Connect with us

เลือกซื้อรถมือสองอย่างไร

รถมือสองอาจมีราคาถูกกว่ารถใหม่ แต่ก็ควรเลือกอย่างระมัดระวัง ไม่ใช่เลือกอย่างไรก็ได้ ทาง Tadoo มีข้อแนะนำในการซื้อรถมือสองมาฝากกัน

หาข้อมูล

ข้อมูลคือสิ่งแรกที่เราต้องทำการบ้านในการซื้อรถมือสอง การหาข้อมูลรถรุ่นที่สนใจจึงเป็นประโยชน์มาก เพราะเราสามารถใช้ข้อมูลที่มีมาสังเกตลักษณะของรถ รวมถึงเปรียบเทียบ และคัดกรองจากประกาศแจ้งขายได้ก่อนที่เราจะทำการตัดสินใจไปดูรถคันจริง ทั้งยี่ห้อ รุ่นปี สี สภาพ สเปกและราคา หากไม่ตรงจากตอนเป็นรถใหม่ป้ายแดง อาจมีการดัดแปลงหรือซ่อมแซมสภาพมามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับรายละเอียดส่วนนั้น นอกจากนี้รถแต่ละรุ่นจะมีปัญหาเฉพาะหรือจุดบกพร่องที่แตกต่างกันไป หากมีข้อมูลรถรุ่นที่ต้องการมากพอ จะช่วยให้ตรวจสอบได้ง่ายตรงจุดขึ้น โดยเน้นเฉพาะส่วนที่เป็นสาระสำคัญหรือมีค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูสูง เพราะธรรมชาติของรถมือสองย่อมเสื่อมสภาพได้ตามการใช้งาน

จุดเด่น

  • รถมือสองมีวิธีเลือกอย่างไรไม่ให้พลาด
  • ข้อมูลยิ่งแน่น ยิ่งช่วยให้ซื้อรถมือสองได้ง่ายขึ้น
  • สังเกตรายละเอียดเล็กน้อยจะบอกอะไรได้มาก

เช็คสภาพภายนอก

สภาพตัวถัง คือส่วนสำคัญที่ผู้ซื้อรถมือสองต้องตรวจเช็คดู ดังนั้นควรสังเกตจากหลาย ๆ จุด ดังนี้

– สี เพราะคุณภาพการพ่นสีจากโรงงานกับอู่สีจะแตกต่างกัน ซึ่งการซ่อมแซมเพื่อขายหรือใช้งานทั่วไปมักไม่ลงทุนมาก ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นความแตกต่าง เช่น ความเพี้ยน เนื้อและผิวของสี รอยเปื้อนจากการพ่นที่เก็บงานไม่เรียบร้อย ความไม่เรียบของผิวตัวถังจากงานโป๊ว เป็นต้น

– โครงสร้าง รอยเชื่อมตะเข็บตัวถัง หัวนอต ระยะห่างของร่องตัวถัง ทั้งหมดจะฟ้องหากมีการซ่อมแซม ให้พยายามสังเกตในจุดหลักที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้บ่อยก่อน เช่น ห้องเครื่องด้านหน้า ท้ายรถให้ดูใต้พรมด้วย ซึ่งงานจากโรงงานจะเรียบร้อยเพราะใช้หุ่นยนต์ในการเชื่อม หัวนอตตามจุดต่าง ๆ เช่น ฝากระโปรงไม่ควรมีการถอดหรือการขยับ

– เลขแชสซีส์ ต้องตรงกับเล่มทะเบียน อีกทั้งบริเวณดังกล่าวไม่ควรมีร่องรอยการแก้ไข เชื่อม ตัด หรือผุ มักทำในกรณีชนหนักหรือคว่ำ รวมถึงเลขตัวถังในรถบางยี่ห้อ บางรุ่น ยังบอกรุ่นปี สเปกจากโรงงานได้ด้วย

– ควรดูรถในเวลากลางวัน เพราะจะได้มองเห็นตัวรถได้ชัดเจน ควรตรวจสอบสภาพภายใต้แสงที่หลากหลาย จะได้เห็นความแตกต่างหากมีการซ่อมสีที่มาตรฐานไม่สูงหรือกรณีที่ไม่ได้พ่นมาทั้งคัน

เช็คสภาพภายใน /เช็คการทำงานของอุปกรณ์

สภาพภายในห้องโดยสาร แน่นอนว่ารถที่ภายในไม่เรียบร้อย มีรอยฉีกขาด แกะ แงะ หรือชิ้นส่วนแตกหัก ย่อมมีความเสี่ยงกว่ารถที่สภาพเรียบร้อยแบบเดิม ๆ นอกจากนี้สภาพภายในของรถยนต์มือสองยังสามารถบอกอะไรได้หลายอย่าง เช่น รถจมน้ำมาหรือไม่ ทั้งจากกลิ่นอับชื้น รา หรือคราบสนิมที่ไม่ควรเกิดในจุดนั้น ทั้งนี้สภาพความสมบูรณ์ของห้องโดยสารควรสัมพันธ์กับเลขไมล์ เช่น การสึกหรอ ความเสื่อมสภาพของเบาะ พวงมาลัย ปุ่ม แป้นหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ควรพอดีกัน หากทรุดโทรมหรือดูใหม่กว่าเลขไมล์แบบเกินจริง ให้สงสัยว่าอาจมีการปรับเลขไมล์หรืออาจผ่านการซ่อมแซมมาแล้ว

