Connect with us

สิ่งที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับประกันรถยนต์

หลายคนยังมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับประกันรถยนต์ เรามาทำความเข้าใจให้ถูกต้องกันดีกว่า

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับประกันรถยนต์

ยังมีหลายๆ คนที่มีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับประกันรถยนต์ โดยเฉพาะความคิดที่ว่ามีประกันรถยนต์แล้วยังไงประกันรถยนต์ก็จ่าย ทำให้คุณประมาทจะขับรถแบบไหนก็ได้โดยที่ไม่ได้มีความรอบคอบและระมัดระวัง Tadoo จึงได้รวบความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับประกันรถยนต์มาให้คุณอ่านและทำความเข้าใจใหม่กัน เพื่อที่คุณจะได้รับทราบข้อมูลที่ต้อง จากนั้นจะได้ตัดสินใจเลือกซื้อประกันในประเภทชั้นที่ตอบโจทย์รถและการใช้งานรถของคุณ

จุดเด่น

  • แทนที่ความเชื่อผิดๆ เป็นความเข้าใจใหม่ที่ถูกสำหรับประกันรถยนต์
  • มีประกันรถยนต์ไว้ ดีกว่ามีแค่ พ.ร.บ.รถยนต์อย่างเดียวแน่นอน
  • ประกันรถยนต์มีหลายประเภทชั้น เลือกตามความคุ้มครองที่คุณต้องการ

สามารถเอาเงินประกันกรณีรถหายได้เต็มจำนวน

เป็นความคิดที่ผิด เพราะโดยปกติแล้วหากรถยนต์ของคุณถูกขโมยหรือสูญหาย บริษัทประกันภัยจะจ่ายในวงเงินประกัน 80% ของราคาเต็ม หรือจ่ายตามทุนประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งก็ต้องแล้วแต่ว่าประกันภัยรถยนต์ของคุณเป็นประเภทไหนด้วย เพราะถ้าหากคุณทำประกันรถยนต์ชั้น 3+ หรือประกันรถยนต์ชั้น 3 ประกันรถยนต์จะไม่ได้คุ้มครองในกรณีรถหาย เมื่อคุณรู้อย่างนี้แล้ว เพิ่มเงินอีกสักหน่อยจะได้รับความคุ้มครองที่เพิ่มเติมมากกว่า ถ้าไม่ต้องการเสียเบี้ยแพงขนาดประกันรถยนต์ชั้น 1 ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2/2+ ก็ให้ความคุ้มครองกรณีรถหายเช่นกัน

เลือกแผนประกันรถยนต์ที่ถูกที่สุดก็คุ้มครองเหมือนกัน

เป็นความคิดที่ผิดอย่างมาก เพราะประกันรถยนต์ที่ถูกที่สุด ย่อมคุ้มครองครอบคลุมน้อยที่สุด เพราะประกันรถยนต์แต่ละชั้นจะแตกต่างตามเบี้ยและทุนประกันภัย ซึ่งแผนความคุ้มครองที่ให้ความคุ้มครองน้อยที่สุดคือ แผนความคุ้มครองกรณีซ่อมเฉพาะรถคู่กรณีเท่านั้นหรือประกันรถยนต์ชั้น 3 นั่นเอง เนื่องจากว่าบริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อยานพาหนะตามเงื่อนไขของบริษัทประกัน ในขณะที่ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกสถานการณ์กับผู้ทำประกันภัย ดังนั้นผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ส่วนใหญ่จะแนะนำแผนประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้กับคุณ ด้วยเหตุที่แผนความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์แต่ละแผนไม่เท่ากัน ดังนั้นหากคุณต้องการได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งยานพาหนะและผู้โดยสารในรถ ราคาจึงไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจในการทำประกันภัยรถยนต์ของคุณ

“เปลี่ยนความเชื่อผิดๆ เป็นการทำความเข้าใจประกันรถยนต์ให้มากขึ้น และเลือกทำประกันรถยนต์ที่ใช่สำหรับคุณ”

