ผู้สูงอายุ วัยเกษียณส่วนใหญ่ไม่ได้มีรายได้ประจำแล้ว รถยนต์ที่เหมาะกับผู้สูงอายุควรเป็นรถที่ราคาไม่แพงมากนัก ขนาดกะทัดรัด ควบคุมง่าย เหมาะในการขับในเมืองหรือระยะทางที่ไม่ได้ไกลมาก เช่น ไปจ่ายตลาด ไปรับลูกหลาน แนะนำรถยนต์ประเภท Eco-Car หรือรถยนต์ขนาด Sub-Compact ขับง่ายแถมประหยัดน้ำมัน
แต่ผู้สูงอายุบางท่านที่มีกำลังทรัพย์ ยังสามารถขับออกตามต่างจังหวัดได้ แนะนำให้เลือกรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมา เช่น รถ SUV, MPV หรือ Crossover เพราะทนทาน คุ้มครองความปลอดภัยคนขับ อะไหล่หาง่าย ค่าซ่อมไม่แพง และถ้าเป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติก็จะยิ่งใช้งานง่ายขึ้น
เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ผู้สูงอายุควรศึกษาคู่มือรถและวิธีการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ของรถให้เข้าใจ เนื่องจากรถรุ่นใหม่มักมีเทคโนโลยีสลับซับซ้อนต่างจากรถรุ่นเก่า ที่สำคัญ ควรทำประกันรถยนต์ไว้ด้วย เพื่อเป็นการป้องกันเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น
มาดูกันว่า ผู้สูงอายุควรทำประกันรถยนต์ประเภทไหน
ข้อดีของการมีอายุมากคือ ในการกำหนดเบี้ยกรมธรรม์ มีแนวโน้มที่จะได้เบี้ยราคาถูกกว่าคนอายุน้อย เพราะมีความชำนาญในการขับรถ ใจเย็น เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าวัยทำงาน และวัยรุ่น
ส่วนของประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้น ที่บอกว่าคุ้มค่าคุ้มราคาเพราะคุ้มครองครอบคลุมที่สุด ผู้ทำประกันสามารถเลือกระบุผู้ขับขี่ได้ เพราะว่าผู้สูงอายุจะได้ส่วนลดเบี้ยประกันและจ่ายในราคาที่ถูกกว่า แถมได้รับความคุ้มครองเหมือนเดิมตามแผนกรมธรรม์ทุกอย่างไม่ได้ลดลงไปจากแผนกรมธรรม์เลย
ปัจจุบันผู้สูงอายุหลายท่านยังมีรายกายแข็งแรง สายตาดี ปฏิกิริยาตอบสนองไว ทำให้ยังสามารถขับรถได้ดี แต่อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้โดยไม่หลีกเลี่ยงวัย ดังนั้นควรซื้อประกันรถยนต์ไว้ เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุผู้สูงอายุเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บที่รุนแรงกว่าวัยอื่น ค่ารักษาพยาบาลก็จะสูงตาม หากมีประกันรถยนต์ไว้จะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายได้
Tadoo แนะนำในผู้สูงอายุทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เพราะว่าให้ความคุ้มครองมากที่สุด แม้ว่าราคาจะแพงสุด แต่ข้อดูคืออายุของผู้ทำประกันส่งผลต่อเบี้ยประกัน ลดหลั่นตามช่วงอายุ ทำให้สามารถซื้อประกันชั้น 1 ในราคาคุ้มค่าได้ ดังนี้
50 ปีขึ้นไป ส่วนลด 20%
36-50 ปี ส่วนลด 15%
25-35 ปี ส่วนลด 10%
18-24 ปี ส่วนลด 5%
พูดง่ายๆ คือ อายุน้อยเบี้ยแพง อายุเยอะเบี้ยถูก ผู้สูงอายุควรใช้สิทธิประโยชน์จากตรงนี้ให้ได้มากที่สุด
20,691 reviews
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในสังกัดกระทรวงมหาดไทยได้ออกมาแนะนำวิธีขับขี่รถอย่างปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ดังนี้
1. ผู้สูงอายุที่ยังมีความจำเป็นในการขับขี่ หรือต้องการขับรถ ก่อนจะลงมือนั่งหลังพวงมาลัย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ตรวจสอบร่างกายก่อน ทั้งการมองเห็น กำลังกล้ามเนื้อ การทำงานของแขนและขา ว่ามีความสามารถพอที่จะขับรถหรือไม่
2. ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงการขับรถในช่วงที่ทัศนวิสัยไม่ดี เช่น ถนนเส้นที่ไม่มีไฟส่องสว่างยามกลางคืน สภาพอากาศที่ฝนตกหนักมาก มีหมอกควันปกคลุมเส้นทาง
3. เป็นไปได้อย่างขับรถไปไหนคนเดียว ควรหาคนนั่งไปด้วย จะได้ช่วยกันดูเส้นทาง หรือสัญญาณไฟจราจร
4. หากมีโรคประจำตัว ให้นำยารักษาโรค บัตรบันทึกประวัติของโรคพร้อมระบุอาการ และบัตรประจำตัวผู้ป่วยติดตัวไปด้วยเสมอ ยกเว้นผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวร้ายแรง ได้แก่ โรคหัวใจ โรคสมองเสื่อม โรคพาร์กินสัน โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคเบาหวานในระยะรุนแรง ไม่ควรขับรถอย่างเด็ดขาด เพราะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น