สถานที่ท่องเที่ยวความเสี่ยงต่ำจากเชื้อไวรัสโคโรนา
เที่ยวไทยอย่างปลอดภัย โอกาสติดเชื้อน้อย มีที่ไหนน่าไปบ้าง
เที่ยวไทยอย่างปลอดภัย โอกาสติดเชื้อน้อย มีที่ไหนน่าไปบ้าง
การท่องเที่ยวแบบ New Normal ในยุคโควิด-19 นี้ถือเป็นมาตรการสำคัญที่ทุกภาคส่วนด้านการท่องเที่ยวต้องใส่ใจ เพราะไม่เพียงแต่คนในประเทศที่เฝ้ารอให้การท่องเที่ยวกลับมา แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ยังให้ความนิยมแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย และพร้อมที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยอีกครั้ง ดังนั้นเราต้องเตรียมความพร้อมที่จะรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติในวิถี New Normal โดยยกระดับมาตรการด้านการท่องเที่ยวควบคู่กับด้านสาธารณสุข ใส่ใจเรื่องความสะอาด ถูกสุขอนามัย คำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ในการลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อโรคโควิด-19 รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจและรู้สึกว่าประเทศไทยมีความปลอดภัย
จุดหมายการเดินทางท่องเที่ยวที่น่าไปในตอนนี้คือ การท่องเที่ยวภายในประเทศ เพราะคงอีกนานกว่าจะได้เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างสะดวกสบายอิสรเสรี ไม่ต้องเผชิญอุปสรรคถูกกักตัวตรวจโรค ทั้งต้องคอยหวาดระแวง ระวังหน้าพะวงหลัง เพราะผู้คนต่างห่วงกังวลคนใกล้ตัวติดเชื้อโคโรนาไวรัสหรือโรคโควิด-19 ดังนั้นการเที่ยวปกติในวิถีใหม่ ควรไปในสถานที่คนไม่พลุกพล่านมาก มีอากาศถ่ายเทสะดวก เน้นสถานที่ท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ การทำกิจกรรมกลางแจ้ง การท่องเที่ยวธรรมชาติ เดินป่า แคมป์ปิ้ง เป็นต้น เรามาดูลิสต์รายชื่อจังหวัดต่อไปนี้ เผื่อจะเป็นไอเดียให้คุณผู้อ่านอยากจะเดินทางไปท่องเที่ยว ได้แก่
สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของจ.เลย คงหนีไม่พ้นอุทยานแห่งชาติภูกระดึง โดยช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือช่วงเปิดภูจะอยู่ในช่วง 1 ตุลาคม – 31 พฤษภาคมของทุกปี ถือเป็นการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติที่หลีกหนีจากเชื้อไวรัสโคโรนาได้ดี เพราะได้เดินป่าสำรวจธรรมชาติ หากไปที่ไม่ใช่ช่วงพีคจนเกินไป ผู้คนก็จะไม่แออัด ด้วยพื้นที่ที่กว้างทำให้ผู้คนมีการกระจายตัวกัน อากาศข้างบนเย็นสบาย อีกหนึ่งสถานที่ที่เมื่อไปเลยแล้วต้องไปคือ เชียงคาน เมืองเล็กๆ สงบๆ ริมแม่น้ำฝั่งโขง ถ้าไม่ตรงกับเสาร์-อาทิตย์ ผู้คนก็ไม่เยอะมาก มีวัฒนธรรมตักบาตรข้าวเหนียว รวมถึงสถานที่สวยงามใกล้เคียง เช่น ภูทอก
“เที่ยวธรรมชาติมากขึ้น เที่ยวห้างน้อยลง”
อีกจังหวัดที่ใกล้กรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง คือ จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีสถานที่ให้ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งแนวธรรมชาติ และแนวประวัติศาสตร์ ได้แก่ สะพานข้ามแม่น้ำแคว สุสานทหารสัมพันธมิตร ทางรถไฟสายมรณะ สะพานมอญ หมู่บ้านอีต่องปิล็อกที่อากาศหนาวเย็นทั้งปี เนินช้างศึก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เขื่อนศรีนครินทร์ ต้นจามจุรียักษ์ หรือถ้าใครเป็นสายเดินป่าสามารถไปเขาช้างเผือกในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนมกราคมของทุกปี ทั้งนี้วันที่แน่นอนในการเปิดให้ท่องเที่ยวต้องเช็กกับทางอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิอีกครั้งหนึ่ง เพราะต้องทำการจองล่วงหน้า จะมีเจ้าหน้าที่นำเดิน ด้วยความที่สถานที่ท่องเที่ยวของกาญจนบุรี กระจายอยู่ทั่วจังหวัด ทำให้สภาพการท่องเที่ยวไม่หนาแน่นถ้าเทียบกับปริมาณพื้นที่ จึงเหมาะที่จะเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่มีความเสี่ยงต่ำของการแพร่กระจายไวรัสโคโรนา
