Connect with us

งานของคุณมีผลต่อประกันรถยนต์

งานที่คุณทำอยู่มีผลต่อการซื้อประกันรถยนต์หรือไม่ แล้วจะมีผลอย่างไร

อาชีพและการใช้รถส่งผลต่อประกันรถยนต์

อาชีพและการใช้รถส่งผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์นั่นเอง อาชีพและการใช้งานรถเพื่อเชิงพาณิชย์ในการทำประกันรถยนต์จะเสียค่าเบี้ยประกันแพงกว่า เพราะบริษัทประกันมองว่ามีความเสี่ยงมากกว่า และในการซื้อแพ็กเกจประกันรถยนต์ถ้าซื้อแล้วใช้งานรถผิดประเภทมีสิทธิ์ที่ประกันจะไม่คุ้มครอง ซึ่งถือว่าคุณทำผิดเงื่อนไขข้อตกลง สำหรับการใช้งานรถมี 2 ประเภทหลักดังนี้

การใช้งานรถยนต์ส่วนบุคคล คือ การใช้รถส่วนบุคคล ซึ่งมิได้ใช้ประกอบการขนส่งตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติรถยนต์ กล่าวคือ เป็นการซื้อรถเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ขับไปทำงานในวันทำงาน วันหยุดขับไปทานข้าวตามห้างสรรพสินค้าหรือพาครอบครัวไปเที่ยว เป็นต้น ซึ่งคนที่ใช้งานรถในลักษณะนี้ก็มีหลากหลายอาชีพ บางอาชีพก็ไม่ได้ทำงานกับรถโดยตรง เพียงเพื่อใช้รถเพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น

จุดเด่น

  • งานที่เราทำส่งผลต่อการใช้รถ
  • การใช้รถส่งผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์
  • เบี้ยประกันรถใช้เชิงพาณิชย์แพงกว่ารถใช้ส่วนบุคคล

การใช้งานรถยนต์เชิงพาณิชย์

การใช้งานรถยนต์เชิงพาณิชย์ คือ รถยนต์ที่ใช้เพื่อดำเนินการทางการค้า ยกตัวอย่างเช่น การขนส่งสินค้า การขนส่งวัสดุ วัตถุดิบ และอื่นๆ ที่ใช้ในการผลิต จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง เป็นรถยนต์ที่ใช้เพื่อการเช่าหรือใช้เพื่องานรับจ้างทั้งรับจ้างรับส่งผู้โดยสาร และรับจ้างอื่นๆ คนที่ใช้งานรถลักษณะนี้ย่อมมีอาชีพเกี่ยวกับรถโดยตรง พูดง่ายๆ คือคนขับรถ หรือใช้รถในการทำธุรกิจ หรือสังเกตได้จากอาชีพที่ยกตัวอย่างจากที่กล่าวไว้ข้างต้น

อาชีพแบบไหนบ้างที่ใช้รถในการทำงาน

รถ นอกจากจะเป็นยานพาหนะที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เราในการไปไหนมาไหนแล้ว ยังสามารถสร้างงานสร้างอาชีพให้กับเราได้ด้วย อาชีพที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ได้แก่
อาชีพที่ต้องขับขี่รถ

1. รับส่งสินค้า ไม่ว่าจะสินค้าอุปโภค บริโภค จะทำเองเป็นการส่วนตัวหรือทำงานให้กับบริษัท ซึ่งในปัจจุบันนี้มีบริษัทในการรับส่งสินค้าเกิดขึ้นมากมาย และมีกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย

2. ขับ Taxi /ขับ GRAB มีทั้งแบบทำเป็นงานเสริมและงานประจำ ทั้งนี้ต้องไปศึกษารายละเอียดของแต่ละบริษัทซึ่งมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไป การขับ GRAB อาจมีความเสี่ยงอยู่บ้างเรื่องโดนแท็กซี่เจ้าถิ่นหาเรื่องว่าแย่งลูกค้าซึ่งออกตามข่าวให้ได้เห็นอยู่บ่อยๆ

3. เปิดท้ายขายของ ไม่ว่าจะเปิดท้ายรถของตัวเองในการขายของ หรือบรรทุกของไปขายตามตลาดนัด ตลาดเปิดท้ายต่างๆ ไม่ว่าจะมีรถเก๋งหรือรถกระบะก็สามารถทำได้ทั้งนั้น
รับส่งพนักงาน/นักเรียน มีทั้งแบบทำเป็นธุรกิจส่วนตัวหรือสังกัดกับบริษัท ห้างร้าน โรงแรมต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นงานที่ต้องแบกรับหลายชีวิตไว้ในการขับขี่ของเรา ดังนั้นคนทำอาชีพเหล่านี้จะประมาทไม่ได้ เพราะความเสียหายอันใหญ่หลวงอาจตามมาได้

4. วิ่งรถรับจ้าง เช่น รถตู้รับจ้างที่มีการจ้างเหมาไปต่างจังหวัด รถกระบะหรือรถ 6 ล้อรับจ้างขนของในการย้ายบ้าน โดยส่วนมากคิดค่าบริการเป็นรายวัน ไม่รวมค่าน้ำมัน คนจะวิ่งรถรับจ้างต้องเป็นคนที่ชำนาญเส้นทาง มีใบอนุญาตขับขี่ประเภท ท.2 ใจเย็น และไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เวลาทำงาน

