สำรองจ่ายค่าซ่อมก่อนแล้วเคลมภายหลัง
เรื่องที่ควรพิจารณาในการซ่อมรถที่ต้องสำรองจ่ายเงินไปก่อนแล้วทำการเคลมประกันภายหลัง
เรื่องที่ควรพิจารณาในการซ่อมรถที่ต้องสำรองจ่ายเงินไปก่อนแล้วทำการเคลมประกันภายหลัง
สำหรับการซ่อมรถที่เราต้องสำรองจ่ายค่าซ่อมเองก่อน แล้วไปเบิกเคลมกับบริษัทประกันภายหลัง คือ การซ่อมรถกับอู่นอกเครือบริษัทประกัน ซึ่งอู่นอกเครือบริษัทประกัน คืออู่ที่ไม่ได้อยู่ในการรับรองของบริษัทประกันที่ทำไว้ ซึ่งอาจเป็นอู่ซ่อมรถใกล้บ้านผู้ขับขี่ หรือเป็นอู่ที่ผู้ขับขี่ประสงค์จะนำเข้าซ่อมเองหรือเป็นอู่ที่มีคนแนะนำว่าทำดี ฯลฯ ในกรณีซ่อมอู่ที่อยู่นอกเครือประกันแบบนี้ ผู้เอาประกันจะต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน จากนั้นจึงนำใบเสร็จไปเบิกกับบริษัทประกันภายหลัง
การซ่อมอู่ จะมี 2 แบบ คือ อู่ในเครือบริษัทประกันซึ่งการซ่อมแบบนี้ไม่ต้องสำรองจ่าย ยกเว้นการจ่ายเงินเพิ่มเติมในกรณีที่ต้องซ่อมนอกเหนือจากที่ตกลงกับบริษัทประกันเอาไว้ และอู่นอกเครือบริษัทประกันสำหรับการซ่อมอู่นอกเครือบริษัทอย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่า ต้องสำรองเงินจ่ายก่อนแล้วเบิกเคลมภายหลัง ซึ่งการซ่อมอู่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ดังนี้
ข้อดีของการซ่อมอู่
– ค่าเบี้ยประกันถูกกว่าซ่อมห้าง
– สามารถต่อรองราคาได้ง่ายกว่า
– ระยะเวลาซ่อมไม่นานเท่าซ่อมห้าง
ข้อเสียของการซ่อมอู่
– อะไหล่ที่ใช้อาจไม่ใช่ของแท้ หรือโดนโกงค่าอะไหล่
– หากมีปัญหาหลังซ่อม บางอู่อาจไม่รับผิดชอบ
– งานซ่อมอาจออกมาไม่สวยสมบูรณ์ ไม่เนี้ยบ
กรณีที่จำเป็นต้องนำรถเข้าไปซ่อมที่อู่นอกเครือบริษัทประกัน อาจจะไม่สามารถซ่อมได้ทันที เพราะต้องให้ทางอู่ตีราคาค่าซ่อมตามความเสียหายต่าง ๆ ในใบเคลมก่อน แล้วจึงให้ทางบริษัทประกันคุมราคาว่าสามารถรับผิดชอบตามนั้นได้หรือไม่ การคุมราคานี้จะออกมาได้ 2 แนวทาง คือ
1. แนวทางแรก คือทางประกันรถเป็นผู้รับผิดชอบตามราคาที่เสนอมา (ซึ่งปกติกรณีนี้มีน้อยมาก ๆ)
2. แนวทางที่สอง ประกันจะคุมราคาโดยการให้ต่ำกว่าราคาที่เสนอมา
ดังนั้น หากคุณเลือกซ่อมรถกับอู่นอก แต่ทางบริษัทประกันคุมราคาให้คุณต่ำกว่าค่าเสียหายจริงมาก กรณีนี้คุณจะต้องเป็นคนจ่ายส่วนต่างที่เหลือเอง นอกจากนี้เมื่อซ่อมรถเสร็จแล้วคุณต้องสำรองเงินจ่ายให้กับอู่ไปก่อน แล้วค่อยนำรถเข้าไปที่บริษัทประกันเพื่อทำการตรวจสอบสภาพว่ามีการซ่อมมาเรียบร้อยแล้ว คุณจึงสามารถเบิกเงินคืนได้
“พิจารณาข้อดีข้อเสียของการเลือกซ่อมรถกับอู่นอกเครือบริษัทประกัน”
ในการเบิกค่าซ่อมรถคืนจากการซ่อมกับอู่นอกเครือบริษัทประกัน คุณสามารถเบิกค่าซ่อมคืนโดยการนำรถประกัน เอกสารรายละเอียดการซ่อม การอนุมัติราคา พร้อมเอกสารประจำตัว มาติดต่อที่สำนักงาน หรือสาขาของบริษัทประกัน ซึ่งมีรายละเอียดเอกสารหรือข้อมูลประกอบเพิ่มเติม ดังนี้
1. สำเนาบัตรประชาชนผู้เอาประกัน
2. สำเนาใบอนุญาตขับขี่ ผู้ขับขี่รถประกัน
3. หนังสือมอบอำนาจ
4. สำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ
5. สำเนาทะเบียนรถ
6. สำเนากรมธรรม์(กรณีเป็นรถคู่กรณี)
7. ภาพถ่ายความเสียหาย
8. ภาพถ่ายขณะซ่อม
9. ภาพถ่ายซากอะไหล่
10. ภาพถ่ายตอนซ่อมเสร็จ
ต้องให้ทางบริษัทประกันทำเรื่องคุมราคาก่อนเสมอถึงทำการซ่อมรถกับอู่นอกเครือบริษัทประกันได้
ในการทำเรื่องเบิกค่าใช้จ่ายคืน หลังจากทางบริษัทประกันได้รับใบเสร็จ เอกสาร และหลักฐานต่าง ๆ แล้ว บริษัทประกันจะดำเนินทำเรื่องคืนค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถจ่ายคืนให้แก่คุณภายใน 15 วันทำการ
สำหรับบริการอื่น ๆ ที่อยู่ในกระบวนการซ่อมรถที่คุณอาจต้องสำรองเงินไปก่อนแล้วเบิกเคลมภายหลัง คือ การใช้บริการรถลากจูง เพราะไม่เสมอไปที่คุณจะได้รับบริการรถลากจูงที่จัดหาโดยบริษัทประกัน ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ประสบอุบัติเหตุ ในบางครั้งคุณอาจจะต้องติดต่ออู่ให้มายกรถ หรือลากรถของคุณเอง แต่การที่คุณทำประกันรถยนต์ไว้ ไม่ว่าจะประกันชั้น 1, 2+ และ 3+ ก็สามารถเคลมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ โดยบริษัทประกันจะต้องชดใช้ค่าขนย้าย และค่าดูแลรักษาในระหว่างที่ซ่อมด้วย ตามจำนวนที่จ่ายไปจริงแต่ไม่เกิน 20% ของค่าซ่อมแซม