Connect with us

คำแนะนำเกี่ยวกับยางรถยนต์

ยางรถยนต์เป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญของรถ เราจะมีวิธีดูแลรักษายางอย่างไรบ้างให้อยู่ในสภาพดี เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย

การดูแลรักษายางรถยนต์

ควรเช็คสภาพและดูแลรักษายางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ยืดระยะเวลาการใช้งานของยางรถยนต์ได้ ดังนั้น เราจึงควรคอยสังเกตและตรวจเช็คอยู่เสมอ เช่นว่า ถ้าหากรถยนต์ของเราเลี้ยวโค้งได้ไม่เต็มที่ หรือวิ่งบนถนนที่เปียกได้ไม่ดีดังเช่นเคย หรือว่าการเบรกต้องใช้เวลานานหรือมีการสั่นสะเทือนมาก นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการมีปัญหาของยางรถยนต์ ดังนั้นเรามารู้วิธีเช็คและดูแลรักษายางรถยนต์ โดยทาง tadoo.co มีข้อมูลมาฝากดังต่อไปนี้

จุดเด่น

  • ดูแลยางสม่ำเสมอช่วยยืดอายุยางรถยนต์
  • การตรวจเช็คยางรถยนต์ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ
  • หากยางสึกหรอต้องเปลี่ยนยางทันที การใช้ยางที่ไม่ดีอาจส่งผลเสียตามมาได้

ความดันลมยาง

เรื่องความดันลมยาง คุณสามารถทำให้เป็นนิสัยได้ โดยควรตรวจเช็คความดันลมของยางรถยนต์ทุก ๆ 2-4 สัปดาห์ เนื่องจากความดันลมยางที่เหมาะสมจะช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย และทำให้อายุการใช้งานยางรถยนต์ยาวนานกว่าปกติ ซึ่งการตรวจสอบความดันลมยางรถยนต์ คุณสามารถทำเองได้โดยซื้อเกจวัดความดันลมยาง หรือใช้เกจวัดความดันลมยางตามปั๊มน้ำมัน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการตรวจสอบความดันลมยาง คือช่วงเช้าเมื่อยางรถของเราเย็น เพราะถ้าหากวัดเวลาอื่นเมื่อเราขับขี่ไปยางรถจะร้อน ทำให้การตรวจสอบความดันลมยางไม่ถูกต้องได้ จากนั้นให้คลายวาล์วหัวสูบลม (Valve) และเสียบเกจวัดบนวาล์วสูบยาง ถ้ามีเสียงลม หรือเสียงฟู่สั้น ๆ ถือว่ายางปกติ ถ้าความดันลมยางต่ำเกินไป นั่นหมายความว่าถึงเวลาที่คุณจะต้องนำรถไปตรวจสอบที่อู่หรือศูนย์บริการ เพราะยางรถยนต์ของคุณอาจมีลมซึมออกช้า ๆ โดยมีสาเหตุเนื่องมาจากขนาดของขอบยางไม่ถูกต้องหรือลิ้นท่อยางผิดขนาด

การสลับยางรถยนต์

โดยปกติยางล้อหน้าของรถยนต์จะเสื่อมสภาพเร็วกว่ายางล้อหลัง แต่ถ้าผู้ขับขี่สลับตำแหน่งยางบ่อย ๆ จะช่วยให้ยางสึกเท่ากันและดอกยางจะมีอายุการใช้งานนานที่สุด ข้อควรคำนึง คือ การสลับยางไม่สามารถแก้ปัญหาการสึกหรอของยางได้ถ้าหากความดันลมยางไม่ถูกต้อง

การสลับยางรถยนต์สามารถทำโดยการสลับยางทุก ๆ 10,000 ถึง 12,000 กม. หรือทุก 6 เดือน การสลับยางไม่ควรทำด้วยตัวเอง ด้วยสาเหตุมาจากการสลับยางนั้นเป็นสิ่งสำคัญจะต้องทำโดยถูกต้องสมบูรณ์ ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เกิดอันตรายหรือเกิดอุบัติเหตุได้ขณะขับรถ จึงควรใช้บริการอู่หรือศูนย์บริการในการสลับยางรถยนต์ให้จะเป็นการดีที่สุด

“ข้อควรรู้ อย่าปล่อยให้ความดันลมยางต่ำหรือสูงเกินไป”

