Connect with us

สถานะเครดิตบูโร 42

ปัญหาเกี่ยวกับเครดิตบูโร ติดแบล็กลิสต์ การขอกู้เงินกับสถาบันการเงินต่างๆ ทำอย่างไรจะกู้ผ่าน

สถานะเครดิตบูโร 42 คืออะไร

เครดิตบูโร 42 คือ โอนหรือขายหนี้ของธนาคารให้กับบริษัทต่างๆ เพราะธนาคารหรือสถาบันการเงินจะไม่ตามหนี้ของคุณอีกต่อไป เพื่อให้บริษัทเหล่านี้ดำเนินการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายต่อไปแทน เจ้าหนี้เดิมทำให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิมที่เราเคยเป็นหนี้ โดยสถานะนี้จะติดไปอีก 3 ปี นับจากวันที่หยุดส่งข้อมูล โดยถึงแม้ว่ายอดหนี้จะเป็น ศูนย์บาท แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณยังคงเป็นหนี้อยู่ แต่เเค่เปลี่ยนเจ้าหนี้แทน โดยย้ายมาเป็น บริษัทตามหนี้ หรือบริษัทบริหารสินทรัพย์ แทนที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิมที่เราเคยเป็นหนี้

จุดเด่น

  • โดยเครดิตบูโรจะแก้ไขข้อมูลจากสถานะ 42 โอนหรือขายหนี้ เป็นสถานะ 43 โอนขายหนี้ และชำระหนี้เสร็จสิ้น
  • เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน

หากติดเครดิตบูโร 42 มีผลกู้ขอสินเชื่อหรือการกู้เงินหรือไหม

ในส่วนสำหรับคนที่ติดเครดิตบูโร 42 ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ผ่าน แต่ขึ้นอยู่เงื่อนไขข้อพิจารณาแต่ละธนาคาร เพราะอาจจะมีสถาบันการเงินหรือธนาคารอาจจะปล่อยกู้ให้ บางคนอาจจะผ่าน บางคนอาจจะไม่ผ่าน บางคนประวัติดี บางคนประวัติไม่ดี หรือ รายได้ อาชีพ ก็มีโอกาสนำมาเป็นเกณฑ์พิจารณาของธนาคารได้

หากติดเครดิตบูโร 42 สามารถทำธุรกิจได้ไหม

ในกรณีที่ต้องการทำธุรกิจหรือขายของออนไลน์ แล้วจะเอาบ้านไปกู้ธนาคาร แต่ติดเครดิตบูโร 42 คุณควรไปสอบถามธนาคารที่เป็นหนี้เก่า และสอบถามว่าทำได้ไหม แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้ ต้องรอให้ไม่มีประวัติในการติดบูโรก่อน

“บริษัทติดตามหนี้ไม่ได้เป็นสมาชิกเครดิตบูโร เขาจึงส่งเอกสารข้อมูลมาให้ไม่ได้ เพราะเขาไม่มีหน้าที่ เขาได้แต่แนะนำ และเขาควรแนะนำตั้งแต่ตอนต้น เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด”

ล้างเครดิต บูโร 42 ได้อย่างไร

1. เมื่อเกิดสถานะ เครดิตบูโร 42 นี้เราจะต้องสอบถามไปยังธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิมที่เราเคยเป็นหนี้ สอบถามว่า โอนหรือขายหนี้ให้กับบริษัทตามหนี้หรือบริษัทบริหารสินทรัพย์

2. เราก็ติดต่อเจ้าหนี้ใหม่ เพื่อขอพูดคุยเจรจาชำระหนี้

3. หลังจากนั้นเมื่อชำระหนี้เรียบร้อยแล้วนั้น เราต้องไปแจ้งหรือนำเอาเอกสารรับรองการปิดยอดหนี้ มาแสดงให้บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) เราก็ยังคงอยู่ในสถานะ เครดิตบูโร 42 อยู่เหมือนเดิมถึงแม้จะทำการชำระหนี้ไปแล้วก็ตามดังนั้นเราจะต้องมายื่นให้ทางบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ เพื่อที่ทางบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ

4. ทำการจัดการเคลียร์ข้อมูล ดำเนินการประสานงานตรวจสอบกับสถาบันการเงิน คนที่ขายหนี้ว่าขายจริง คนที่รับชำระหนี้ว่าได้รับชำระจริงและเมื่อได้รับคำชี้แจงจากสถาบันการเงินแล้วบริษัทจะแจ้งผลให้เราได้ทราบโดยจะส่งให้ทางไปรษณีย์ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอของเราตามที่กฎหมายกำหนด

หลังจากยื่นเอกสารหลักฐานเรียบร้อย จะใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 30 วัน

เอกสารที่ต้องเตรียม ยื่นคำร้องขอแก้ไข รหัสสถานะบัญชี

1. แบบคำร้องขอ แก้ไขรหัสสถานะบัญชี ดาวน์โหลดได้ที่ของธนาคาร
2. สำเนาบัตรประชาชน ลงลายมือชื่อ รับรอง “สำเนาถูกต้อง”
3. สำเนาหนังสือยืนยันการชำระหนี้ และปิดบัญชี ต้องลงลายมือชื่อ รับรอง “สำเนาถูกต้อง”
4. สำเนาใบเปลี่ยน ชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี) พร้อมลงลายมือชื่อ รับรอง “สำเนาถูกต้อง”

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Tadoo

ประวัติหนี้เสียในเครดิตบูโรสำหรับลูกหนี้ที่ใช้วิธีหยุดจ่าย หลังจากที่ลูกหนี้หยุดจ่ายหนี้มานานจนครบ 3เดือนแล้ว ก็จะมีประวัติเป็น”หนี้เสีย”(NPL)อย่างเป็นทางการซึ่งก็หมายความว่าลูกหนี้ได้มีสถานะเป็น Blacklist (บัญชีดำ) ในเครดิตบูโรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าหากวันใดที่ลูกหนี้ได้ทำการจ่ายปิดบัญชีหนี้จนหมดแล้ว (โดยไม่สนใจว่าลูกหนี้จะจ่ายปิดบัญชีด้วยวิธีการ Haircut หรือด้วยวิธีการใดๆก็ตาม รวมทั้งการขายหนี้เน่าของลูกหนี้ออกไปด้วย) ลูกหนี้ก็จะต้องติด Blacklist อยู่ต่อไปอีกแค่ 3 ปี เท่านั้น แล้วหลังจากนั้น ประวัติหนี้เสียที่มีอยู่ในเครดิตบูโร ก็จะถูกลบออกไปจนหมดสิ้น

ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ

ประเภทของสินเชื่อ

คู่มือยอดนิยมสำหรับการเงิน