่ได้รวมค่าซ่อมรถไว้ด้วย ดังนั้นการทำประกันรถยนต์ เปรียบเสมือนการมีเกราะคุ้มกันคุณและรถคุณถึงสองชั้น สำหรับการเคลมประกันรถมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ การเคลมสด และเคลมแห้ง

การเคลมสด – คือ การเคลมทันทีหลังเกิดอุบัติเหตุนั้นๆ หรือการที่มีเหตุการณ์รถชนกันโดยยังมีผู้เกี่ยวข้องอยู่ในเหตุการณ์เพื่อรอการตรวจสอบ พร้อมกับการรอเอกสารที่ออกจากตัวแทนบริษัทประกัน เพื่อที่ผู้ขับขี่จะได้สามารถนำใบหลักฐานไปดำเนินเรื่องติดต่อขอซ่อมแซมค่าเสียหายต่อไป

มีประกันรถยนต์ไว้ โดยเฉพาะประกันชั้น1 จะเคลมสดเคลมแห้งได้หมด

การเคลมประกันรถยนต์(เคลมแห้ง)

การเคลมแห้ง – สำหรับความคุ้มครองนี้มีเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น หรือเรียกอีกอย่างว่า “การเคลมรอบคัน” คือ การที่คุณเคลมประกันด้วยตัวเอง
ยกตัวอย่างเช่น คุณขับรถชนประตูรั้วบ้าน ทำให้รถคุณเกิดเป็นรอยบุบ คุณก็สามารถโทรไปแจ้งประกัน เพื่อตรวจสอบการนำรถเข้าอู่ซ่อมตามที่ตกลงไว้ ควรเตรียมข้อมูลในการแจ้งกับเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจน เช่น สถานที่เกิดเหตุ วันเวลาเกิดเหตุ ร่องรอยความเสียหายเกิดจากสาเหตุอะไร

ขั้นตอนและเอกสารการเคลมประกันรถยนต์

ผู้ประสบภัย หรือผู้รับมอบอำนาจ หรือทายาทโดยชอบธรรม สามารถทำเรื่องเบิกเคลมประกันรถยนต์ โดยการโทรหาตัวแทนประกัน หรือโทรโดยตรงที่บริษัทประกัน ซึ่งการเบิกเคลมประกันรถยนต์ ต้องใช้เอกสารดังนี้

– สำเนาทะเบียนรถ
– สำเนากรมธรรม์
– สำเนาใบขับขี่
– สำเนาบัตรประชาชน

เจ้าหน้าที่จะทำการออกใบเคลมให้ ซึ่งใบเคลมมีอายุ 1-2 ปี จากนั้นให้เรานำรถเข้าซ่อมศูนย์หรืออู่ตามที่ระบุไว้ในการทำกรมธรรม์ เมื่อรถซ่อมเสร็จ ในการไปรับรถให้เตรียมเอกสารดังที่กล่าวไว้ไปด้วย พร้อมกับทำการเซ็นต์รับรถ ดังที่กล่าวมานั้น จะเห็นได้ว่าการเคลมประกันสำหรับรถยนต์นั้นไม่ได้ยุ่งยากเลย แถมยังรู้สึกอุ่นใจที่รถของคุณได้ไปซ่อมในศูนย์หรืออู่คุณภาพ หากคุณไม่มีประกันรถยนต์แล้วล่ะก็ คุณอาจจะต้องแบกรับภาระค่าซ่อมรถเอง ซึ่งไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย ดังนั้น ทำประกันรถยนต์ไว้ จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า สนใจประกันรถยนต์ เลือกผ่าน tadoo.co

ผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์

ประเภทของประกันรถยนต์

คู่มือยอดนิยมสำหรับประกันรถยนต์