ท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย หายห่วงตลอดทริป มีประกันช่วยดูแล
จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับสมญานามว่า “เมืองสามหมอก” เนื่องจากสภาพของดินฟ้าอากาศของเมืองที่มีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี พื้นที่เป็นที่ราบลุ่ม หุบเขา ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา สถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นของแม่ฮ่องสอนที่ได้รับสมญานาม “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” คือ “ปางอุ๋ง” ซึ่งมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” เป็นโครงการในพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่9และพระราชินีในพระองค์ มีพื้นที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ณ บ้านรวมไทย ทั้งยังมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยประมาณ 1,200 เมตร แต่เดิมเป็นพื้นที่ปลูกฝิ่น ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามบริเวณโดยรอบเป็นป่าสน ทุกเช้าจะละอองหมอกฟุ้งละล่องลอยอยู่บนผิวน้ำ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมวิวช่วงเช้าตั้งแต่ 5.30-7.30 น. อากาศหนาวเย็น ช่วงเย็นก็สามารถชมอาทิตย์ตกได้อย่างโรแมนติก นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ได้แก่ สะพานชูตองเป้ ภูโคลน หมู่บ้านรวมไทยซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานที่อพยพมาในสมัยอดีต หมู่บ้านจ่าโบ่ ปาย พระธาตุดอยกองมู วัดจองคำ-จองกลาง หรือจะไปดูทุ่งดอกบัวตองที่ดอยแม่อูคอที่จะบานเต็มภูเขาช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวความเสี่ยงต่ำจากเชื้อไวรัสโคโรนาที่สุดท้ายที่จะแนะนำคือ จ.น่าน เป็นการท่องเที่ยวเมืองรองที่ควรไป ด้วยวัฒนธรรมและธรรมชาติ ตลอดจนการเดินทางตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่สามารถเดินทางได้เป็นเส้นวงกลม ผ่านถนนลอยฟ้าเส้นต่างๆ เหตุที่ได้ชื่อถนนลอยฟ้า เพราะเป็นถนนที่ตัดผ่านภูเขา เป็นถนนหุบเขาที่สวยที่สุดในประเทศไทย นับจากอำเภอเมืองน่าน ที่สามารถท่องเที่ยวตามสถานที่วัฒนธรรมต่างๆ เช่น วัดภูมินทร์ พระธาตุแช่แห้ง วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ซึ่งจะมีซุ้มต้นลีลาวดีที่เป็นอุโมงค์โน้มเข้าหากันอย่างสวยงาม และเมื่อเราเดินทางถนนลอยฟ้าจะท่องเที่ยวได้ตั้งแต่กิ่วม่วง, ถนนลอยฟ้าโค้งหมายเลข3, หมู่บ้านสะปัน, อ.บ่อเกลือ, จุดชมวิว1715, อุทยานแห่งชาติดอยภูคา,อ.ปัว นอกจากนี้ยังมีดอยเสมอดาวที่อ.นาน้อย ที่คนนิยมไปกางเต็นท์ดูดาวกัน
เป็นไงกันบ้าง สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ทาง Tadoo นำมาฝาก อย่าลืมว่าท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal ห่างไกลโรคโควิด-19 หรือเชื้อไวรัสโคโรนา ใส่ใจสุขอนามัยและความปลอดภัย ที่สำคัญควรทำประกันเดินทางและประกันโควิด-19 เพื่อคุ้มครองตลอดเส้นทางการท่องเที่ยวของคุณ