ที่ tadoo.co ให้เปรียบเทียบเบี้ยประกันและความคุ้มครองของประกันชีวิต สุขภาพ ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าห้องฉุกเฉิน วงเงินคุ้มครองเมื่อต้องเคลมประกัน และค่าชดเชยต่าง ๆ แผนประกันมากมายให้คุณเลือก เพื่อหาแผนประกันที่ตรงใจคุณที่สุดในราคาประหยัด เราพร้อมให้ความช่วยเหลือและบริการเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณ แต่ไม่ใช่แค่ประกัน เรายังมีข้อมูลเคล็ดลับความรู้ที่น่าสนใจให้คุณได้ค้นหาอีกเพียบ
คุณสามารถตรวจสอบราคาประกันสุขภาพรายบุคคลผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ได้แล้วที่นี่ เราจะช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มความรวดเร็ว เพื่อให้คุณได้ประกันที่ถูกใจ
เลือกวันเริ่มต้นและกรอกอายุของผู้ทำประกัน
tadoo.co ได้เปรียบเทียบความคุ้มครองให้คุณแล้ว
กรอกข้อมูลให้ถูกต้องและตอบคำถามสุขภาพตามจริง
tadoo.co ได้รวบรวมกรมธรรม์และราคาเบี้ยประกันพร้อมเปรียบเทียบให้คุณแล้ว
15,647 รีวิว
ประกันสุขภาพรายบุคคลมีเงื่อนไขการจ่ายเบี้ยประกันและวงเงินคุ้มครองให้เลือกแตกต่างกัน เพื่อสนองต่อรูปแบบการจ่ายเงินที่ผู้ทำประกันสามารถจ่ายไหว สามารถแยกเป็นประเภทได้ดังนี้ฃ
ประกันสุขภาพรายบุคคลแบบแยกค่ารักษา เป็นประกันสุขภาพพื้นฐานที่คนซื้อประกันส่วนใหญ่คุ้นเคย ในเอกสารกรมธรรม์จะระบุความคุ้มครองพร้อมบอกวงเงินมาที่เคลมได้มาให้ เช่น วงเงินค่ารักษาพยาบาล ค่าห้องพักนอนโรงพยาบาล ค่าห้องฉุกเฉิน ICU และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทางการสาธารณสุข เป็นต้น วงเงินมีทั้งต่อครั้งหรือต่อวันตามแต่บริษัทกำหนด
ประกันสุขภาพรูปแบบที่กำหนดวงเงิน หากค่ารักษาพยาบาลเกินวงเงินในประกัน ส่วนต่างที่เหลือผู้ทำประกันต้องเป็นผู้จ่ายเงินเอง
ประกันสุขภาพรายบุคคลแบบเหมาจ่าย เป็นรูปแบบประกันที่ปรับตามความต้องการของคนยุคสมัยปัจจุบัน เนื่องจากทุกวันนี้ค่ารักษาและค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลมีหลากหลาย ทั้งราคาถูก ไปจนถึงราคาแพงจ่ายไม่ไหว และการรักษาเฉพาะทางก็มีมากขึ้น ทำให้ความคุ้มครองเดิมที่มีอยู่เริ่มไม่ครอบคลุม กลายเป็นว่าเราก็ต้องรับผิดชอบส่วนที่ประกันไม่คุ้มครองนั้นเอง
ประกันสุขภาพรายบุคคลแบบเหมาจ่ายคือ การเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลบางประเภท โดยบริษัทประกันกำหนดเป็นวงเงินค่ารักษาที่เคลมได้สูงสุดต่อปี สูงมาก บางกรมธรรม์ถึงหลักล้านหรืออาจถึงหลักสิบล้าน นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนวงเงินความคุ้มครองบางประเภทให้เป็นการเบิกตามค่าใช้จ่ายจริงซึ่งจะคิดรวมกับค่ารักษาพยาบาลที่เราเหมาจ่ายไปแล้ว
การเหมาจ่ายแบบนี้เป็นการเพิ่มวงเงินความคุ้มครองให้กับเรา แม้เบี้ยประกันจะแพงขึ้นด้วยแต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากว่าการที่เราต้องมาจ่ายส่วนต่างในกรณีฉุกเฉิน
