จัดการหนี้อย่างไรให้มีเงินเหลือถึงสิ้นเดือน
การมีหนี้สินจะไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอีกต่อไป หากมีการบริการจัดการอย่างถูกวิธี และมีวินัยกับตัวเอง
การมีหนี้สินจะไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอีกต่อไป หากมีการบริการจัดการอย่างถูกวิธี และมีวินัยกับตัวเอง
การวางแผนการจัดการหนี้เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ สิ่งแรกที่เราควรทำก็คือ การสำรวจตัวเองว่าคุณมีหนี้สินอะไรบ้าง ใครคือเจ้าหนี้ของคุณ และจำนวนหนี้สินทั้งหมด รวมไปถึงดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย แล้วนำมารวบรวมกันเพื่อให้เราเห็นภาพรวมได้ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับรายได้ หรือเงินเก็บ ว่าเรามีสถานะทางการเงินอยู่ในระดับไหน แต่เห็นตัวเลขแล้วอย่าเพิ่งรีบท้อ เพราะหนี้สินคือเรื่องปกติของคนเราต้องมีหากต้องการยกระดับคุณภาพชีวิต แต่มีแล้วต้องรู้จักบริหารจัดการหนี้ของเราให้ดี ที่สำคัญคือเราต้องทราบว่าหนี้ที่เรามีอยู่เกิดขึ้นจากอะไรเพราะเมื่อทราบต้นตอของนี้แล้ว ก็อาจระงับก็เพิ่มหนี้ใหม่ได้
ทำบันทึกรายรับรายจ่ายว่าในแต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่คุณต้องจ่าย เช่น ค่า น้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน ค่าบริการที่ตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติต่าง ๆ และจดบันทึกหนี้สินต่าง ๆ ทั้งค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถยนต์ ผ่อนบัตรเครดิตทุกใบของคุณ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายจิปาถะ อย่างเช่น ค่ากาแฟ ค่าขนม เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง ซึ่งการทำบันทึกรายรับรายจ่ายนั้นเพื่อให้คุณเห็นพฤติกรรมการจ่ายเงินของคุณ ว่าคุณมีนิสัยในการใช้จ่ายเงินอย่างไร มีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นมากน้อยแค่ไหน และสามารถตัดค่าใช้จ่ายอะไรไปได้บ้าง เพื่อลดค่าใช้จ่ายของคุณและทำให้มีเงินเหลือเพิ่มมากขึ้น
หลังจากที่คุณได้ทำบันทึกรายรับรายจ่ายแล้ว และได้เห็นว่ามีรายจ่ายอะไรบ้างที่ไม่จำเป็น ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องเริ่มปรับนิสัย โดยการลดรายจ่ายต่าง ๆ ที่ฟุ่มเฟือย หรือสามารถทดแทนได้โดยที่ไม่ต้องเสียเงินหรือจ่ายเงินน้อยกว่า อย่างเช่น หากคุณชอบกินกาแฟร้านแพงๆ ก็ลองเปลี่ยนมากินกาแฟในราคาที่ต่ำกว่าดู บางทีมันอาจจะไม่แย่อย่างที่คิดก็ได้ หรือหากคุณชอบกินบุฟเฟ่ต์อาทิตย์ละ 3-4 วัน ก็ลองเปลี่ยนมาเป็นอาทิตย์ละ 1 วัน นอกจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าแล้วยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคอ้วนได้อีกด้วย นอกจากนี้ คุณต้องตรวจสอบบิลเรียกเก็บเงินบัตรเครดิต ดูว่ามีค่าบริการอะไรที่คุณสมัครแบบตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติหรือไม่หากมี ก็ให้คุณรีบดำเนินการยกเลิกในกรณีที่คุณไม่ค่อยได้ใช้บริการ
“อย่าคิดว่าหนี้เพียงเล็กน้อยจะไม่จำเป็นต้องรีบผ่อนชำระก็ได้ เพราะหนี้ก้อนเล็กๆ อาจเพิ่มดอกเบี้ยขึ้นเป็นหลายเท่าหากคุณขาดผ่อนชำระเป็นเวลานานเมื่อถึงตอนนั้นคุณอาจต้องจำใจจ่ายหนี้ที่แพงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
เมื่อคุณทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่ผ่านมาจนถึงขั้นตอนนี้ แน่นอนว่าต่อเดือนคุณจะมีเงินเหลือเพิ่มมากยิ่งขึ้น ให้คุณนำเงินที่เหลือส่วนนี้ไปเพิ่มในการชำระหนี้ โดยเลือกจ่ายเพิ่มให้กับหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน เพื่อไปเพิ่มการชำระในส่วนของเงินต้นให้มากขึ้น ช่วยให้คุณสามารถปลดหนี้นั้นได้เร็วมากยิ่งขึ้นนั่นเอง หรือหากคุณไม่ต้องการโป๊ะหนี้ให้คุณนำเงินในส่วนที่เหลือเพิ่มมากขึ้นนี้ไปเป็นเงินเก็บออม เอาไว้หากมี
เหตุการณ์ฉุกเฉินใด ๆ เกิดขึ้น คุณจะได้มีเงินสำรองเอาไว้จัดการกับปัญหา โดยที่ไม่ทำให้การเงินของคุณต้องพังทลาย ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาเพิ่มทำให้ยิ่งมีภาระมากขึ้นไปอีกโดยไม่จำเป็น
การบริหารจัดการหนี้ที่ดีผ่อนชำระให้ตรงตามเวลา การมีหนี้ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอีกต่อไป
ส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญมาก ห้ามหยุดชำระหนี้เป็นอันขาดหากไม่มีเงินจริง ๆ ให้พยายามจ่ายขั้นต่ำไปก่อน เมื่อได้เงินก้อนเงินพิเศษอย่างเช่นโบนัส ให้รีบนำบางส่วนของเงินนั้นมาปิดหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุด เพราะหากคุณหยุดการชำระหนี้นั้นจะทำให้คุณเสียเครดิต และดอกเบี้ยเพิ่มสูงคุณบางครั้งคุณอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมการติดตามหนี้อีกด้วย
การรีไฟแนนซ์หนี้ควรเป็นทางเลือกที่คุณไม่ควรนึกถึงควรเป็นทางเลือกสุดท้ายจริง ๆ เท่านั้น เพราะมันจะสร้างภาระให้คุณมากกว่าจะช่วยให้คุณปลดหนี้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดในเรื่องการบริหารหนี้ก็คือ ความมีวินัยในเรื่องการเงิน หากคุณไม่สามารถควบคุมตัวเองไม่ให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยได้ คุณจะต้องเป็นหนี้ไปตลอดชีวิต ยามแก่ยามเกษียณที่ไม่ควรต้องทำงาน ก็ยังต้องหาเงินมาใช้หนี้ หลายท่านที่ไม่ค่อยได้ศึกษาเรื่องการเงิน อาจจะคิดว่าการรีไฟแนนซ์หนี้นั้นจะทำให้คุณสบายมากยิ่งขึ้น แต่ต้องขอบอกคุณผู้อ่านตรงนี้เลยว่า แม้มันจะดูเหมือนภาระต่อเดือนสบายยิ่งขึ้น เพราะยอดหนี้ก่อนรีไฟแนนซ์นั้นจะมีดอกเบี้ยรวมอยู่ด้วย หากทำการรีไฟแนนซ์หนี้ ดอกเบี้ยเหล่านั้นจะกลายร่างมาเป็นเงินต้น จะทำให้คุณต้องเพิ่มภาระการผ่อนชำระหนี้เพิ่ม