การใช้บัตรเครดิตกดเงินสด
เมื่อถึงยามคับขัน จำเป็นต้องใช้เงินฉุกเฉิน แต่เงินที่เก็บไว้ไม่เพียงพอสำหรับการใช้จ่าย จะทำอย่างไรดี นึกขึ้นมาได้ว่า มีบัตรเครดิต จะเอามากดเงินได้หรือเปล่า มาหาคำตอบไปพร้อมกับ Tadoo กันเลย
เมื่อถึงยามคับขัน จำเป็นต้องใช้เงินฉุกเฉิน แต่เงินที่เก็บไว้ไม่เพียงพอสำหรับการใช้จ่าย จะทำอย่างไรดี นึกขึ้นมาได้ว่า มีบัตรเครดิต จะเอามากดเงินได้หรือเปล่า มาหาคำตอบไปพร้อมกับ Tadoo กันเลย
โดยปกติแล้วการใช้บัตรเครดิต จะเป็นการใช้วงเงินในบัตรเครดิตที่ธนาคารออกให้ล่วงหน้าในการชำระค่าสินค้าหรือบริการ แล้วธนาคารจึงเรียกเก็บจากผู้ถือบัตรในภายหลัง โดยไม่จำเป็นต้องพกเงินสดไปชำระสินค้าหรือบริการแต่อย่างใด อีกทั้งยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้ถือบัตรด้วย แต่ถ้าต้องการใช้เงินสดอย่างเร่งด่วน แต่ในขณะนั้นไม่มีเงินสดติดตัวมาเลย บัตรเครดิตก็สามารถกดเงินสดออกมาได้เช่นกัน ซึ่งวงเงินที่กดเงินสดได้ก็จะเท่ากับวงเงินในบัตรเครดิต ซึ่งสามารถกดได้ที่ตู้ ATM ของธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตนั้น ๆ จะเห็นได้ว่าการกดเงินผ่านบัตรเครดิตนั้นสามารถทำได้ทันที แต่การกดเงินสดจากบัตรเครดิตแต่ละครั้งจะถูกคิดค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 3% และภาษีมูลค่าเพิ่มจากยอดเงินที่กดออกมาอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นการคิดดอกเบี้ยของการกดเงินสดจากบัตรเครดิตนั้น จะคิดเป็นรายวันและจะเริ่มคำนวณตั้งแต่วันที่กดเงินสดออกมา ไม่เหมือนกันการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ซึ่งมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยตั้งแต่ 45 – 55 วัน ถ้าชำระเต็มจำนวน
บัตรเครดิตจะต่างจากบัตรเดบิตตรงที่ว่า เราจะใช้บัตรเดบิตได้ก็ต่อเมื่อต้องมีเงินฝากอยู่ในบัญชีที่ผูกกับบัตรเดบิตไว้ก่อนแล้ว การกดเงินสดผ่านบัตรเดบิตจะไม่เสียค่าธรรมเนียมถ้ากดที่ตู้ ATM ของธนาคารเดียวกันกับบัตรเดบิต และจะเสียค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยเมื่อกดที่ตู้ ATM ต่างธนาคาร ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 10-30 บาท ต่อครั้ง แต่ก็จะมีบางธนาคารที่ยกเว้นค่าธรรมเนียมการกดเงินสดต่างธนาคารด้วยเช่นกัน
การคิดดอกเบี้ยของการกดเงินสดผ่านบัตรเครดิตนั้น จะคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันนับตั้งแต่วันกดเงินสดจนถึงวันสรุปรายการ ยิ่งไปกว่านั้นจะมีค่าธรรมเนียมการกดอยู่ที่ 3% ของวงเงินที่กดออกมา และยังคิดภาษีมูลค่าเพิ่มจากค่าธรรมเนียมที่กดออกมาอีกด้วย Tadoo.co ได้นำตัวอย่างการคิดดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมกับภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยกดเงินที่ 5,000 บาท และชำระคืนภายใน 25 วันหลังจากกดเงินสดออกมา ได้ดังนี้
จำนวนเงินที่กด: 5000 บาท
