Connect with us

อยากมีรถเก่าคลาสสิค ต้องรู้อะไรบ้าง

ต่อให้เป็นรถเก่าคลาสสิค หากยังทำประกันรถยนต์ได้ก็ควรทำ ขับอวดโฉมความคลาสสิค พร้อมมีประกันดูแล

รถเก่าคลาสสิค

รถเก่าคลาสสิคเป็นรถที่สวย มีเสน่ห์ แต่การใช้รถแบบนี้ควรเป็นรถคันที่ 2 ของบ้าน เพราะถึงแม้จะดูแลดีเพียงใดก็ตาม ก็มีโอกาสเสียได้อีก เพราะด้วยอายุการใช้งานของรถที่มีมานานแล้ว อะไหล่บางชิ้นหายาก เครื่องยนต์ต้องการน้ำมันเบนซิน 95 อยากมีรถแบบนี้ ต้องมีที่จอดดีๆ เพราะปัญหาของรถเก่าคลาสสิคบางอย่างก็ใช่ว่าจะสามารถซ่อมจนจบได้ เช่น สีรถ โดนแดดโดนฝนจะอยู่ได้ไม่นาน การเลือกรถเก่าคลาสสิค ควรเลือกยี่ห้อและรุ่นที่ราคาไม่ตก เวลาที่ต้องการขายต่อจะได้ไม่ช้ำใจ และบางคันเมื่อขายไปอาจจะได้กำไรแถมมาอีกด้วย

จุดเด่น

  • ทำความเข้าใจข้อดีข้อเสียของการใช้รถเก่าคลาสสิค
  • ศึกษาข้อมูลก่อนทำการซื้อรถเก่าคลาสสิค
  • เงื่อนไขของประกันรถยนต์บางประเภทไม่รับรถที่เก่าเกินไป

ข้อควรทำก่อนซื้อรถเก่าคลาสสิค

นอกจากการเก็บเงินและเลือกซื้อรถเก่าคลาสสิคแล้ว มีปัจจัยอื่นที่ทาง Tadoo อยากแนะนำ สำหรับคนที่กำลังมองหารถเก่าคลาสสิคสักคันเพื่อประกอบการตัดสินใจ

1. วางแผนทั้งก่อนและหลังการซื้อ – ก่อนการซื้อ เราจะมีวิธีซื้อรถเก่าคลาสสิคอย่างไร ซึ่งจะแบ่งการซื้อออกเป็น 2 วิธีดังนี้
– ซื้อแบบมือสองสภาพสวย ถือเป็นทางเลือกของคนส่วนมาก 90% นิยมใช้วิธีนี้ เพราะสามารถจ่ายเงิน และขับรถออกไปได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาไปซ่อมรถอยู่ ทั้งนี้ควรตรวจสอบรถคันที่เราจะซื้อให้ดีก่อนตกลงซื้อขาย เพื่อป้องกันการโดนโกงเกิดขึ้น
– ซื้อแบบมือสองสภาพพัง วิธีนี้ส่วนมากจะเป็นทางเลือกของนายช่าง หรือคนที่ชอบโมดิฟายรถเก่าคลาสสิคเหล่านี้ให้ดูเท่ขึ้นไปอีก วิธีที่เลือกซื้อเราเก่ามาแต่งเพิ่มเองจึงตอบโจทย์มากกว่า กับอีกกลุ่มหนึ่งที่เลือกวิธีนี้คือเป็นผู้มีงบน้อยและไม่อยากเสียเงินเยอะในตอนแรก

นอกจากเรื่องของงบประมาณแล้ว การที่เราวางแผนหาอู่ประจำ หรือช่องทางการสั่งอะไหล่ไว้แต่ต้น จะช่วยให้เราขับขี่รถเก่าคลาสสิคของเราได้อุ่นใจตลอดเส้นทาง

2. เรียนรู้วิธีรักษาดูแลรถด้วยตัวเอง – นอกจากหาอู่ประจำและช่องทางการสั่งอะไหล่เตรียมไว้ให้รถเก่าคลาสสิคของเราแล้ว การที่เรารู้จักศึกษาในเรื่องของการดูแลรักษารถเก่าคลาสสิคของเราด้วยตัวเอง ก็ยิ่งช่วยยืดอายุการใช้งานรถเก่าคลาสสิคของเราออกไปนานยิ่งขึ้น ดังนั้นเราควรศึกษาข้อมูลการใช้งานให้ดี รวมทั้งการดูแลบำรุงรักษาด้วยตัวเอง

รถเก่าคลาสสิคทำประกันแบบไหนได้บ้าง

รถเก่าก็ทำประกันได้ ทั้งนี้มาดูความคุ้มครองและเงื่อนไขของประกันรถยนต์ทั้ง 3 ประเภท ดังนี้ ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันที่เหมาะกับทุกคนที่ไม่จำกัดงบประมาณ เพราะเบี้ยประกันแพง แต่ให้ความคุ้มครองได้ครอบคลุมสูงสุด คุ้มครองดูแลทุกอุบัติเหตุที่เกิดจากรถชนรถ ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองซ่อมทั้งรถเขารถเรา และยังดูแลการชนที่คู่กรณีที่ไม่ใช่รถด้วย เช่น การชนเสาไฟฟ้า ชนรั้วบ้าน ครูดฟุตบาท เป็นต้น รวมทั้งรับประกันรถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม

เงื่อนไข : การรับประกันรถของประกันรถยนต์ชั้น 1 รับประกันรถที่มีอายุสูงสุดไม่เกิน 10 ปี