ดอกยาง

เราควรหมั่นตรวจสอบสภาพดอกยางอยู่เสมอ เพราะสภาพดอกยางรถยนต์เป็นปัจจัยที่บ่งบอกสภาพความพร้อมของรถยนต์ได้ การตรวจสอบดอกยางควรตรวจสอบอย่างน้อยเดือนละครั้ง และก่อนหรือหลังการใช้รถขับในระยะทางไกล ปัญหาดอกยางสึก ถึงแม้ว่าคุณจะบำรุงรักษายางรถยนต์อย่างดีที่สุด แต่เมื่อดอกยางหาย หรือสึก เราจะทราบได้โดยสังเกตแท่งที่บอกสถานะและการสึกของดอกยางซึ่งยางรถยนต์ส่วนใหญ่จะมีให้ แท่งเหล่านี้เป็นยางแข็งจะปรากฏให้เห็นบนยาง เมื่อความลึกของดอกยางหายไปเกินกว่าขีดจำกัดที่จะขับขี่รถได้อย่างปลอดภัย ซึ่งโดยทั่วจะอยู่ที่ 1.6 มิลลิเมตร คุณควรตรวจสอบดอกยางที่สึกไม่เท่ากันด้วย เพราะจะสามารถบ่งชี้ปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับยางและรถยนต์ของคุณได้

ยางล้อหน้าจะสึกมากกว่ายางล้อหลัง ควรสลับยางทุก ๆ 6 เดือน

การสึกหรอของยางรถยนต์

การสึกหรอของยางรถยนต์มีหลายรูปแบบต่อไปนี้ เช่น:

1. การสึกหรอของยางด้านนอก – ถ้าคุณสังเกตเห็นว่ายางสึกที่ขอบทั้งสองด้าน อาจจะต้องสูบลมให้ยางพองตัว หรือตรวจเช็คให้ดีว่ายางรั่วหรือไม่ ยางจะเสียลมโดยธรรมชาติ การขับขี่รถยนต์ที่ยางอ่อน รถจะกินน้ำมันและมีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

2. การสึกหรอที่ศูนย์กลางดอกยาง – ถ้าหากสูบลมเข้าจนยางพองตัวมากเกินไป ศูนย์กลางของดอกยางอาจจะเกิดการสึกหรอและเสื่อมสภาพมากกว่าขอบด้านนอก โดยยางที่พองลมมากเกินไปนั้นจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้ยางระเบิดได้ ควรใช้เกจวัดความดันลมยาง และปล่อยลมออกจนอยู่ในระดับที่เหมาะสม

3. การสึกหรอที่ไม่เท่ากันในยางเส้นเดียวกัน – ถ้าหากคุณสังเกตเห็นว่ามีแผ่นของความสึกหรอที่ไม่เท่ากันหรือมีจุดโล้น คุณอาจจะต้องถ่วงล้อ หรือตั้งศูนย์ บางครั้งจุดโล้นอาจบ่งชี้ได้ว่าอุปกรณ์กันสะเทือนสึกหรอ

4. รอยแตกที่มองเห็นได้ – ควรตรวจสอบแก้มของยางและดอกยางที่อาจมีรอยแตก ถ้าหากคุณสังเกตเห็นว่ามีรอยแตกเล็ก ๆ ในแก้มของยางที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า “รอยเส้นแตกร่างแห (Crazing)” นั่นหมายความว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนยาง

การเปลี่ยนยาง

การตรวจเช็คสภาพและบำรุงรักษายางเป็นประจำอาจช่วยยืดอายุยางรถยนต์ได้ แต่อย่างไรเสีย ยางรถยนต์ทั้งหมดก็ต้องสึกหรอไปตามกาลเวลา เนื่องจากตัวยางมีอายุการใช้งานที่จำกัด

อายุของยางจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัยการขับขี่รถ ภูมิอากาศของพื้นที่ที่อยู่อาศัย และการบำรุงรักษายางว่าดีเพียงใด ยางทั้งหมดย่อมมีการสึกและเสียหายและต้องเปลี่ยนในท้ายที่สุด การเปลี่ยนยางใหม่ถ้าหากจะเปลี่ยนทั้งสี่ล้อพร้อมกันถือเป็นความคิดที่ดี แต่ถ้าหากคุณไม่พร้อมเปลี่ยนในทีเดียวทั้งสี่เส้น ก็ควรคำนึงถึงการเปลี่ยนยางเพียงสองเส้น ต้องตรวจสอบว่ายางทั้งสองเส้นนั้นใช้เข้ากันได้กับยางที่สึกแล้วเป็นบางส่วน และควรนำไปเปลี่ยนเป็นยางล้อหลังซึ่งจะทำให้เกิดแรงฉุด และรถจะมีเสถียรภาพดีกว่าขณะที่คุณขับขี่

ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับรถยนต์

ความคุ้มครองรถพังเสียหาย

เพิ่มเติม

ความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน

เพิ่มเติม

ความคุ้มครองรถสำหรับธุรกิจ

เพิ่มเติม

ประเภทของประกันรถยนต์

คู่มือยอดนิยมสำหรับประกันรถยนต์