เช็คการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยตรวจสอบอุปกรณ์และฟังก์ชันพื้นฐานว่ามีครบล้วน และใช้งานได้ดี รวมถึงควรเช็คสภาพตั้งแต่ระบบไฟ กระจกหน้าต่าง ระบบอำนวยความสะดวกทั้งหมดที่มี ทั้งนี้ในส่วนของระบบความปลอดภัยที่ตรวจสอบยาก เช่น Airbag หรือ ABS หากเปิดสวิตช์ในตำแหน่ง ACC ON แล้วควรปรากฏไฟโชว์และดับลงเมื่อสตาร์ต ถ้ายังติดแสดงว่าระบบนั้น ๆ อาจมีปัญหา แต่ถ้าไม่ติดตั้งแต่แรกเลย ให้สงสัยไว้ก่อนว่าระบบนั้นอาจถูกตัดการแจ้งเตือนไปไม่ให้โชว์ความบกพร่องก็ได้

“สภาพภายในห้องโดยสารบ่งบอกวิธีดูแลรักษารถของเจ้าของคนก่อน”

เช็คเครื่องยนต์ / ทดลองขับ

การเช็คสภาพเครื่องยนต์ – ลองสตาร์ตเครื่องยนต์ เปิดการทำงานระบบต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบ โดยปกติแล้วควรทำงานได้เรียบ นิ่ง ไม่สะดุด ไม่มีเสียงหรือกลิ่นผิดปกติ สิ่งเหล่านี้สามารถบ่งบอกความไม่สมบูรณ์ได้

การทดลองขับ – เทคนิคอย่างหนึ่งคือหากรถมือสองที่คุณจะซื้อ ยังมีขายในโชว์รูม ให้ไปลองขับรถใหม่ก่อนเพื่อเปรียบเทียบว่ารถที่สมบูรณ์นั้นเป็นอย่างไร
ถ้าผู้ขายรถยนต์มือสองไม่ให้ทดลองขับ ไม่ว่าจะด้วยเงื่อนไขใด ๆ ต่อให้รถดูสวย ถูกใจแค่ไหนก็ไม่ควรซื้อ เพราะการทดลองขับเป็นเรื่องจำเป็นมากสำหรับรถมือสอง เพื่อจะได้สังเกตการทำงานของเครื่องยนต์ การทำงานของเกียร์ ระบบกันการสะเทือน ระบบบังคับเลี้ยว ไม่ควรมีเสียงหรือการตอบสนองที่ผิดปกติ

ทดลองขับรถยนต์มือสองไม่ได้ ไม่ควรซื้อโดยเด็ดขาด

ตรวจสอบเอกสาร

เมื่อได้รถคันที่ถูกใจแล้ว ขั้นตอนต่อมา คือการตรวจสอบเอกสาร ควรเช็กดังนี้

– เล่มทะเบียน เล่มทะเบียนต้องมีความถูกต้อง รายละเอียดตรงกับรถที่จะซื้อ เช่น ใครเป็นเจ้าของ เลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ หากมีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ ดัดแปลงสภาพ แจ้งขนส่งฯ หรือยัง ถ้ายังต้องมีใบแนบการซื้อเครื่องยนต์ด้วย

– เอกสารการซื้อขาย ผู้ขายเตรียมให้ครบถ้วนหรือไม่ เช่น หนังสือสัญญาซื้อขาย สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขาย พร้อมหลักฐานต่าง ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ตรวจดูรหัสเครื่องยนต์ เลขทะเบียนรถด้วยว่าตรงกันทุกจุดหรือไม่

การต่อราคาและชำระเงิน

ผู้ซื้อสามารถต่อราคาได้ แต่ควรต่อรองตามความเหมาะสม โดยอ้างอิงจากสภาพรถและประสิทธิภาพการใช้งานจริง การชี้ในจุดที่บกพร่องเป็นเรื่องสำคัญ ส่วน รอยขนแมว รอยขีดข่วนเล็กน้อย หรือการเสื่อมสภาพจากการใช้งานปกติ อาจเกิดขึ้นได้สำหรับรถมือสอง ทั้งนี้ภาพรวมต้องเหมาะสมกับราคารถที่ตั้งไว้

เมื่อตกลงราคากันได้และชำระเงินเรียบร้อย จะมัดจำหรือทั้งหมดก็ตาม ควรเก็บหลักฐานไว้ให้ครบ หากมีการตกลงใด ๆ ที่เป็นสาระสำคัญในการซื้อขาย ให้ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติมลงไปให้ครบ เพราะหลักฐานที่ระบุชัดเจนจะเป็นประโยชน์อย่างมากหากพบว่ารถมีปัญหาภายหลัง เผื่อเจอปัญหารายละเอียดที่ไม่ตรงกันตามผู้ประกาศขายแจ้งไว้แต่แรก

และนี่เป็นคำแนะนำในการเลือกซื้อรถยนต์มือสองที่ทาง Tadoo นำมาฝาก ซื้อรถมือสองมาใช้งานแล้ว หากยังไม่มีประกันรถยนต์ สามารถเลือกซื้อผ่าน Tadoo ได้

ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับรถยนต์

ความคุ้มครองรถพังเสียหาย

เพิ่มเติม

ความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน

เพิ่มเติม

ความคุ้มครองรถสำหรับธุรกิจ

เพิ่มเติม

ประเภทของประกันรถยนต์

คู่มือยอดนิยมสำหรับรถยนต์