“รถเก่าคลาสสิคต้องดูแลหลายอย่าง ตัดสินใจให้ดีก่อนทำการซื้อ”

ประกันรถยนต์ชั้น 2/2+

ประกันรถยนต์ชั้น 2/2+ เป็นประกันที่เหมาะสำหรับคนที่จำกัดงบประมาณรองลงมา เบี้ยประกันถูกกว่าชั้น 1 แต่คุ้มครองเทียบเท่าชั้น 1 ข้อแตกต่างคือเคลมรอบคัน หรือเคลมการชนที่ไม่มีคู่กรณีไม่ได้ จึงเหมาะกับคนที่มีประสบการณ์ความชำนาญในการขับขี่พอสมควรแล้ว

เงื่อนไข : การรับประกันรถของประกันรถยนต์ชั้น 2/2+ รับประกันรถที่มีอายุ 4 ปีขึ้นไป

มนต์เสน่ห์รถคลาสสิค ขับรถคู่ใจ ปลอดภัย มีประกันช่วยดูแล

ประกันรถยนต์ชั้น 3/3+

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ เป็นประกันที่เหมาะกับคนที่ต้องการเบี้ยประกันแบบประหยัด ใช้รถไม่ค่อยบ่อย คุ้มครองอุบัติเหตุรถชนรถ ซ่อมทั้งรถเขารถเรา แต่ไม่คุ้มครองรถหายและไฟไหม้ และน้ำท่วม

เงื่อนไข : การรับประกันรถของประกันรถยนต์ชั้น 3+ รับประกันรถที่มีอายุ 4-15 ปีขึ้นไป

ประกันรถยนต์ชั้น 3 เป็นประกันที่มีเบี้ยประกันถูกที่สุดเหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณน้อย การคุ้มครองก็น้อยที่สุดเช่นกัน เน้นคุ้มครองซ่อมรถให้แต่คู่กรณีเท่านั้น เหมาะกับรถยนต์ที่เก่า และรถตกรุ่นแล้ว

วิธีดูแลรถเก่าคลาสสิค

รถคือยานพาหนะที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เราในการเดินทางไปไหนมาไหน แต่สำหรับรถเก่าคลาสสิคสำหรับบางคนนั้นถือเป็นรถที่มีคุณค่าทางจิตใจด้วย การบำรุงดูแลรักษาจึงเป็นเรื่องสำคัญ ทางTadoo มีวิธีดูแลรักษารถเก่าคลาสสิคของคุณเพื่อยืดอายุใช้งานไปได้นานๆ ดังนี้

1. ตรวจเช็ครถตามตารางซ่อมบำรุงเป็นประจำ
ถ้าหากเป็นที่เก่ามากและไม่ได้มีคู่มือตารางซ่อมบำรุงติดมาด้วย เวลานำรถไปตรวจเช็ค ก็ควรจดไว้ด้วยว่าคุณได้ทำอะไรไปบ้าง รวมถึงเก็บใบเสร็จการตรวจเช็คต่างๆไว้ในกรณีที่ต้องขายรถเก่าของเรา ลูกค้าจะได้เชื่อใจและติดตามตารางการตรวจเช็คต่อได้ หรือเดี๋ยวนี้จะลองใช้แอปเพื่อติดตามเลขไมล์และตารางตรวจเช็คก็สามารถทำได้ เช่น แอป aCar หรือ Car Maintenance Reminder เพราะหากเราตรวจพบปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้แก้ไขได้ทันไม่ส่งผลบานปลาย

2. เช็คของเหลวในเครื่องให้เป็นกิจวัตร
ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำยาแอร์ และน้ำมันหล่อลื่น ควรตรวจเช็คไม่น้อยกว่าเดือนละครั้ง สำหรับของเหลวที่สามารถเติมเองได้ เช่น น้ำมันเครื่องและน้ำในหม้อน้ำ หากตรวจเช็คว่ามีปริมาณน้อยลงแล้วก็สามารถทำการเติมเองได้เลย

3. ระมัดระวังเวลาขับรถ และคอยสังเกตเสียงเครื่องยนต์
วิธีการขับรถก็ส่งผลต่ออายุของรถเช่นกัน เช่น เปลี่ยนเกียร์เร็วเกินไป บรรทุกของหนักเกินไป ก็จะยิ่งทำให้สภาพรถของคุณทรุดโทรมเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นเพื่อยืดอายุการใช้งานของรถคุณ ควรขับรถให้นิ่มที่สุด อย่าเปลี่ยนเกียร์ เบรก หรือหมุนพวงมาลัยเร็วเกินไป เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักเกินไป นอกจากนี้ควรฟังเสียงรถยนต์คุณด้วยว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่ ทั้งเสียงกระตุก เสียงครืดคราด เพราะเสียงเหล่านี้เป็นตัวบ่งบอกว่ารถของคุณกำลังมีปัญหาบางอย่าง

4. หมุนเปลี่ยนยางและเช็คลมยางเป็นประจำ
ควรตรวจเช็คลมยางให้ได้ทุกๆ 2 อาทิตย์ และควรหมุนสลับเปลี่ยนยางหน้าหลังเมื่อวิ่งไปได้ทุกๆ 6,000-8,000 ไมล์

5. ล้างและเคลือบเงารถเป็นประจำ
ล้างทุก 2 อาทิตย์, เคลือบเงา 3-4 ครั้ง/ปี เพื่อรถเก่าคลาสสิคของคุณจะได้ดูใหม่ มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ

ผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์

ประเภทของประกันรถยนต์

คู่มือยอดนิยมสำหรับประกันรถยนต์