รีไฟแนนซ์คอนโดต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือไม่
ไม่ว่าจะเป็นการรีไฟแนนซ์บ้านหรือคอนโด เราจำเป็นต้องศึกษาเพื่อรู้รายละเอียดก่อน เพื่อความถูกต้องสมบูรณ์
ไม่ว่าจะเป็นการรีไฟแนนซ์บ้านหรือคอนโด เราจำเป็นต้องศึกษาเพื่อรู้รายละเอียดก่อน เพื่อความถูกต้องสมบูรณ์
การรีไฟแนนซ์คอนโด คือ การขอสินเชื่อก้อนใหม่จากสถาบันการเงินหรือธนาคารใหม่ก็ได้ เพื่อนำมาทดแทนก้อนเก่า หรืออธิบายง่ายๆ การกู้เงินก้อนใหม่มาโปะหนี้ก้อนเก่านั่นเอง โดยการรีไฟแนนซ์เอาทรัพย์สินไปเป็นหลักประกัน เช่น บ้าน ที่ดิน หรือคอนโด เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับทางธนาคารอีกด้วย
ในกรณีที่ต้องการรีไฟแนนซ์คอนโดนั้น จำเป็นต้องมีเอกสารเกี่ยวกับหลักประกันเพื่อจะได้ให้ทางธนาคารตรวจสอบว่าเป็นเอกสารจริงหรือเปล่า หรือ เอกสารเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้กู้จริงหรือเปล่า เอกสารหลักประกันที่สามารถรีไฟแนนซ์ได้ มีดังต่อไปนี้
1. สำเนาโฉนดบ้านหรือห้องชุด
2. หนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน (ท.ด. 13)
3. สัญญาจำนอง
เป็นสิ่งที่ต้องได้รับ ในวันทำสัญญาจะซื้อจะขาย เพื่อเป็นการยืนยันถึงการครอบครองกรรมสิทธิ์บ้านหรือห้องชุดนั้น โดยภายในสำเนาโฉนด จะต้องบอกรายละเอียดขนาดพื้นที่ของบ้านหรือห้องชุดนั้นด้วย
“การรีไฟแนนซ์คอนโดต้องตรวจสอบรายละเอียด เพื่อจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาดภายหลัง”
เอกสารสำคัญนี้ คือ ใบซื้อขายที่ดิน ซึ่งเจ้าของเดิมได้ทำนิติกรรม ณ กรมที่ดิน ไว้แล้ว โดยกรณีซื้อขายบ้านมือสอง จำเป็นต้องได้รับหนังสือดังกล่าว เนื่องจากธนาคารจะขอสำเนาพร้อมกับสัญญาจะซื้อจะขาย ในวันขอสินเชื่อ
นอกจากเอกสารที่อยู่ข้างต้นแล้ว ยังมีเอกสารที่ต้องใช้ในการรีไฟแนนซ์คอนโด ได้แก่ เอกสารส่วนตัว และเอกสารแสดงรายได้ จะใช้เพื่อให้ทางธนาคารประกอบการพิจารณาตัดสินใจในการอนุมัติ
จำนอง คือ สัญญากู้เงินชนิดหนึ่ง ที่ใช้หลักประกันเป็นอสังหาริมทรัพย์ (เช่น โฉนดที่ดิน,บ้าน,โรงเรือน,สิ่งปลูกสร้าง เป็นต้น) โดยสัญญา จำนอง นี้จะต้องไปทำต่อหน้าเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน เท่านั้น
1. ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์และสินเชื่อหรือโปรโมชั่นการรีไฟแนนซ์ของธนาคารต่างๆให้ดีก่อน อาจจะเริ่มศึกษาข้อมูลเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่เราเริ่มผ่อนคอนโดใหม่ๆเลยก็ได้ จะได้มีระยะเวลาในการตัดสินใจ
2. สังเกตการปล่อยโปรโมชั่นกับอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร หรือตอนที่เราจะรีไฟแนนซ์แล้วก็ลองหาข้อมูลดูหลายๆ ที่ หลายๆ สถาบันการเงิน
3. เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขและโปรโมชั่นที่ได้ประโยชน์และคุ้มค่ากับเรามากที่สุด
4. เพื่อป้องกันการโดนปรับการชำระหรือปิดสินเชื่อก่อนกำหนด จึงควรผ่อนคอนโดไปก่อนอย่างน้อยๆ 3 ปี แล้วค่อยทำเรื่องรีไฟแนนซ์คอนโด หรืออาจจะลองคำนวณระยะเวลาที่เหมาะสมกับสินเชื่อของเราดูก็ได้