การเคลมประกันรถจักรยานยนต์

การเคลมประกันรถจักรยานยนต์ มีกี่แบบ

สำหรับการเคลมประกันรถจักรยานยนต์ จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักด้วยกัน คือ เคลมกับ พ.ร.บ. และเคลมประกันบริษัทประกันรถจักรยานยนต์

1. การเคลม พ.ร.บ. ตามที่กฎหมายกำหนดรถทุกชนิดที่ใช้ขับขี่บนท้องถนนจะต้องมี พ.ร.บ. หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ในส่วนนี้เราจะต้องทำการเคลม พ.ร.บ. กับบริษัทที่เราได้ทำการซื้อ พ.ร.บ. ไว้
2. การเคลมประกันรถจักรยานยนต์ คือ ประกันที่เราได้ทำการซื้อเพิ่มเติม เพื่อให้ได้การคุ้มครองที่มากกว่าและครอบคลุมกว่าจาก พ.ร.บ. ที่เรามีอยู่แล้วเบื้องต้น หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ในส่วนนี้เราจะต้องทำการเคลมประกันกับบริษัทที่เราได้ทำการซื้อประกันรถจักรยานยนต์ไว้ ความแตกต่างในการคุ้มครองการเคลมประกันในแต่ละชั้น มีดังนี้
– ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น1 คุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี รับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองกรณีรถสูญหายและไฟไหม้ คุ้มครองกรณีรถลื่นล้มเองไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุและไม่มีคู่กรณี

– ในประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น2+ ไม่คุ้มครองกรณีรถล้มเอง และไม่มีคู่กรณี จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้สำหรับรถคันเอาประกัน

– ประกันรถจักรยานยนต์ ชั้น3+ ไม่คุ้มครองกรณีไฟไหม้และสูญหาย

ข้อแนะนำในการรับมืออย่างไรเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์

แน่นอนว่า “อุบัติเหตุ” คือเหตุที่เกิดโดยไม่คาดคิด และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่หากเมื่อเกิดขึ้นแล้ว และเราอยู่ ณ สถานการณ์ตรงนั้น สิ่งที่เราจะทำได้คือ “ตั้งสติ” และปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. ไม่เคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุ
2. บันทึกทะเบียนรถของคู่กรณี รวมถึงหมวดจังหวัด และรายละเอียดยี่ห้อ สีและรุ่นของรถ
3. ถ่ายรูปในที่เกิดเหตุ
4. โทรแจ้งประกันภัยหรือ 191 เพื่อแจ้งเหตุ
5. ถ้ามีผู้ได้รับบาดเจ็บให้ขอความช่วยเหลือจากบุคคลใกล้เคียงหรือนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงโดยเร็วที่สุด
6. โทรแจ้งเคลมอุบัติเหตุกับบริษัทประกัน

ลองคิดดูสิ ถ้าเราไม่ได้ทำประกันไว้ ในยามฉุกเฉินแบบนี้ เหมือนเราต้องเผชิญหน้ารับมือเพียงลำพัง แต่หากเรามีประกันรถจักรยานยนต์ อย่างน้อยๆ ก็จะมีคนคอยช่วยประสานงานหรือให้คำแนะนำ ระหว่างรอให้เจ้าหน้าที่เคลมประกันเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