เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารไหนดีที่สุด Tadoo พร้อมเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยให้คุณได้ทราบและประกอบการตัดสินใจ
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารไหนดีที่สุด Tadoo พร้อมเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยให้คุณได้ทราบและประกอบการตัดสินใจ
อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก คือ อัตราดอกเบี้ยที่คิดเป็นร้อยละต่อปี โดยสถาบันการเงินจะเป็นผู้กำหนดอัตราดอกเบี้ยเหล่านี้และจ่ายให้กับคนที่นำเงินมาฝาก ทั้งนี้ แต่ละสถาบันการเงินหรือธนาคารมีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่แตกต่างกัน แล้วแต่เงื่อนไขการฝากถอนและประเภทของบัญชี
อัตราดอกเบี้ยแต่ละธนาคารไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับข้อเสนอและเงื่อนไขที่ทางธนาคารกำหนด แล้วทำไมเราถึงควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยธนาคาร เหตุผลก็เพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุดให้ตัวเราเอง ดอกเบี้ยเงินฝากมักจะมากับบัญชีเงินฝากประจำซึ่งเป็นประเภทบัญชีที่กำหนดระยะเวลาฝากและถอน หากทำตามเงื่อนไขของธนาคารได้ก็จะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่าบัญชีออมทรัพย์ที่ไม่กำหนดระยะเวลาฝากและถอน
เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะเปิดบัญชีฝากประจำ เราก็ควรเลือกธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่อปีสูงที่สุด เพื่อที่เราจะได้ค่าตอบแทนกลับมาเพิ่มขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ตาม เราควรพิจารณาระยะเวลาที่ต้องฝากด้วยเช่นกันว่าคุ้มค่าหรือไม่กับดอกเบี้ยที่ได้รับ เพราะบัญชีประเภทนี้อาจถอนเงินไม่ได้เลยตลอดระยะเวลาที่กำหนด เราจึงควรเลือกบัญชีเงินฝากที่ได้ผลตอบแทนดีและเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของเรา
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากเปลี่ยนแปลงทุกปี และแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของบัญชี หรือธุรกรรมการเงินต่าง ๆ ก่อนจะเปิดบัญชีโดยเฉพาะบัญชีเงินฝากประจำที่กำหนดระยะเวลาฝากถอน เราจึงควรศึกษาและเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร เพื่อหาธนาคารที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุดกับเรา สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของแต่ละธนาคาร ประจำปี 2020 มีดังนี้
1. ธนาคารไทยพาณิชย์ – อัตราดอกเบี้ยต่อปี 1.40% – ฝากขั้นต่ำ 1,000 บาท
2. ธนาคารกรุงไทย – อัตราดอกเบี้ยต่อปี 1.30% – ฝากขั้นต่ำ 1,000 บาท
3. ธนาคารกรุงเทพ – อัตราดอกเบี้ยต่อปี 1.50% – ฝากขั้นต่ำ 2,000 บาท
4. ธนาคารออมสิน – อัตราดอกเบี้ยต่อปี 1.55% – ฝากขั้นต่ำ 1,000 บาท (ฝากประจำ 12 เดือน)
5. ธนาคารกสิกรไทย – อัตราดอกเบี้ยต่อปี 1.55% – ฝากขั้นต่ำ 1,000 บาท
6. ธนาคารกรุงศรี – อัตราดอกเบี้ยต่อปี 1.55% – ฝากขั้นต่ำ 1,000 บาท
7. ธนาคาร TMB – อัตราดอกเบี้ยต่อปี 0.75% – ฝากขั้นต่ำ 1,000 บาท/ครั้งที่ฝาก
8. ธนาคารธนชาต – อัตราดอกเบี้ยต่อปี 1.35% – ฝากขั้นต่ำ 1,000 บาท
9. ธนาคาร Tisco – อัตราดอกเบี้ยต่อปี 1.50% – ฝากขั้นต่ำ 20,000 บาท
10. ธนาคารเกียรตินาคิน – อัตราดอกเบี้ยต่อปี 1.50% – ฝากขั้นต่ำ 5,000 บาท
11. ธนาคาร CIMB – อัตราดอกเบี้ยต่อปี 1.55% – ฝากขั้นต่ำ 1,000 บาท
12. ธนาคาร ICBC – อัตราดอกเบี้ยต่อปี 1.65% – ไม่กำหนด
13. Bank of China – อัตราดอกเบี้ยต่อปี 1.65% – ฝากขั้นต่ำ 10,000 บาท
14. ธนาคารไทยเครดิต – อัตราดอกเบี้ยต่อปี 1.75% – ฝากขั้นต่ำ 1,000 บาท