5. รถขายกับข้าว มีให้พบเห็นอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผักสด ผลไม้ เครื่องปรุง เครื่องเทศ หรือวัตถุดิบต่างๆ ส่วนมากเป็นรถกระบะ ข้อดีของรถขายกับข้าวคือสามารถวิ่งเข้าออกตามซอกซอยได้

6. เป็นเซลล์ขายของ เป็นคุณสมบัติหนึ่งที่เซลล์ต้องมี คือมีรถยนต์เป็นของตัวเอง หรือรถประจำตำแหน่ง เพราะไหนจะช่วยอำนวยความสะดวกในการไปไหนมาไหน และขนของไปเสนอหรือส่งให้ลูกค้า ยังทำให้ดูน่าเชื่อถืออีกด้วย

“เลือกประกันรถให้เหมาะสมกับการใช้งานรถและอาชีพของคุณ”

อาชีพที่ปล่อยรถให้เช่า

การปล่อยรถให้เช่า ถือเป็นธุรกิจหนึ่งต่อให้เราไม่ได้ขับขี่เอง แต่เราก็ต้องปล่อยเช่าให้กับคนมากมาย การปล่อยรถให้เช่าในปัจจุบันมีทั้งรายปี รายเดือนและรายวัน และมีการทำแบบรูปแบบออนไลน์ โดยการสั่งจองรถทางออนไลน์ไว้ก่อน แล้วถึงวันก็ค่อยไปรับรถ แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงเรื่องถูกลูกค้าเช่าไปแล้วหายเลย หรืออาจจะโดนสับเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ การทำประกันสำหรับคนทำอาชีพเกี่ยวกับรถเช่า จึงต้องเลือกให้ครอบคลุมกรณีรถหายด้วย

ทำประกันรถยนต์ลดความเสี่ยงค่าใช้จ่ายจากอุบัติเหตุ ให้รถนำเงินมาสู่คุณมากกว่าต้องเสียเงินไปเพราะรถ

อาชีพและการใช้งานรถส่งผลต่อค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

ในการเกิดอุบัติเหตุขึ้นแต่ละครั้งย่อมส่งผลเสียหายทั้งต่อตัวบุคคลและรถยนต์ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการซ่อมรถ จึงทำให้มีค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเกิดขึ้น ในการเคลมแต่ละครั้งเจ้าหน้าที่จะทำการสอบถามว่าคุณประกอบอาชีพอะไร เพื่อจะได้คำนวณค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถให้กับคุณ อีกทั้งปัญหาการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ เป็นปัญหาที่มียอดร้องเรียนมากเป็นอันดับ 1 เพราะในบางรายค่าเสียหายในส่วนการเดินทางมากกว่าค่าซ่อมรถเสียอีก เนื่องจากบริษัทประกันไม่ยอมจ่ายค่าขาดประโยชน์ ประชาชนขาดความรู้ หรือมีการจ่ายในอัตราที่ต่ำ จึงเป็นสาเหตุให้ต้องมีการปรับเกณฑ์ใหม่โดยนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ระบุว่า คปภ. ได้ข้อสรุปการปรับปรุงความคุ้มครองของค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ให้แก่เจ้าของรถยนต์ที่ทำประกันและอยู่ระหว่างนำรถไปเคลมซ่อมแล้ว โดยกำหนดจ่ายเป็นสามกลุ่ม ดังนี้

– รถยนต์ส่วนบุคคลขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง อัตราไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท
– รถยนต์รับจ้างสาธารณะขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง อัตราไม่น้อยกว่าวันละ 700 บาท
– รถยนต์ขนาดเกินกว่า 7 ที่นั่ง อัตราไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท

ทำประกันรถควรคำนึงถึงการใช้งานรถอย่างไร

การทำประกันรถยนต์ควรคำนึงถึงการใช้งานรถด้วยต้องให้ตรงกับการใช้งานจริง เพราะรถบางคันจดทะเบียนส่วนบุคคลแต่นำมาใช้งานรับจ้างหรือให้เช่า ซึ่งถ้าทำประกันส่วนบุคคลแล้วใช้งานรับจ้างก็จะเป็นการทำประกันผิดประเภทการใช้งาน บริษัทปฏิเสธความรับผิดชอบได้ แต่ถ้าทำประกันแบบรับจ้างแล้วนำรถมาใช้งานส่วนบุคคล ถือว่าไม่ผิดประเภท เนื่องจากประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์เบี้ยสูงกว่าแบบธรรมดา เพราะถ้าซื้อประกันในรหัสที่แพงกว่าแล้วก็ถือว่าครอบคลุมการใช้งานส่วนบุคคล ไม่ว่าจะทำอาชีพไหน หากสนใจประกันรถยนต์ เลือกผ่าน tadoo.co

ผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์

ประเภทของประกันรถยนต์

คู่มือยอดนิยมสำหรับประกันรถยนต์