ประกันสุขภาพเหมาะสำหรับทุกคน ทุกเพศ และทุกวัย เพราะอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้นได้กับทุกคน ประกันสุขภาพจะช่วยรองรับความเสี่ยงจากโรคภัยไข้เจ็บไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือสาหัสถึงชีวิต ปัจจุบันประกันสุขภาพมีหลายรูปแบบให้เลือกซื้อ ทั้งแบบแยกค่ารักษา และเหมาจ่าย เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคน
Top tip: ประกันสุขภาพทำตอนอายุน้อยและตอนที่ยังแข็งแรงจะได้กรมธรรม์ที่คุ้มค่าในราคาเบี้ยประกันที่ถูกกว่า
อนุกูล – ผู้ใช้งานจากทางบ้าน
หลายคนอาจจะคิดว่าคนอายุน้อย ร่างกายยังแข็งแรง ไม่จำเป็นจะต้องหาภาระให้กับตัวเองเพิ่มด้วยการซื้อประกันก็ได้ หรือหากเจ็บป่วยก็อาจจะไม่ร้ายแรง สิทธิ์รักษาจากสวัสดิการรัฐหรือของบริษัทก็อาจจะเพียงพอ แต่ในความเป็นจริงนั้นเหตุฉุกเฉินหรือโรคร้ายมักจะมาโดยไม่มีสัญญาณเตือนเสมอและเมื่อถึงเวลานั้น หากคิดจะทำประกันสุขภาพก็อาจจะสายเกินไป
อีกประการหนึ่งคืออายุของผู้ซื้อประกันก็มีผลต่อราคาเบี้ยประกัน เนื่องจากบริษัทใช้เกณฑ์ว่าอายุมาก ความเสี่ยงด้านสุขภาพก็มากตาม สรุปแล้วประกันสุขภาพควรทำตอนไหน คำตอบคือควรทำตอนอายุยังน้อยและยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเพราะนอกจากสิทธิประโยชน์และความคุ้มครองที่ได้จะคุ้มค่าแล้ว เบี้ยประกันก็ยังถูกกว่าทำตอนอายุมากและมีประวัติเป็นโรคร้ายแรงหรือมีโรคประจำตัว
เปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันสุขภาพในช่วงอายุต่าง ๆ จะพบว่าส่วนใหญ่แบ่งช่วงอายุหลักห้าปี สิบปี เช่น 21 – 30 ปี , 36 – 40 ปี และ 46 – 50 ปี อย่างที่ได้บอกไป ยิ่งทำตอนอายุเยอะเบี้ยประกันยิ่งแพง ฉะนั้นเริ่มทำตั้งแต่ตอนนี้ดีที่สุด
แม้ประกันสุขภาพจะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมและช่วยรองรับความเสี่ยงด้านสุขภาพของเราได้เป็นอย่างดีแล้ว แต่เราก็ควรทำประกันอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วยเพื่อความคุ้มครองที่สูงกว่าและคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด
ดูแลทั้งตัวคุณเองและครอบครัว แบ่งเบาค่ารักษาพยาบาล เป็นหลักประกันทางการเงินให้ครอบครัว
คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ให้เงินชดเชย พร้อมเป็นหลักประกันให้ชีวิต
คุ้มครองความเสี่ยงสำหรับแม่และเด็ก เพื่อเจ้าตัวน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลก
คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ชดเชยรายได้ เป็นหลักประกันให้ชีวิต
แม้ประกันสุขภาพรายบุคคลจะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย รวมถึงแบ่งเบาค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับโรงพยาบาลให้เราได้แต่ก็ไม่ทุกกรณี แผนเสริมสำหรับประกันสุขภาพจึงตอบโจทย์ความต้องการที่นอกเหนือจากแผนหลัก
ประกันเสริมคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเคสเจ็บป่วยจากโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต เป็นต้น เหตุผลที่ต้องมีแผนประกันแยก เพราะโรคร้ายแรงไม่อยู่ในขอบเขตความคุ้มครองของประกันสุขภาพทั่วไป สำหรับใครที่กังวลหรือคิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงก็ควรจะทำประกันโรคร้ายแรงไว้เนื่องจากประกันจะช่วยแบ่งเบาภาระการเงินจากค่ารักษา ทั้งยังได้ค่าชดเชยต่าง ๆ อีกด้วย
ประกันโรคร้ายแรงเองก็ยังแยกย่อยออกมาอีก เป็นประกันโรคร้ายแรงสำหรับโรคมะเร็งและโรคมะเร็งผิวหนัง เนื่องจากปัจจุบัน คนไทยป่วยเป็นโรงมะเร็งในอันดับต้น ๆ ในบรรดาโรคร้ายแรง ที่น่ากลัวคือ มะเร็งสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกายและสามารถลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ จึงต้องมีประกันสุขภาพเป็นกรมธรรม์แยกออกมาเพื่อให้ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากโรคมะเร็งมากยิ่งขึ้น
อีกแผนประกันที่ควรซื้อควบคู่ไปกับประกันสุขภาพเพื่อความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด เนื่องจากประกันอุบัติเหตุ เบี้ยประกันค่อนข้างถูก แถมยังช่วยเสริมความคุ้มครองในบางกรณีที่ประกันสุขภาพไม่ครอบคลุม ยิ่งในกรณีที่บาดเจ็บเล็กน้อยและไม่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล ประกันอุบัติเหตุคือคำตอบสำหรับเหตุการณ์เหล่านี้
เป็นประกันประกันชีวิตหลักเพิ่มแผนคุ้มครองสุขภาพเสริมเข้าไป ทำให้เคลมประกันค่ารักษาพยาบาลได้ขณะมีชีวิต ถ้าเสียชีวิตก็จะได้ค่าสินไหมทดแทนหรืออยู่จนครบสัญญาก็จะได้ค่าตอบแทนกลับมานั่นเอง
ข้อดีของประกันสุขภาพพ่วงประกันชีวิต คือ ความคุ้มครอง 2 ชั้น ชั้นแรก เป็นหลักประกันให้ชีวิต ชั้นสอง คุ้มครองสุขภาพของเราไปพร้อม ๆ กัน ข้อดีของประกันชนิดนี้คือเสี่ยงที่จะถูกยกเลิกกรมธรรม์น้อยกว่าเนื่องจากเป็นประกันระยะยาวและวงเงินสูง
ทั้งนี้ ประกันสุขภาพพ่วงประกันชีวิตจะจ่ายเบี้ยประกันเป็นรายปีและราคาแพงกว่าเบี้ยประกันสุขภาพทั่วไปก็จริง แต่เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่ได้รับก็ถือว่าคุ้มค่าเนื่องจากราคาแพงกว่ากันไม่มากแต่เพิ่มความคุ้มครองเป็นเงินประกันที่สร้างความมั่นคงให้กับชีวิตและคนที่เรารักได้
ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณว่าจะทำหรือไม่ เพราะประกันกลุ่มอาจคุ้มครองค่าใช้จ่ายพื้นฐานแล้วแต่เราก็อยากแนะนำให้คุณทำประกันสุขภาพรายบุคคลเพิ่มด้วยเพื่อความคุ้มครองที่ครอบคลุมกว่า
เงื่อนไขนี้อยู่ที่บริษัทกำหนด แต่บริษัทประกันหลายแห่งก็ได้ลดขั้นตอนนี้ลงไปแล้วเหลือเพียงการตอบคำถามสุขภาพเท่านั้นเพื่อความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
สามารถยกเลิกได้แต่ต้องแจ้งเจตจำนงภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับกรมธรรม์ โดยจะถือว่าประกันยังไม่มีผลบังคับใช้และบริษัทประกันจะคือเบี้ยประกันให้ตามตกลง