ประกันรถยนต์คุ้มครองทรัพย์สินที่ถูกขโมยภายในรถ

เป็นความคิดที่ผิดอย่างมากเช่นกัน เพราะประกันรถยนต์ไม่ได้คุ้มครองทรัพย์สินภายในรถที่ถูกขโมย ทรัพย์สินมีค่าที่คนชอบไว้ในรถส่วนใหญ่ได้แก่ แล็ปท็อป กล้องดิจิตอล โทรศัพท์มือถือ กระเป๋า เป็นต้น ประกันภัยรถยนต์จะให้ความคุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์จากการงัดแงะหรือพยายามขโมยเท่านั้น แต่สำหรับใครที่ต้องการความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมในส่วนนี้เพิ่ม คุณสามารถซื้อแผนความคุ้มครองที่คุ้มครองทรัพย์สินในรถโดยเฉพาะเพิ่มได้ ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกอุ่นใจมากขึ้นเพราะคุ้มครองทั้งรถและทรัพย์สินภายในรถระหว่างเดินทาง แต่ทั้งนี้ก็จะมีเงื่อนไขของทรัพย์สินที่เป็นข้อยกเว้น

อย่าคิดว่าเงินหายแล้วประกันคุ้มครองนะ เพราะอยู่ในเงื่อนไขข้อยกเว้นการคุ้มครอง

ข้อยกเว้นทรัพย์สินภายในรถมีอะไรบ้าง

สำหรับทรัพย์สินภายในรถที่บริษัทประกันไม่รับคุ้มครอง ได้แก่
– เงิน ทอง อัญมณี พระเครื่อง โบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุ
– ต้นฉบับหรือสำเนาเอกสาร แบบแปลน แผนผัง แม่พิมพ์
– วัตถุระเบิด อาวุธต่างๆ
– ทรัพย์สินในการดูแลรักษาของผู้ได้รับความคุ้มครอง ในฐานะผู้รับฝากทรัพย์
– เทป ซีดี ดีวีดี เครื่องเสียง สัญญาณกันขโมย

ในส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถยนต์จากการพยายามขโมย ประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองในส่วนนี้คือ ประกันรถยนต์ชั้น 1 และประกันรถยนต์ชั้น 2/2+ เท่านั้น ประกันรถยนต์ชั้น 3/3+ ไม่ได้ให้ความคุ้มครองในส่วนนี้ เพราะไม่เข้าเงื่อนไขในแผนกรมธรรม์ที่ไม่คุ้มครองกรณีรถหาย หรือไฟไหม้ หรือความเสียหายใดๆ กับตัวรถยนต์ที่มีเหตุเกี่ยวเนื่องมาจากการพยายามขโมย

ประกันรถยนต์ชั้น 1 ทำได้เฉพาะรถใหม่ป้ายแดงเท่านั้น

ความคิดนี้ไม่จริงเสมอไป ถึงแม้ว่ารถที่เพิ่งถอยมาใหม่จากโชว์รูม ทางประกันจะบังคับให้ทำประกันชั้นหนึ่งในช่วงปีแรก เพื่อลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น เพราะรถคันใหม่นั้นย่อมมีค่าใช้จ่ายในการเคลมสูง และบางคนยังผ่อนรถอยู่ จึงต้องทำประกันชั้นหนึ่งไว้สำหรับคุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วมด้วย แต่เอาจริงๆแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่รถใหม่ป้ายแดงอย่างเดียว จะเป็นรถคันเก่า หรือรถที่มีอายุ คุณก็สามารถเลือกทำประกันชั้น 1 ได้เช่นกัน เพียงแต่โดยส่วนมากแล้วการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 มักรองรับรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี แต่ในบางบริษัทมีการอนุโลมได้ถึงรถที่มีอายุ 10-12 ปี แต่ก็ต้องเป็นการพิจารณาควบคู่ไปกับประวัติของผู้เอาประกันด้วยเช่นเดียวกัน อาทิ ประวัติการเคลมประกันรถยนต์ของคุณ หากเป็นลูกค้าประวัติดี ไม่ค่อยมีประวัติการเคลมก็อาจทำให้คุณสามารถเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ต่อไปได้อีก (ส่วนใหญ่จะเป็นการต่อประกันกับบริษัทเดิม) โดยเฉพาะยิ่งถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยชำนาญด้านการขับขี่สักเท่าไหร่ หรือต้องใช้รถเดินทางเป็นประจำ แล้วอยากได้ความคุ้มครองแบบครอบคลุม ประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีที่สุด

เมื่อคุณได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับประกันรถยนต์ใหม่แล้ว หากคุณยังไม่มีประกันรถยนต์ หรือประกันรถยนต์คุณใกล้จะขาดแล้ว หากสนใจ เลือกผ่าน tadoo.co

ผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์

ประเภทของประกันรถยนต์

คู่มือยอดนิยมสำหรับประกันรถยนต์