ตัวอย่างอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารข้างต้นเป็นเพียงอัตราของเงินฝากประจำแบบปกติ ทั้งนี้ เงื่อนไขและผลตอบแทนต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารกำหนด เราสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้กับธนาคารที่เราสนใจ
“บัญชีเงินฝากอาจกำหนดระยะเวลาฝากประจำ เช่น ฝาก 6 เดือน หรือ 12 เดือน และกำหนดจำนวนครั้งที่สามารถถอนเงินได้เช่นกัน หากทำตามเงื่อนไขได้ก็จะได้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากตามที่ระบุ”
เมื่อเราเปิดบัญชีเงินฝากแล้วฝากเงินเรื่อย ๆ ตามเงื่อนไข ธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยเมื่อถึงกำหนดเวลา อย่างไรก็ตาม แต่ละธนาคารจะมีลักษณะการจ่ายดอกเบี้ยที่ต่างกันขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ แต่โดยทั่วไปจะมีลักษณะการจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากดังนี้
– จ่ายเมื่อครบกำหนดเวลา กรณีนี้คือเราเปิดบัญชีฝากประจำแบบกำหนดระยะเวลาฝาก เช่น ฝากครบ 3 เดือน, 6 เดือน หรือ 12 เดือน เมื่อครบกำหนดระยะเวลานั้นแล้ว ธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยให้เราโดยคำนวณจากเงินฝากที่มี
– จ่ายดอกเบี้ยรายเดือน เงินฝากประจำบางประเภทอาจจ่ายดอกเบี้ยแบบรายเดือน โดยระยะเวลาการฝากเงินและอัตราดอกเบี้ย รวมถึงจำนวนเงินฝากขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของธนาคาร ส่วนใหญ่แล้วธนาคารจะระบุอัตราดอกเบี้ยแต่ละเดือนชัดเจนเพื่อผลประโยชน์ของทุกฝ่าย
รายละเอียดที่มีในเว็บไซต์อาจไม่ละเอียดมากพอ หากคุณสนใจจะเปิดบัญชีเงินฝาก ควรไปสอบถามที่ธนาคารโดยตรงเพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้อง และอาจได้ข้อเสนอที่น่าสนใจกว่า
บัญชีเงินฝากปลอดภาษี คือรูปแบบหนึ่งของบัญชีเงินฝากประจำ ที่ผู้ฝากต้องฝากเงินเป็นจำนวนเท่า ๆ กันทุกเดือน เช่น เราเปิดบัญชีแล้วฝากเงินเดือนแรก 5,000 บาท เดือนต่อ ๆ ไป เราก็ต้องฝาก 5,000 บาท เป็นประจำ จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลา บัญชีเงินฝากประเภทนี้จะให้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากแบบออมทรัพย์ทั่วไป ทั้งยังช่วยสร้างวินัยการออมให้กับเราอีกด้วย เมื่อฝากจนครบกำหนดเวลา เราจะได้เงินก้อนกลับคืนมาพร้อมดอกเบี้ยที่งอกเงย ทั้งนี้ บัญชีเงินฝากประจำบางธนาคารอาจมีเงื่อนไขว่าห้ามถอนเงินก่อนระยะเวลาที่กำหนด ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่ตกลง
กรณีที่คุณเลือกเปิดบัญชีเงินฝากแบบปลอดภาษี คุณก็จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินฝากด้วย เพราะฉะนั้นคุณจะได้รับเงินคืนแบบเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยว ถือเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยและคุ้มค่า อย่างไรก็ตาม ธนาคารส่วนใหญ่จะกำหนดให้ลูกค้าเปิดบัญชีเงินฝากปลอดภาษีเพียงคนละ 1 บัญชีเท่านั้น
การฝากเงินแบบประจำนั้นไม่ควรดูจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วยทั้งระยะเวลาที่ฝาก เงื่อนไข ข้อกำหนด และคำนึงถึงสภาพคล่องทางการเงินของเราด้วยเช่นกัน เงินที่นำมาฝากประจำควรเป็นเงินเย็น หรือเงินที่เราตั้งใจจะไม่ใช้ เพื่อที่เราจะได้ฝากเงินได้ตามเงื่อนไขและได้รับผลตอบแทนกลับมาอย่างที่ควรเป็น หากเรานำเงินหมุนมาฝากประจำ ก็มีโอกาสเสี่ยงที่เราจะไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ ดังนั้น เราจึงควรคำนึงถึงสถานะทางการเงินและความสะดวกของตัวเอง รวมถึงควรพิจารณาความมั่นคงของสถาบันการเงินด้วย