ค่าธรรมเนียมกดเงิน: (3%) 500 * 3% = 150 บาท
ภาษีมูลค่าเพิ่ม: 7% จากค่าธรรมเนียมกดเงิน 150 * 7%= 10.50 บาท
อัตราดอกเบี้ย: 20%
การคำนวณดอกเบี้ย: คิดตั้งแต่วันที่กดเงินสด (25 วัน)
ดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย: (5000 * 20% * 25) ÷ 365 = 68.49 บาท
จำนวนเงินที่ต้องจ่ายคืนเมื่อครบกำหนด: 5000 +1 50 + 4.50 + 68.49 = 5228.99 บาท
จากตารางตัวอย่างที่ Tadoo ได้ยกมาแสดงนั้น จะเห็นได้ว่า เมื่อกดเงินสดออกมา 5000 บาท จะต้องจ่ายดอกเบี้ย + ค่าธรรมเนียม 3% + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เป็นจำนวน 228.99 บาท
“กดเงินสดด้วยบัตรเครดิต นอกจากจะต้องเสียดอกเบี้ยแล้ว ยังต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% และ VAT 7% อีกด้วย”
– เราสามารถกดเงินสดผ่านบัตรเครดิตได้ และสะดวกรวดเร็ว แต่เราต้องรู้ว่ามีวงเงินในบัตรเครดิตเหลืออยู่เท่าไหร่ก่อนการกดเงิน และเราสามารถกดเงินได้เต็มวงเงินหรือไม่ ซึ่งการกดเงินสดผ่านบัตรเครดิตนั้นก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปตามแต่ละธนาคาร เช่น สามารถกดเงินสดได้สูงสุด 50,000 บาทต่อวัน เป็นต้น
– การกดเงินสดผ่านบัตรเครดิตจะถูกคิดค่าธรรมเนียม 3% และภาษีมูลค่าเพิ่มจากยอดที่กดทันที ดังนั้นเมื่อเราต้องการที่จะกดเงินสดผ่านบัตรเครดิตในแต่ละครั้ง ต้องพิจารณาประกอบด้วยว่า มีค่าธรรมเนียมเท่าไร เพราะการกดเงินโดยเสียค่าธรรมเนียมนั้น เมื่อกดมากก็เสียค่าธรรมเนียมมากขึ้นตามไปด้วย
บัตรเครดิตไม่ได้ออกแบบมาเพื่อกดเงินสด ให้กดเงินสดด้วยบัตรเครดิตเฉพาะกรณีจำเป็นเท่านั้น
ก่อนกดเงินสดผ่านบัตรเครดิตทุกครั้งต้องดูด้วยว่ามีการกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำไว้ด้วยหรือไม่ เพราะนอกจากค่าธรรมเนียมที่เราจะต้องเสียแล้ว ต้องมาดูด้วยว่า ธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตได้กำหนดวงเงินขั้นต่ำที่สามารถกดได้จากตู้ ATM หรือไม่ เช่น ธนาคารกำหนดไว้ว่า สามารถกดเงินสดจากบัตรเครดิตได้ แต่ต้องกดเงินไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท เป็นต้น
– การกดเงินสดผ่านบัตรเครดิตแต่ละครั้ง จะถูกคิดดอกเบี้ยทันที โดยคิดแบบดอกเบี้ยรายวัน ซึ่งคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่เรากดเงินในทันทีจนกว่าจะถึงวันที่เราชำระเงิน โดยคำนวณตามอัตราดอกเบี้ยต่อปีของธนาคารเจ้าของบัตร เช่น บัตรเครดิตจากธนาคารบางแห่งคิดดอกเบี้ย 20% ต่อปี
การใช้บัตรเครดิตกดเงินสดนั้นสามารถทำได้ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ เพราะการกดเงินสดผ่านบัตรเครดิตแต่ละครั้ง จะต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% และภาษีมูลค่าเพิ่มจากยอดเงินที่กดออกมา และยังต้องเสียดอกเบี้ยรายวันจนกว่าจะถึงวันที่เราชำระเงิน ดังนั้นทางที่ดีควรใช้บัตร ATM หรือบัตรเดบิตกดเงินสดจะดีกว่า และไม่เสียดอกเบี้ยอีกด้วย