Connect with us

บัตรเครดิต Visa กับ MasterCard แตกต่างกันอย่างไร

เมื่อคุณใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ร้านค้าส่วนใหญ่จะถามคุณว่าใช้บัตรวีซ่า หรือมาสเตอร์การ์ด คุณอาจจะสงสัยอยู่บ้างว่าทั้ง 2 ชื่อคืออะไร ทำไมถึงมาอยู่บนบัตรเครดิตของคุณ และแตกต่างกันอย่างไร

บัตรเครดิต VISA และ MasterCard (มาสเตอร์การ์ด) คืออะไร

วีซ่าและมาสเตอร์การ์ดเป็นองค์กรผู้ให้บริการเครือข่ายการชำระเงินที่เชื่อถือได้และได้รับการยอมรับจากองค์กรชั้นนำทั่วโลก โดยเป็นตัวกลางรับชำระเงินระหว่างร้านค้ากับธนาคาร แต่ว่าทั้งวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดนั้นไม่ได้เป็นผู้ออกบัตรเครดิตให้กับคุณโดยตรง ในส่วนของการออกบัตรเครดิต รวมถึงการกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ของบัตรเครดิตนั้น ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะเป็นผู้กำหนด

จุดเด่น

  • Visa และ MasterCard เป็นผู้บริการเครือข่ายชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  • Visa และ MasterCard ไม่ได้ออกบัตรเครดิตให้กับลูกค้าโดยตรง แต่ธนาคารจะเป็นผู้ออกบัตร
  • มีร้านค้าและตู้ ATM ที่ร่วมรายการถึง 200 ประเทศทั่วโลก

เราสามารถใช้ บัตรเครดิต VISA และ MasterCard ได้ที่ไหนบ้าง

วีซ่าและมาสเตอร์การ์ดมีร้านค้าเป็นที่ยอมรับของร้านค้าทั่วโลก แต่ว่าวีซ่าจะได้รับความนิยมมากว่ามาสเตอร์การ์ดเล็กน้อย โดยวีซ่ามีร้านค้าที่ร่วมให้บริการมากกว่า 29 ล้านร้านค้าทั่วโลก และมีตู้ ATM ที่กดเงินสดได้อยู่มากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ในขณะที่มาสเตอร์การ์ดจะมีร้านค้าที่ร่วมรายการถึง 30 ล้านร้านค้า และตู้ ATM มากกว่า 200 ประเทศทั่วโลกเช่นเดียวกัน แต่มาสเตอร์การ์ดจะได้รับความนิยมในยุโรปมากกว่า แต่สิทธิพิเศษที่มอบให้กับลูกค้านั้นแทบไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นส่วนลดตามร้านค้า และอื่น ๆ

ภาพรวมของบัตรเครดิต VISA และ MasterCard

– เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายชำระเงินที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
– ทั้งวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดมีร้านค้าร่วมรายการมากกว่า 30 ล้านร้านค้า และตู้ ATM มากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก
– มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าผู้ถือบัตร เช่น ส่วนลด โปรโมชั่น ประกันการเดินทาง เป็นต้น

บัตรเครดิต VISA และ MasterCard ให้สิทธิประโยชน์ที่คล้ายคลึงกัน

Visa (บัตรวีซ่า)

วีซ่า คือองค์กรผู้ให้บริการเครือข่ายชำระเงินผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์จากสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต โดยวีซ่าเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายชำระเงินที่นำเทคโนโลยีมาเชื่อมโยงกันระหว่างธนาคารหรือสถาบันการเงินกับร้านค้าสำหรับการชำระเงินของลูกค้า และธุรกิจเอาไว้ด้วยกัน เพื่อให้ใช้ระบบดิจิตอลแทนการใช้เงินสดในการชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ โดยมีเครือข่ายมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก บัตรของวีซ่ามีหลายประเภท และแบ่งได้เป็นหลายระดับดังนี้

– VISA Classic เป็นบัตรพื้นฐานของวีซ่าที่คนส่วนใหญ่มีใช้ บัตร Visa Classic มอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าผู้ถือบัตรไม่ว่าจะเป็น การให้บริการความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันทำการทั่วโลก (Global customer Assistance) สามารถรับบัตรทดแทนกรณีสูญหาย หรือสามารถเบิกเงินสดฉุกเฉินได้

– VISA Gold ผู้ถือบัตรประเภทนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกันกับบัตร Visa Classic และมีสิทธิพิเศษเพิ่มเติมจากร้านค้า ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว รวมไปถึงสถานบันเทิงชั้นนำของโลก

– VISA Platinum บัตรประเภทนี้ให้สิทธิประโยชน์โดยมีประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง ซึ่งคุ้มครองทั้งผู้ถือบัตร คู่สมรส และบุตร ในวงเงิน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป รวมไปถึงการให้บริการผู้ดูแลส่วนตัว 24 ชั่วโมง และโบนัสในการเดินทาง ซึ่งคุณจะได้รับการต้อนรับแบบเหนือระดับระหว่างเดินทาง นอกจากนี้ยังสามารถสะสมคะแนนแลกรางวัล และได้รับเชิญไปรับประทานอาหารค่ำสุดหรูอีกด้วย

– VISA Signature เป็นบัตรที่ให้สิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่าบัตรแพลตทินัม ซึ่งบัตร Visa Signature ให้สิทธิประโยชน์แก่คุณไม่ว่าจะเป็น คะแนนสะสมเพื่อแลกรับรางวัลพิเศษ ประกันอุบัติเหตุการเดินทางตลอดทริป สิทธิพิเศษแบบวีไอพีที่สนามบินและโรงแรม รวมไปถึงผู้ดูแลส่วนตัวอีกด้วย

– VISA Infinite เป็นบัตรระดับสูงสุดของวีซ่า ให้สิทธิพิเศษแก่คุณดังนี้ บริการผู้ดูแลส่วนตัวถึงบ้าน รวมไปถึงในต่างประเทศตลอด 24 ชั่วโมง ประกันอุบัติเหตุการเดินทาง เริ่มต้น 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถพักผ่อนในห้องรับรองพิเศษของสนามบินทั่วโลกรวมไปถึงสิทธิพิเศษแบบวีไอพี และส่วนลดมากถึง 75% จากโรงแรมกว่า 55,000 ทั่วโลก

VISA และ MasterCard ไม่ได้กำหนดเงื่อนไขให้กับบัตรเครดิต แต่ธนาคารจะเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่น ส่วนลด หรือเครดิตเงินคืน เป็นต้น

Master Card (มาสเตอร์การ์ด)

มาสเตอร์การ์ด คือองค์กรผู้ให้บริการเครือข่ายชำระเงินผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีบริการทั้งบัตรเครดิต และบัตรเดบิตเช่นเดียวกับวีซ่า มาสเตอร์การ์ด มีเครือข่ายมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก โดยที่มาสเตอร์การ์ดจะเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายชำระเงินที่นำเทคโนโลยีการชำระเงินมาเชื่อมโยงกันระหว่างธนาคารหรือสถาบันการเงินกับร้านค้าเพื่อให้ใช้ระบบดิจิตอลแทนการใช้เงินสดในการชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ โดยรวมแล้วมาสเตอร์การ์ดแทบไม่ต่างกับวีซ่าเลย ร้านค้าในประเทศไทยส่วนใหญ่รับบัตรเครดิตของมาสเตอร์การ์ด แต่ในบางประเทศ บางร้านค้าไม่รับบัตรเครดิตจากมาสเตอร์การ์ด อย่างไรก็ตาม มาสเตอร์การ์ดก็ยังให้สิทธิประโยชน์ที่คล้ายคลึงกับวีซ่า โดยบัตรของมาสเตอร์การ์ดนั้นมี 5 ประเภท ดังนี้

– MasterCard Standard ให้บริการช่วยเหลือตลอด 24 ชม. 7 วันทำการ และเงินสดฉุกเฉิน (MasterCard Global Service)

– MasterCard Gold ให้บริการผู้ช่วยเหลือระหว่างเดินทาง การช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน เช่นส่งน้ำมันฉุกเฉิน การเปลี่ยนยาง และอื่นๆ รวมไปถึงการบริการติดต่อสถานทูตในกรณีฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังให้บริการแพทย์และทนายความที่พูดภาษาไทยได้ด้วย

– MasterCard Platinum ให้บริการที่ช่วยคุ้มครองสินค้าที่คุณซื้อผ่านบัตรประเภทนี้ ในกรณีที่สินค้าสูญหายหรือถูกขโมย ภายใน 90 วัน (Purchase Assurance) นอกจากนี้ยังให้บริการผู้ช่วยเหลือระหว่างเดินทาง และให้บริการที่ปรึกษาด้านการเงินที่ช่วยจัดการการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมการด้านภาษี และบริหารจัดการเงินของคุณ

– MasterCard World จะมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่นมีที่ปรึกษาการเดินทางส่วนบุคคล, มีการคุ้มครองราคาเพิ่มเป็น 120 วัน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมเพิ่ม เช่นการอัปเกรดห้องพัก อาหารเช้าฟรี เป็นต้น

– MasterCard World Elite เป็นบัตรระดับสูงสุดของมาสเตอร์การ์ด มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์สูงสุดเช่นเดียวกัน เช่น การให้บริการส่วนลดสุดพิเศษจากร้านค้าที่ร่วมรายการส่วนลดสุดคุ้มสำหรับการจองตั๋วเครื่องบินและการล่องเรือ หรือแพ็กเกจท่องเที่ยวสำหรับวันหยุดพักผ่อนแบบเหนือระดับ

บัตรทั้งสองแบบ ต่างให้สิทธิประโยชน์กับคุณอย่างทั่วถึง

ไม่ว่าคุณจะมีบัตรเครดิตของวีซ่าหรือมาสเตอร์การ์ด คุณก็สามารถใช้บัตรเครดิตทั้งสองแบบได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะทั้งสองบัตรก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก ทั้งยังให้บริการทั่วทุกมุมโลกเช่นเดียวกัน เพราะทั้งวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดต่างก็ให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงินนั่นเอง ส่วนใครที่ต้องการบัตรเครดิตดี ๆ ให้ศึกษารายละเอียดของบัตรเครดิตจากธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้เลย

ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต

ประเภทของบัตรเครดิต

คู่มือยอดนิยมสำหรับบัตรเครดิต